เบื้องลึกเอ็มโอยู ก้าวไกลถอยสุดซอย “3 พรรค”ขู่ ผนึกรัฐบาลไม่สนิท
เบื้องลึกวงเจรจาลงนาม “เอ็มโอยู” ก่อนจะมีการแถลงการณ์ร่วม “8 พรรคการเมือง” เป็นร่องรอยที่พรรคร่วมผนึกกันไม่สนิท และย่อมถูกจับจ้องว่า จะส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล และการทำงานร่วมกันในอนาคตหรือไม่
เสร็จสิ้นพิธีกรรมลงนามบรรลุข้อตกลง เอ็มโอยู 8 พรรคการเมืองร่วมจัดตั้งรัฐบาล สนับสนุน “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี วางแนวทางการทำงานร่วมงาน 23 ข้อ พ่วงด้วย 5 แนวทางปฏิบัติ
วงประชุม 8 พรรค เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2566 หารือกันตั้งแต่เวลา 15.30 น. เนื่องจาก “เลขาฯต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล วางกรอบเวลาจะออกแถลงการณ์พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 16.30 น. ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ประกาศยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557
“ทีมก้าวไกล” ส่งเอกสาร “เอ็มโอยู” ให้พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลพิจารณาก่อนที่จะร่วมวงหารือแล้ว แถมเอกสาร “เอ็มโอยู” หลุดมาอยู่ในมือสื่อมวลชน ทำให้มีการเผยแพร่ออกไปก่อน
แต่ระยะเวลาในการหารือของ “8 พรรค” กินเวลาเกินกว่า 1 ชั่วโมง ส่งผลให้ฤกษ์งามยามดีที่ “ชัยธวัช” หวังจะให้ “8 พรรค” ออกแถลงการณ์ร่วมในเวลา 16.30 น. ต้องล่าช้าไปกว่า 20 นาที จึงได้แถลงร่วมกันในเวลา 16.50 น.
จากนั้น “พิธา” ออกมานำกล่าวแถลงการณ์ร่วม ระบุตอนหนึ่งว่า บันทึกความเข้าใจร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาล ระหว่าง 8 พรรคร่วมรัฐบาล ดังกล่าว ทำเพื่อสร้างพื้นฐานของรัฐบาล และการทำงานร่วมกันระหว่างพรรค
“ทุกพรรคเห็นร่วมกันว่า ภารกิจของรัฐบาลทุกพรรคที่จะผลักดันร่วมกันนั้น ต้องไม่กระทบกับรูปแบบของรัฐและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการดำรงอยู่ในสถานะ อันเป็นที่สักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ขององค์พระมหากษัตริย์”
ฉากหน้าทุกอย่างดูเรียบร้อยราบรื่น แต่ฉากหลังเต็มไปด้วยการหักเหลี่ยมเฉือนคม ส่งผลให้สีหน้าของ “8 หัวหน้าพรรค” ไม่ค่อยยิ้มแย้มอย่างสนิทใจ มีแต่รอยยิ้มที่ต้องแสดงออกมา เพื่อกลบความไม่ลงรอย ให้มิดชิดมากที่สุด
มีกระแสข่าวว่า 3-4 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล กดดันให้ “พิธา-ก้าวไกล” ใส่ข้อความสำคัญข้างต้นเอาไว้ในแถลงการณ์ด้วย ไม่เช่นนั้นจะมีอย่างน้อย 3-4 พรรค จะไม่ออกไปร่วมนั่งประกอบฉากอ่านแถลงการณ์ด้วย
ทาง “พิธา-ก้าวไกล” ไม่คาดคิดว่า 3-4 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล จะเล่นเกมบีบให้เพิ่มเนื้อหาสำคัญ เนื่องจากยอมถอยเกือบสุดซอย ด้วยการไม่เสนอให้ระบุการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไว้ใน “เอ็มโอยู” แล้ว ข้อตกลงอื่นคงไม่มีปัญหา
แต่ท้ายที่สุดแล้วต้องมาเจอเกมเขี้ยวลากดิน จน “พิธา-ก้าวไกล” ต้องยอมถอยร่น เพราะหากฝืน งานแถลงการณ์ร่วมคงล่มไม่เป็นท่า ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการจัดตั้งรัฐบาลทันทีเช่นกัน
ขณะเดียวกัน "เพื่อไทย" พรรคอันดับสอง ยังรุกกินแดน “ก้าวไกล” อย่างต่อเนื่องด้วย ด้วยการขอให้ถอนข้อตกลงร่วมเกี่ยวกับ “การนิรโทษกรรมคดีการเมือง” เพราะหวั่นใจว่า ปมร้อนของ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว จะกลับมาหลอกหลอนอีกครั้งหนึ่ง
โดย “พิธา-ก้าวไกล” ยื่นข้อต่อรองหนักเช่นกัน แต่ก็ต้องยอมถอย ว่ากันว่า ก่อนถอย “พิธา-ชัยธวัช” ต่อสายถึงใครบางคนที่บัญชาการอยู่นอกวอร์รูมหลายครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อแถลงการณ์ร่วม “8 พรรค” จบลง “อาจารย์ป๊อก” ปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว จำเป็นต้องเบรกเกมกองเชียร์ แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มเติมเนื้อหาเกี่ยวกับสถาบัน และการตัดปมนิรโทษกรรม ออกจากเอ็มโอยูทันทีเช่นกัน
“ปิยบุตร” เป็นห่วงว่า การเพิ่มเติมเนื้อหาเกี่ยวกับสถาบัน จะเป็นบ่วงรัดคอ “รัฐบาลก้าวไกล” จนไม่สามารถที่จะเสนอแก้มาตรา 112 ได้ แม้ “พิธา-ก้าวไกล” จะขอเสนอแก้ไขในนามพรรค ไม่ผูกมัดพรรคร่วมรัฐบาลก็ตาม
ทั้งหมด คือเบื้องลึกวงเจรจาลงนาม “เอ็มโอยู” ก่อนจะมีการแถลงการณ์ร่วม “8 พรรคการเมือง” เป็นร่องรอยที่พรรคร่วมผนึกกันไม่สนิท และย่อมถูกจับจ้องว่า จะส่งผลต่อการจัดตั้งรัฐบาลก้าวไกล และการทำงานร่วมกันในอนาคตหรือไม่