“เนชั่น กรุ๊ป” ยกทัพสื่อในเครือ เกาะติดเลือกตั้ง 66 วันชี้ชะตาอนาคตประเทศ

เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2566 เครือเนชั่น ประกาศความพร้อม กางยุทธศาสตร์ผนึกกำลังสื่อในเครือ ร่วมกับ ภาคีพันธมิตรชั้นนำระดับประเทศ แถลงข่าวความร่วมมือโครงการ "Road to The Future : เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย" เพราะ "การเลือกตั้ง" ของประเทศไทย ที่จะเกิดขึ้นในเดือนพ.ค. นี้ ถือว่าเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย ทั้งนี้ หลังจากทั่วโลกเพิ่งผ่านจุดวิกฤติมหันตภัยโรคร้าย "โควิด-19" ส่งผลให้ โครงสร้างสังคม เศรษฐกิจและวิถีชีวิต เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ประเทศไหน เข้าใจ ปรับตัว วางกลยุทธ์ ได้เร็ว และตรงจุด ย่อมได้เปรียบในการแข่งขัน บ่งชี้ความอยู่รอดของประเทศ

• "Geopolitics" เป็นอีกตัวแปร และความท้าทายของผู้นำทั่วโลก ว่าจะวางกลยุทธ์อย่างไร ในภาวะภูมิรัฐศาสตร์ โลกแบ่งขั้ว
• "Sustainability" ทั้งโลกกำลังเคลื่อนมาทางนี้ ทุกประเทศ ถูกกดดัน ให้ปรับตัว วางกติกา ซึ่งเป็นพันธกิจของภาครัฐ และเอกชน ต้องเข้าใจ และทำงานร่วมกัน
• "Road to The Future: เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย" จึงเป็นมากกว่าการเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้ง ครั้งนี้ เป็นการกำหนดอนาคตประเทศ

 

ทั้งนี้ จะเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันสื่อมืออาชีพ สถาบันวิชาการชั้นนำของประเทศ คณาจารย์ และนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญในด้านการวิเคราะห์บิ๊กดาต้า องค์กรอิสระ และภาคเอกชน ที่เล็งเห็นปัญหาและตระหนักถึงผลลัพธ์ของการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า มีความสำคัญอย่างยิ่ง  พร้อมแสดงเจตนารมณ์ในการเป็นสื่อกลางสนับสนุนการเมืองสุจริต รวมพลังขับเคลื่อนอนาคตประเทศไทยให้ดียิ่งกว่า

นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า หมุดหมายสำคัญในโครงการ "Road to The Future : เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย" เป้าหมายไม่ใช่แค่รายงานข่าวว่า การเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร แต่เนชั่นต้องการสื่อให้เห็นว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นตัวกำหนดอนาคตประเทศ สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ

เราในฐานะองค์กร "สื่อ" ที่มีศักยภาพในด้านการสื่อสาร จึงต้องทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง นำเสนอข้อมูลให้หลากหลาย ข่าวสารที่ถูกต้องที่สุด และออกสู่สาธารณชนมากที่สุด ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้ง จนถึงวันเลือกตั้ง เพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของสังคม อันมีหน้าที่ "ร่วมกัน" กำหนดชะตากรรมของตัวเอง และประเทศชาติ ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างแนวร่วมอันเข้มแข็ง จับมือกับภาคีพันธมิตรผนึกกำลังขับเคลื่อนให้การเลือกตั้งสุจริต อยู่ภายใต้กฎกติกา เพราะถ้าการเลือกตั้งไม่อยู่ในกติกา ไม่ยุติธรรม มีการเล่นนอกระบบประชาธิปไตย อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นได้ตลอดเวลา ทำให้ประเทศถอยหลัง ไม่พัฒนาไปข้างหน้า

"การเลือกตั้ง ไม่ใช่เรื่องของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนพึงตระหนักรู้ว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นตัวกำหนดชะตากรรมชีวิตของตนเอง และอนาคตของประเทศชาติ รวมถึงลูกหลานของเราในภายภาคหน้า โครงการนี้ เนชั่น ได้ลงทุนในเรื่องของโพล, Data Visualization และการซื้อสื่อนอกบ้าน (OOH media) เพื่อให้การนำเสนอข้อมูลเลือกตั้งในครั้งนี้ เชื่อถือได้มากที่สุด ลึกที่สุด เข้าถึงสาธารณชนมากที่สุด" นายฉาย กล่าว

สำหรับภาคีเครือข่าย โครงการ “Road to The Future : เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย” ประกอบด้วย สถาบันพระปกเกล้า สถาบันที่ร่วมจัดทำเนชั่นโพล องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โดยมีตัวแทนร่วมแถลงรายละเอียดดังนี้

สถาบันพระปกเกล้า องค์กรพันธมิตรที่สนับสนุนข้อมูลการเลือกตั้งงานวิจัยเกี่ยวกับการเลือกตั้ง “ตระกูลการเมือง” และทำรายการร่วมกันในคอลัมน์ “สแกนบ้านใหญ่” รวมถึงมีผลสำรวจ Pre-Election ที่จะเปิดเผยกับเนชั่นเป็นที่แรก โดย ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้าฯ และพิธีกรคอลัมน์สแกนบ้านใหญ่ ออกอากาศสัปดาห์ละ 2 ตอน ทางเนชั่นทีวี 22 กล่าวว่า

ต้องยอมรับว่าการเลือกตั้งรอบนี้คำว่า "บ้านใหญ่" มันกลับมา อย่างน้อยๆ ในมุมของพรรคการเมืองต่างๆวันนี้พรรคไหนที่แสดงออกถึงความมั่นใจทางการเมือง ว่าจะได้แลนส์สไลด์ จำนวนเป็น 100 จำนวนหลาย 10 ล้วนเป็นเพราะว่า เขามีความมั่นใจว่า เขามีความมั่นใจเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ที่เรียกว่าบ้านใหญ่ในจังหวัดต่างๆ แล้ว จึงกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เราได้เห็นปรากฎการณ์ว่า มีการผูกมิตร ผูกสัมพันธ์ มีการโยกย้ายถ่ายเทผู้คน ที่เป็นกลุ่มบ้านใหญ่ตระกูลดัง ในจังหวัดต่างๆ เข้าสู่พรรคการเมืองขนาดใหญ่ที่หวังผลทางการเมือง แปลว่า อันดับที่หนึ่ง เราต้องสนใจ เพราะว่าพรรคการเมืองเค้าประเมินว่า นี่คือปัจจัยที่จะทำให้พรรคเค้าประสบความสำเร็จ ส่วนจะประสบความสำเร็จหรือไม่ อีกเรื่องหนึ่ง

สำหรับการเมือง เรื่องบ้านใหญ่ ที่ยังคงอยู่ในระบบการเมืองไทย อ.สติธร ระบุว่า ถ้าไปสแกนดูจะรู้ว่าบ้านใหญ่ ได้มีพัฒนาการของตัวเอง ยังมีบ้านใหญ่จำนวนไม่น้อย ปัจจุบันที่กลายสภาพเป็นบ้านใหญ่ที่ดูรกร้าง เงียบเหงา ผู้คนที่เคยไปมาหาสู่เริ่มถอยห่าง แต่มีบ้านใหญ่จำนวนไม่น้อยที่ปรับปรุงใหม่ รีโนเวทใหม่ โอ่โถง กว้างขวาง ทันสมัย มีผู้คนเข้าออกมากมาย ถึงน่าจับตาว่าบ้านใหญ่เค้าไม่ได้อยู่เฉยก็มี ดังนั้นจึงเป็นที่เย้ายวนใจบรรดาพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะไปดีลด้วย ที่จะต้องช่วงชิงคนกลุ่มนี้ 

สำหรับเนชั่นโพล ผศ.เชษฐา ทรัพย์เย็น ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ผู้อำนวยการเนชั่นโพล กล่าวว่า เนชั่นโพล ได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อตอนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ปี 2565 ครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่อง ซึ่งในเนชั่นโพลรอบที่แล้ว เป็นผลโพลที่แม่นมาก ในเรื่องลำดับ หรือซีเควนคนที่ได้อันดับ 1-2-3 ซึ่งเราสวนกับโพลหลายสำนัก เหตุเนื่องจากวิธีทำโพล มีกลุ่มตัวอย่างมากพอ ในครั้งนี้ ผู้บริหารเนชั่นก็เห็นความสำคัญ เราไม่อยากให้ประชาธิปไตยอยู่แค่ 3 นาที แต่ต้องมีการปูพื้นฐานมาตลอด 

รอบนี้ถือว่าเป็นรอบที่น่าตื่นเต้นมาก เพราะเราจะทำเนชั่นโพล 2 รอบในปี 2566 นี้ ซึ่งทั้ง 2 รอบ จะมีกลุ่มตัวอย่างที่จัดเก็บตามหลักวิชาการร่วม 150,000 ตัวอย่าง โดยเฉพาะรอบที่สอง ชัดเจนมาก นโยบายของผู้บริหารเนชั่น ให้ลงเก็บตัวอย่างทั้ง 400 เขตเลือกตั้ง 

จำนวนรอบสอง 110,000 ตัวอย่าง สรุปสองรอบ 150,000 ตัวอย่าง รับรองว่าไม่มีใครทำได้ และใรกระบวนการในทางวิธีวิทยา เราได้ทำตามหลักของการเก็บตัวอย่างชัดเจน เช่น หลายสำนักใช้วิธีเก็บทางโทรศัพท์ แต่เนชั่นโพลให้ความสำคัญกับกลุ่มตัวอย่างทุกกลุ่ม ที่อยู่ในพื้นที่ประเทศไทยทั้ง 400 มีโอกาสถูกหยิบขึ้นมาเท่าๆ กัน เราจึงใช้วิธีการสุ่มตามหลักมาตรฐาน และส่งคนลงไปเก็บนะจุดนั้น อาสาสมัครของเราเกิน 1,000 คน ในที่ต่างๆ

ที่สำคัญเราได้ทำโปรแกรมหนึ่งขึ้นมา เป็นการรีพอร์ตแบบเรียลไทม์ เพื่อให้รู้ว่ามีความโปร่งใสมากในการเก็บ ทางผู้บริหารเนชั่นสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้เลยว่า ณ วันนี้เก็บดาต้าได้เท่าไหร่แล้ว หลังจากนั้นจะนำมาประมวลผล ด้วยโปรแกรมที่มีมาตรฐาน และจะบอกได้หรือว่า Error หรือค่าผิดพลาดเท่าไหร่ ค่ามาตรฐานเท่าไหร่ และแต่ละพื้นที่ ใครมาใครไม่มา

อย่างพื้นที่ 33 เขต กทม.ซึ่งแข่งขันที่สูงที่สุดในบรรดา 400 เขตทั่วประเทศ เราจึงให้ความสำคัญมากว่า จะต้องมีค่า Error ที่ต่ำมากๆ ระดับ 3% ต่อเขต เฉพาะใน กทม.เราจึงเก็บตัวอย่างเกือบ 40,000 ตัวอย่าง ความแม่นยำจึงค่อนข้างสูง ตรงนี้เรามีเครือข่ายที่ร่วมจัดทำเนชั่นโพล ทั้งมหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษาที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ 

1.มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช (นมร.) 
2.สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา(IFD) ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำโพลมา 20 ปี กับหน่วยงานต่างๆ มากมาย ทั้งระดับชาติ และนานาชาติ 
3.มหาวิทยาลัยกลุ่มราชภัฎราชภัฎ สำคัญมาก มีอยู่ 38 แห่งทั่วประเทศ ตัวแทนคือคณะครุศาสตร์  มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์  
4.กลุ่มราชมงคล มหาวิทยาลัยราชมงคลจะมี 9 แห่งทั่วประเทศ และมีตัวแทนคือคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ  
5. ภาคใต้เป็นภาพสำคัญมาก เนื่องจากน่าจะเป็นภาคที่แบ่งถูกแบ่งเค้กมากที่สุด เราจึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษ มีมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องโดยตรง ที่มาร่วมคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ซึ่งอยู่ใจกลางภาคใต้ 
6. ที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย (ทปสท.) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเป็นตัวแทนคณาจารย์ทั้งหมด 48 แห่งทั่วประเทศ ที่จะมาร่วมกันผลักดันรอบนี้

ฉะนั้นจึงมั่นใจได้ว่า เนชั่นโพลรอบนี้ เข้มข้น กลุ่มตัวอย่างมากที่สุด และน่าจะเป็นประวัติศาสตร์ใหม่ของทีวีการเมืองไทย

สำหรับแผนในการเผยแพร่ผลสำรวจ 2 ครั้ง ช่วงแรกหลังจากเสร็จสิ้นการรับสมัคร ส.ส.เขต นับไปอีก 3 วัน จึงจะเก็บ เพื่อให้รายชื่อส.ส.ลงไปสู่ในเขตก่อน เราใช้เวลาเก็บประมาณ 5 วัน แล้วจะรายงานผล ประมาณช่วงกลางเดือนเมษายน คือรอบที่หนึ่ง ส่วนรอบที่สอง สำคัญสุดเพราะจะมีกฎระเบียบ กกต.มาเกี่ยวข้องห้ามสื่อรายงานผลก่อน 7 วัน ซึ่งเมื่อทราบวันเลือกตั้ง เราก็จะรายงานผลประมาณวันที่ 8-9 เพื่อให้ข้อมูลไปถึงประชาชนทั่วถึง ตามหลักวิชาการ 

ด้าน ดร.มานะ นิมิตรมงคล  เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ระบุว่า ที่ผ่านมาหลายๆปี คอร์รัปชันบ้านเราอยู่ในภาวะที่เลวร้ายมาก ล่าสุดเมื่อ 8 มี.ค.66 มหาวิทยาลัยหอการค้าร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ และมูลนิธิเพื่อคนไทย ได้เผยแพร่รายงานการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนว่า ในสายตาประชาชนเรื่องอะไรที่เป็นปัญหา ที่ประสบ แล้วเรื่องอะไรที่ประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง 

อันดับ 1 ใน 3 ก็คือปัญหาคอร์รัปชัน ซึ่งสะท้อนออกมาชัดเจนว่า ยังเป็นวิกฤติ แต่สิ่งที่เรารู้กันดี ก็คือนักการเมืองคือยอดปิรามิดของคอร์รัปชันในประเทศไทย ฉะนั้นจึงถือเป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยกำลังจะมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ ก็เป็นความหวังของประเทศไทย ว่าเราคงจะก้าวคนช่วงเวลาของการเมืองที่เต็มไปด้วยการแบ่งพรรคแบ่งพวก และการแบ่งผลประโยชน์ที่เอาเปรียบบ้านเมือง เอาเปรียบประชาชน

จากตรงนี้ เราหวังว่าคงจะเข้าสู่ยุคที่ประชาชนได้เลือกนักการเมืองรุ่นใหม่เข้ามา ตั้งใจบริหารบ้านเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้า แต่ตรงนี้จะเป็นไปได้ ก็ต้องรวบรวมความเห็นของประชาชน และเราจะพยายามเอาข้อมูลที่เกี่ยวกับคอร์รัปชันเกี่ยวกับนักการเมืองเผยแพร่ออกมาให้ประชาชนได้ทราบมากที่สุด เพราะฉะนั้นในโอกาสนี้ ข้อมูลทั้งหมดมันจะฟ้องประชาชน เราก็หวังว่าโครงการของเครือเนชั่น จะนำพาข้อมูลที่เป็นความจริง ฟ้องให้ประชาชนได้เห็น และตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ออกมา

โครงการ "Road to The Future : เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย" ได้รับความร่วมมือจาก สถาบันพระปกเกล้า องค์กรพันธมิตรที่สนับสนุนข้อมูลการเลือกตั้ง งานวิจัยเกี่ยวกับการเลือกตั้ง "ตระกูลการเมือง" และทำรายการร่วมกันในคอลัมน์ "สแกนบ้านใหญ่" รวมถึงมีผลสำรวจ Pre-Election ที่จะเปิดเผยกับเนชั่นเป็นที่แรก 

คณาจารย์ และสถาบันที่ร่วมจัดทำ "เนชั่น โพล" ได้แก่ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช (นมร.) สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา (IFD) มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย (ทปสท.) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) พันธมิตรผู้เป็นแกนหลักสำคัญ ในการสร้างความตื่นตัว และความเข้าใจในภาคประชาชน สนับสนุนประชาธิปไตยสีขาว บุญมีแล็บ วีวิส ไวซ์ไซท์ และแพลนบี

โดยวางยุทธศาสตร์ ปูพรมสื่อทุกแพลตฟอร์ม ผ่านการซินเนอร์ยีของสื่อในเครือ และพันธมิตรอย่างสมบูรณ์แบบ

1. กิจกรรม : เวทีดีเบตนโยบายของผู้นำหรือตัวแทนของพรรคการเมืองต่างๆ รวม 9 เวที

• อนาคตประเทศไทย “Economic Drives” วันที่ 9 ก.พ.2566
• อนาคตประเทศไทย “SME จะไปทางไหน?” วันที่ 15 ก.พ.2566
• อนาคตประเทศไทย “นวัตกรรมขับเคลื่อนประเทศ” วันที่ 7 มี.ค.2566
• อนาคตประเทศไทย “Soft Power ความฝัน หรือ ความจริง?” วันที่ 14 มี.ค.2566
• เวทีดีเบต ณ ลานโอเปร่า จังหวัดนครราชสีมา วันที่ 11 มี.ค.2566
• เวทีดีเบต ณ สวนสาธารณะ เมืองสงขลา จังหวัดสงขลา  วันที่ 25 มี.ค.2566
• เวทีดีเบต ณ ศาลากลางเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี  วันที่ 8 เม.ย. 2566
• เวทีดีเบต ณ ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 22 เม.ย.2566
• เวทีดีเบต ณ ลานพาร์ค พารากอน กรุงเทพมหานคร เดือนพฤษภาคม 2566

2.เนชั่นวิเคราะห์ และเนชั่น โพล

"เนชั่น วิเคราะห์" เป็นการวิเคราะห์แบบเจาะลึก โอกาสของพรรคการเมือง 400 เขตเลือกตั้ง พรรคไหนจะมี ส.ส.แต่ละจังหวัด แต่ละพรรคจะมี ส.ส.เขต รวมกี่ที่นั่ง จะมีการรายงานออกมา 2 ครั้ง ในเดือนเมษายน ดำเนินการโดยกองบรรณาธิการเครือเนชั่น ซึ่งมีจำนวน 10 สื่อ ซึ่งเป็น ‘คณะทำงาน’ ที่มีประสบการณ์ เข้าใจการเมืองเป็นอย่างดี  มาประเมิน และวิเคราะห์

"เนชั่น โพล" เป็นการสำรวจ 400 เขตเลือกตั้ง ตามหลักวิชาการ เป็นความร่วมมือระหว่าง เนชั่น กรุ๊ป และ คณาจารย์ สถาบันวิชาการ และนักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านการทำโพลเลือกตั้ง จัดทำโพลรายงานทั้งหมด 2 ครั้ง เป็นโพลที่มีความน่าเชื่อถือ แม่นยำที่สุด และ Sample size ที่ใหญ่ที่สุดมากกว่า 150,000 ตัวอย่าง

3. รื้อผัง ปรับเนื้อหา "Nation TV ช่อง 22"

ตั้งแต่เดือนมีนาคม เป็นต้นไป เนชั่นทีวี จะมีการเพิ่มช่วงเวลา บทวิเคราะห์ และความเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง ในรายการข่าวต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นช่องทางให้ข้อมูล แก่ประชาชนมากที่สุด

1 เดือนสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง จะเพิ่มรายการพิเศษ Nation Insight: Special ออกอากาศจันทร์-ศุกร์ เวลา 07.30 - 08.00 น. ดำเนินรายการ โดย 3 บรรณาธิการข่าวอาวุโส วีระศักดิ์ พงศ์อักษร บากบั่น บุญเลิศ และ สมชาย มีเสน เริ่มวันที่ 3 เม.ย. - 12 พ.ค.2566

7 พ.ค.2566 "วันเลือกตั้ง" จะมีการปรับผังใหม่ "Nation Election" รองรับการเลือกตั้ง ตั้งแต่เวลา 06.00 - 24.00 น. เพื่อเกาะติดทุกความเคลื่อนไหว รายงานผลคะแนน และบทวิเคราะห์เจาะลึกแนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

4.ปูพรม 10 สื่อในเครือ ปรับเนื้อหา เพิ่มช่องทาง สื่อออนไลน์ และหนังสือพิมพ์ จะมีหน้า "พิเศษ" เพิ่มเนื้อหารองรับการเลือกตั้ง

5.Nation Group x Boonmee Lab จัดทำ Data Visualization รายงานข้อมูลการเลือกตั้ง โพล และผลเลือกตั้ง ย่อยข้อมูลระดับประเทศให้เห็นชัด สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ฉับไวผ่าน Infographic เพิ่มการเข้าถึง และการมีส่วนร่วมทุกช่วงวัยของคนในสังคมมารวมพลังเดินหน้าขับเคลื่อนอนาคตประเทศไทย เกาะศึกการเลือกตั้งครั้งสำคัญ ใน "Road to The Future: เลือกตั้ง 66 อนาคตประเทศไทย" ติดตามข่าวสารแม่นยำ ฉับไว เชื่อถือได้ ผ่านทุกสื่อในเครือเนชั่น

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์