ประชานิยมต้องบอกเงื่อนไข! กกต.เผยเรียก "เพื่อไทย" แจงเงินดิจิทัลใน 7 วัน
เลขา กกต.แจงปมเรียก “เพื่อไทย” แจงนโยบาย “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ใน 7 วัน เหตุยังไม่ชี้แจงที่มาของงบที่ใช้ ชี้ไม่ว่าประชานิยมแบบใด ตามเงื่อนไขต้องบอกให้ประชาชนรู้ก่อนตัดสินใจ– ขอโทษประชาชนเจอปัญหาระบบลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าล่ม ยอดล่าสุด 2.4 ล้าน
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2566 ที่โรงแรมทีเค. พาเลซ & คอนเวนชั่น กทม. นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีเกิดปัญหาระบบล่ม ในการลงทะเบียนเลือกตั้ง 2566 ล่วงหน้าเมื่อคืนวันที่ 9 เม.ย. ว่า ต้องขอโทษประชาชนที่พบปัญหาระบบหน่วงตั้งแต่ 21.00 น. ปกติแล้วระบบสามารถรองรับผู้ใช้งานได้ 4,000 คนต่อ 1 วินาที แต่เมื่อคืนอาจจะมากกว่านั้นจึงทำให้เกิดปัญหา ทางสำนักทะเบียนพยายามแก้ไข โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ดำเนินการประสานไป ถ้ามีคนที่ลงทะเบียนแล้วค้างอยู่ในระบบ ให้แจ้งว่าได้มีการลงเลือกตั้งพื้นที่ใด เนื่องจากการลงใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ายังไม่สมบูรณ์ จะมีการอำนวยความสะดวกให้ จะดูแลไม่ให้เสียสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งจนถึงขณะนี้ กกต. ยังอยู่ระหว่างการแก้ไขและไม่สามารถตอบได้ว่าจะขยายเวลาลงทะเบียนหรือไม่
นายแสวง กล่าวอีกว่า ส่วนตัวเลขลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขต และนอกราชอาณาจักร ขณะนี้ได้รับรายงานว่า มีผู้ลงทะเบียนมาแล้วกว่า 2.4 ล้านคน และตอนนี้ยังกรอกรายละเอียดลงในระบบไม่ครบ คาดการณ์ว่าตัวเลขผู้ลงทะเบียนจะใกล้เคียงกับเมื่อการเลือกตั้ง 2562 ที่ผ่านมา ที่ 2.6 ล้านคน พร้อมคาดว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิร้อยละ 80
ส่วนการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร กกต. มีการประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ การท่าอากาศยานไทย กรมการกงสุล ซึ่งก็ต้องเห็นใจทางกระทรวงการต่างประเทศ และผู้ขอใช้สิทธิเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เพราะการบริหารจัดการค่อนข้างลำบากประชาชนกว่าจะได้ใช้สิทธิต้องเสียเวลาค่อนข้างมาก ส่วนเรื่องของการนำบัตรกลับมานับยังประเทศไทย มีการซักซ้อมกับกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งสถานทูตไทยในบางประเทศรับผิดชอบดูแลหลายประเทศ แต่ด้วยที่เรามีบทเรียนจากการเลือกตั้งครั้งก่อนก็คิดว่าจะไม่ให้เกิดเหตุนำบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรมานับไม่ทันอีก เวลานี้กระทรวงการต่างประเทศก็หาวิธีเพื่อให้นำบัตรกลับมานับพร้อมกันในวันเลือกตั้งให้ได้ทุกบัตร
นายแสวง กล่าวถึงกรณีที่ให้พรรคเพื่อไทยชี้แจงที่มาของเงิน หลังประกาศนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล คนละ 10,000 บาท ภายใน 7 วัน เพราะยังไม่ได้บอกที่มาของเงิน ซึ่งตามเงื่อนไขจะต้องบอกเพื่อเป็นข้อมูลให้ประชาชนตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายประชานิยมแบบใด ถ้าไม่มีข้อมูลรายละเอียด อาจเข้าข่ายขัด พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. 2561 แต่ขณะนี้ยังไม่ถือว่ามีความผิด เพราะการไม่แจ้งไม่ถือว่าผิด
ส่วนที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่น ให้กกต. ตรวจสอบ ว่านโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลหมื่นบาท จะเข้าข่ายสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้ และเป็นการหลอกลวงหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ตามข้อห้ามในมาตรา 73(1) และ (5) แห่ง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.2561 หรือไม่นั้น นายแสวง กล่าวว่า เป็นสิทธิที่จะดำเนินการได้