‘ประยุทธ์’เตรียมขอ กกต.อนุมัติช่วยค่าไฟ ปชช. ถก ก.พลังงานรื้อโครงสร้าง
'ประยุทธ์' เตรียมขอ กกต.อนุมัติ ช่วยเหลือค่าไฟประชาชน เผยหารือกระทรวงพลังงาน เล็งรื้อโครงสร้างระบบพลังงานใหม่ ยอมรับไม่สบายใจประชาชนเดือดร้อน ยันไม่มีการอุ้มนายทุน
ค่ำวันนี้ (20 เม.ย. 66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวนโยบาย และยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์เลือกตั้งว่า มีความห่วงใยเยาวชน โดยเฉพาะเยาวชนอายุ 18 ปี ที่กำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้ง ที่ขณะนี้มีการหาเสียงในรูปแบบต่างๆ ยืนยันว่าตอนนี้ตนเองไม่กลัวใคร ยิ่งเป็นนักการเมืองแล้ว ยิ่งไม่กลัว ถ้ากลัวก็ไม่เข้ามาในสนามนี้
ตนเองมีความมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ในการหาเสียงเลือกตั้ง ยืนยันว่าจะลงพื้นที่ทุกวัน โดยจะใช้กลยุทธ์เดินพบปะประชาชนและขึ้นเวทีปราศรัย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่าปัจจุบันได้รับเสียงสะท้อนมากเกี่ยวกับปัญหาค่าไฟฟ้าที่มีการปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งตอนนี้รัฐบาลกำลังแก้ไขอยู่ ยอมรับว่าตนเองมีความกังวลในเรื่องนี้ ส่วนวิธีการแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง คือเรื่องของโครงสร้างพลังงานที่ต้องปรับปรุง ขณะนี้ได้สั่งการไปแล้วว่า สิ่งไหนทำได้แล้วไม่ผิดสัญญา จำเป็นต้องรื้อใหม่ ซึ่งต้องมีการหารือกันอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการทบทวนเรื่องค่าไฟฟ้าในเดือนพฤษภาคมนี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เนื่องจากได้มีการประกาศค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่าเอฟทีล่วงหน้าไว้แล้ว ดังนั้นต้องย้อนกลับไปดูว่า ค่าเอฟทีเพิ่มขึ้นเพราะอะไร ต้องขอดูต้นทางก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพลังงานส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ เช่นเดียวกับน้ำมันร้อยละ 80-90 ก็นำเข้าก็มาจากต่างประเทศ ซึ่งมีการปรับขึ้นราคาทั้งหมด
ดังนั้น ต้องไปดูในเรื่องค่าบริหารจัดการและภาษี รวมถึงความเสี่ยง ยอมรับที่ผ่านมาได้มีการดูแลประชาชนไปแล้วนับแสนล้านบาท ทั้งเรื่องราคาน้ำมัน แก๊ส และไฟฟ้า ซึ่งยอมรับว่าตอนนี้ได้มีการหารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงานไปแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อจะแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ จึงขอให้ทุกคนเข้าใจ
ปัญหาด้านพลังงานนั้น มีปัญหาทุกประเทศไม่ใช่แค่ประเทศไทย ดังนั้นโครงสร้างพลังงานในประเทศก็ต้องมาปรับแก้กัน เพราะเป็นทั้งสัญญา และสัมปทานที่มีหลายหน่วยงานมาเกี่ยวข้อง ซึ่งทั้งหมด จะมีการหารือในระดับหน่วยงาน ก่อนที่จะมีการเสนอมายังตนเอง ซึ่งตนเองจะต้องตัดสินใจว่าจะดำเนินนโยบายไหน ต้องมาดูโครงสร้างโดยเฉพาะการลดต้นทุน โดยได้เน้นย้ำให้ดูแลทั้งหมดทุกภาคส่วน
นายกฯ ย้ำว่า จะดูแลเพื่อให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้มันดีขึ้นก็ต้องช่วยกันทำ โดยจะต้องไม่มีใครมาหาผลประโยชน์ในจุดนี้ ซึ่งตนเองมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นมือกฎหมาย ดังนั้นต้องมาดูสัญญา กฎหมายที่เสียเปรียบ
ยอมรับว่าเป็นห่วงประชาชน และไม่สบายใจที่ประชาชนเดือดร้อน ทั้งเป็นห่วงและรัก ยืนยันว่าไม่มีการอุ้มนายทุน ซึ่งการประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้า เป็นแนวการประกอบธุรกิจใหม่ทั้งสิ้น ไม่ใช่โรงไฟฟ้าแบบเดิม เนื่องจากทุกอย่างมีสัญญา โดยโรงไฟฟ้าถ่านหินและลิกไนต์จะหมดอายุแล้ว ก็จะเปลี่ยนมาใช้แก๊ส ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ และหลังจากนี้การใช้พลังงานก็จะเป็นแบบระบบหมุนเวียน และโรงไฟฟ้าที่ลดโลกร้อน ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนเปลี่ยนผ่าน โดยเฉพาะโรงไฟฟ้าหมุนเวียนที่กำลังจะเติบโตรองรับเศรษฐกิจใหม่ ตอนนี้จะต้องหาเงินไปดูแลประชาชน โดยจะต้องเสนอไปยัง กกต. เพื่อใช้งบประมาณในการดูแล ซึ่งจะต้องเสนอเข้า ครม.เลยหรือไม่ ขอให้รอก่อนกำลังพิจารณาอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กิจกรรมตั้งแต่ช่วงเย็นวันนี้ นายกฯ และแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรค นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค และสมาชิกพรรค ได้ลงพื้นที่สวนลุมพินี เพื่อพบปะกับประชาชน จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังถนนเยาวราช พบปะพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่ออกมาจับจ่ายใช้สอยในที่ตลาดเยาวราชในช่วงเย็น
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมทีมงานเดินหาเสียง ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็นำโต๊ะแดงมารณรงค์เรื่องการต่อต้านนโยบายกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย โดยนายชูวิทย์ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า ไม่ได้ไปหานายกฯ แต่นายกฯ มาบ้านของตนเอง เพราะมีบ้านอยู่ที่เยาวราช พร้อมเรียกแม่ค้าที่ขายอาหารบริเวณนั้นมายืนยันกับสื่อมวลชน
จากนั้นนายชูวิทย์ ได้เดินเข้าไปบริเวณที่ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังแวะรับประทานอาหาร แต่ไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากมีคนมาก พร้อมกับตะโกนเรียกชื่อแกนนำพรรค เพื่อขอเข้าไปพบ พล.อ.ประยุทธ์ โดยนายชูวิทย์บอกว่า “บ้านผมอยู่ตรงข้ามนี่เอง ว่าจะถามนายกฯ ว่าสนับสนุนนโยบายกัญชาเสรีหรือเปล่า” ก่อนที่ขบวนของ พล.อ.ประยุทธ์ จะทยอยเดินทางกลับไป
นายชูวิทย์ กล่าวกับสื่อมวลชนภายหลังว่า นายกรัฐมนตรีไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกลัวตน เพราะตนเองไม่ใช่พรรคการเมืองหรือคู่แข่ง ที่จะมาต่อต้าน แต่ตนเองเป็นคนในพื้นที่เยาวราช เพียงแค่จะมาถามนายกฯ สั้นๆ ประโยคเดียวว่า “ถ้าท่านได้เป็นนายกฯ ครั้งถัดไป ท่านจะยกเลิกนโยบายกัญชาเสรีได้หรือไม่ ไม่จำเป็นต้องหลบหน้า”
นายชูวิทย์ ยังกล่าวอีกว่า นายกฯ คนนี้แปลก เป็นแขกแต่วิ่งหนีเจ้าของบ้าน แล้วอย่างนี้จะมีคะแนนได้อย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คิดอย่างไรที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินหนี นายชูวิทย์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ก็แสดงว่าท่านอาจจะไม่แน่ใจ หรือไม่ก็ไม่แน่จริง ซึ่งหากตนเป็น พล.อ.ประยุทธ์จะเดินลงมาทักทายพูดคุย เพราะตนคือประชาชนโดยแท้จริง และถามจากใจสังคมไทยส่วนมาก
เมื่อถามว่าหากในอนาคตพรรครวมไทยสร้างชาติมีคะแนนที่จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคภูมิใจไทย จะมีการไปถล่มพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยหรือไม่ นายชูวิทย์ กล่าวว่า "ไม่ต้องถาม ใครที่ไปผสมกับพรรคภูมิใจไทย ผมจะไปเขย่า จะไปตั้งโต๊ะ หากไปที่ไหน ผมก็จะไปที่นั่น และหากทั้งคู่รวมกัน ผมก็ยืนยันที่จะค้าน"