กกต.เผยคำร้องทำผิดกฎหมายก่อนเลือกตั้ง 66 เกินครึ่งร้อย ปัดเฉยปม “สมชัย”
กกต.เผยคำร้องกระทำผิดกฎหมายก่อนเลือกตั้ง 66 มีเกินครึ่งร้อยแล้ว ส่วนใหญ่ทำลายป้าย-หาเสียงหลอกลวง-ใช้รถผิดประเภท ปัดเฉยปม “สมชัย” แฉบางพรรคเก็บบัตรประชาชนระหว่างฟังปราศรัย จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว-การข่าวหาเบาะแสเชิงลึก
เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2566 มีรายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งถึงความคืบหน้าในการจัดการเลือกตั้ง 2566 ว่า ขณะนี้ กกต.มีความพร้อม 100% ทั้งการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 7 พ.ค. และวันเลือกตั้งทั่วไป 14 พ.ค. 2566 โดยกำชับ กกต.ประจำจังหวัดทุกจังหวัดรวมทั้ง กกต.กทม. เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานให้ศึกษาข้อกฎหมายให้ครบถ้วนและซักซ้อมกระบวนการปฏิบัติหน้าที่เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติงานได้
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า กรณีเรื่องร้องเรียนทุจริตเลือกตั้ง เบื้องต้นมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาทั้งหมด 50 เรื่อง โดยเรื่องที่ร้องเรียนมากที่สุดคือการทำลายป้ายหาเสียง การหาเสียงหลอกลวง การใช้รถหาเสียงผิดประเภท เป็นต้น แต่ละเรื่องอนุกรรมการสืบสวนไต่สวนระดับจังหวัด อยู่ระหว่างการกำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนส่งความเห็นและรายงานขึ้นมายังสำนักงาน กกต.กลาง
ส่วนกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย ออกมา ระบุว่า การปราศรัยของพรรคการเมืองพรรคหนึ่งมีผู้มาฟังถูกรวบรวมบัตรประชาชน เพื่อเก็บข้อมูลชื่อ และหมายเลขประจำตัวประชาชน เข้าเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างเป็นระบบ เป็นเรื่องที่ผิดปกติว่า อาจจะเป็นการนำไปสู่การผิดกฎหมายเลือกตั้ง พิกัดที่จังหวัดอำนาจเจริญนั้น เบื้องต้น กกต.อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ามีการกระทำดังกล่าวตามที่ระบุไว้หรือไม่ แต่ละจังหวัดแต่ละพื้นที่ กกต.มีเจ้าหน้าที่ทั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง ชุดเคลื่อนที่เร็ว ชุดปฏิบัติการข่าว คอยปฏิบัติหน้าที่หาเบาะแสทุจริตการเลือกตั้งอยู่แล้ว ไม่ได้นิ่งนอนใจ
ขณะที่การเฝ้าระวังการกระทำผิดทุจริตการเลือกตั้งนั้น กกต.วางมาตรการคุมเข้มสกัดขบวนการซื้อสิทธิขายเสียง นอกจากจะมีผู้ตรวจการเลือกตั้ง 423 คนแล้ว ยังมีชุดเคลื่อนที่เร็ว 400 ชุด ประจำ 400 เขตเลือกตั้ง จำนวน 1,239 คน เจ้าหน้าที่สืบสวน ไต่สวน วินิจฉัย และดำเนินคดีในศาลและชุดปฏิบัติการข่าว (ส่วนกลาง) 11 ชุด ชุดละ 3 คน จำนวน 66 คน และชุดปฏิบัติการข่าว (ส่วนจังหวัด) 77 ชุด ชุดละ 3 คน จำนวน 231 คน ลงพื้นที่เจาะหาข่าวและเบาะแสเชิงลึก รวบรวมพยานหลักฐานการกระทำความผิด ทั้งการบันทึกภาพทั้งภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหว เสียง คลิปวิดีโอ เพื่อเอาผิดคนทุจริต โกงการเลือกตั้ง