"พิธา" ตั้ง กก.ถกรายละเอียด MOU 8 พรรค รอดูแก้ ม.112 เป็นเงื่อนไขหรือไม่
"พิธา" เผยเตรียมตั้งคณะกรรมการพูดคุยรายละเอียด MOU กับ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ส่วนปมแก้ ม.112 จะอยู่ในเงื่อนไขหรือไม่ ต้องรอหลังพูดคุยก่อน
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2566 ที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้กล่าวถึงการทำ MOU กับ 8 พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาลว่า รายละเอียดใน MOU เรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เป็นหัวเชื้อการพูดคุยตั้งแต่การประชุมเมื่อวานนี้ (17พ.ค) แล้ว และวันนี้จะเพิ่มรายละเอียดเข้าไปในส่วนของการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต และจะจัดตั้งทีมทำงานในการพูดคุยกันเพื่อหาข้อสรุปออกมาให้ได้ โดยจะให้แกนนำในแต่ละพรรคพูดคุยกัน ซึ่งจะขึ้นอยู่กับพรรคว่าจะส่งใครมา โดยพรรคก้าวไกลส่ง น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคเข้าพูดคุย
"การบริหารความคาดหวังเป็นของหลายฝั่งต้องพูดคุยว่าเราคาดหวังอะไรจากเขา และเขาคาดหวังอะไรกับเรา ถ้าเราสามารถจัดการบริหารการได้ รวมถึงทำงานเป็นทีม ก็จะได้ข้อสรุปเรื่องรายละเอียดและแถลงในวันที่ 22 พ.ค.นี้" นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวว่า มุมมองของพรรคก้าวไกล ต้องยอมรับว่าการใช้ ม.112 ในปัจจุบันมีปัญหา และต้องมีการแก้ไข ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องได้รับการยืนยันอยู่แล้ว ส่วนจะอยู่ใน MOU หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่ที่คณะกรรมการ และการให้ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ดีขึ้น
- ลุยขอบคุณประชาชนชาวนนท์ ลั่นพร้อมแก้ไขปัญหา คมนาคม-สิ่งแวดล้อม
วันเดียวกัน ที่ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายพิธา ลงพื้นที่ขอบคุณพี่น้องประชาชนในจังหวัดนนทบุรีที่มอบคะแนนเสียง และให้ความไว้วางใจในการลงคะแนนให้ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตทั้ง 8 เขต โดยให้สัมภาษณ์ว่า ที่เลือกลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรีนั้น ตนพยายามจะลงให้ครบในทุกภูมิภาค และทุกจังหวัดอยู่แล้ว แต่เวลาทำงานในแต่ละวันต่างกัน อย่างเช่นวันนี้ที่มีแถลงข่าวที่กทม.และมีประชุมที่พรรคต่อ การจะเดินทางไปต่างจังหวัดก็ยังไปไม่ได้ จึงต้องลงพื้นที่ในเขตปริมณฑลก่อน โดยในพื้นที่ปริมณฑลพรรคก้าวไกลชนะยกจังหวัดในหลายพื้นที่ ก็ดูว่าทีมงานไหนพร้อม และสะดวกในการลงพื้นก็จะมาจังหวัดนั้น
“นนทบุรีชนะยกจังหวัดทั้ง 8 คน 8 เขต เป็นตัวแทนของพี่น้องเข้าไปในสภาฯ ซึ่งได้คะแนนเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งเมื่อปี 62ก กว่า 3 เท่าตัวจากการเลือกตั้งภายในช่วงเวลา4 ปี จึงขอใช้โอกาสนี้ในการขอบคุณพี่น้องประชาชนสำหรับความไว้วางใจ และให้โอกาส ส.ส. ทั้ง 8 คน เข้าไปทำงานในสภา รวมถึงมาสร้างขวัญกำลังใจให้กับทีมงานในจังหวัดที่ทำงานตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทั้งวิกฤติโควิด ข้าวของแพงค่าแรงถูก ทุกคนช่วยกันอย่างเต็มที่” นายพิธา กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีการพัฒนาพื้นที่นนทบุรีในทิศทางใด นายพิธา กล่าวว่า พื้นที่นนทบุรีมีปัญหาในเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องคมนาคม ปัญหาในเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยพื้นที่ปริมณฑลมีอุตสาหกรรมจำนวนมาก ทำให้มีปัญหาทำให้การคมนาคมในพื้นที่ แม้จะมีรถไฟฟ้าเข้าถึง แต่ต้องทำให้เส้นเลือดฝอยอย่างนนทบุรีเดินทางไปหาเส้นเลือดใหญ่ อย่างกรุงเทพมหานคร เป็นการบริหารระบบ ซึ่งจำเป็นต้องมีการพูดคุยกับ ทางรัฐบาล คมนาคมกระทรวงมหาดไทยและท้องถิ่นให้สามารถจัดการบริการสาธารณะด้วยตนเอง
นายพิธา กล่าวว่า นนทบุรีเป็นจังหวัดของข้าราชการ เพราะมีหน่วยงานข้าราชการจำนวนมาก และการเดินทางค่อนข้างยากลำบากมีความเหลื่อมล้ำในการเดินทาง แต่ต้องสามารถบริหารจัดการทำให้ปากท้องเศรษฐกิจดี และในทางเดียวกันก็ต้องไม่มีปัญหาในเรื่องของสิ่งแวดล้อมที่ตามมา
“ดีใจที่ทุกท่านยังไม่ลืมกัน ก่อนเลือกตั้งลงมายังไงหลังเลือกตั้งก็ลงมาแบบเดิมทุกอย่าง บางคนอาจมองว่าการเลือกตั้งยังไม่ จบแต่ผมพร้อมลงพื้นที่เพื่อสื่อสารกับพี่น้องประชาชน และทำตามคำที่สัญญาที่ให้ไว้” นายพิธา กล่าว
- การเลือกตั้งผู้ว่าฯทุกจังหวัดแค่กระดุมเม็ดแรก
ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าราชการในแต่ละจังหวัด นายพิธา กล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการที่จะต้องฟังมติของประชาชน ถามพี่น้องประชาชนทั่วประเทศว่าต้องการในการเลือกตั้งผู้ว่าฯหรือไม่ การเลือกตั้งผู้ว่าฯ เป็นแค่กระดุมเม็ดแรก ในการกระจายอำนาจของประเทศไทย คืนงบประมาณ คืนโอกาสกับการเก็บภาษีในพื้นที่ จึงจำเป็นต้องถามประชาชนก่อน