ไพ่ตาย ”ก้าวไกล” ดัดเหลี่ยม ”เพื่อไทย”
คนใน “เพื่อไทย” บางคนก็รู้แกว “ก้าวไกล” และกลัวอยู่เหมือนกันว่า หากไปทำอะไรขัดใจมากๆ เข้า จนตัดสินใจไปเป็น “ฝ่ายค้าน” คนที่จะตกที่นั่งลำบากเห็นทีจะเป็นเพื่อไทยนั่นเอง
ถึงจังหวะวัดใจครั้งสำคัญของพรรคเพื่อไทย กับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตัวชี้วัดว่า จะเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกลสำเร็จหรือไม่
ท่ามกลางแรงฮึดของ ส.ส.เพื่อไทย ที่กดดันทีมเจรจาตั้งรัฐบาลว่า ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติต้องเป็นของพรรค แต่ดูเหมือนทางก้าวไกลก็คงจุดยืนชัดเจนว่าตำแหน่งนี้ต้องเป็น"ขุนค้อนสีส้ม"เท่านั้น
สถานการณ์แบบนี้ ทำเอาบรรดาคีย์แมนใน 8 พรรคร่วมหวั่นใจ เพราะได้กลิ่นตุๆ ว่า เพื่อไทยอาจทำให้อะไรๆ ย่ำแย่ลง เนื่องจากมีเงื่อนไขเดียวที่ก้าวไกล จะชวดเก้าอี้ประธานสภาฯ ก็เพราะเพื่อไทยไม่สนับสนุน จนมีเสียงลงมติในสภาล่างไม่เกิน 250 เท่านั้น
หากเป็นเช่นนั้นจริง ไม่ว่าเพื่อไทยเสนอคนแข่งกับก้าวไกล หรือแอบไปหนุนใครปาดหน้าก้าวไกล เอาตำแหน่งนี้ไปครอง
คีย์แมนบางคนจากว่าที่ 8 พรรคร่วมรัฐบาลได้สัญญาณมาค่อนข้างชัดว่า ถ้าก้าวไกลพลาดโควตานี้เพราะเพื่อไทย เย็นวันโหวตประธานสภาฯ รอจับตาดูได้เลย เพราะมีโอกาสสูงมากที่จะฉีก MOU แล้วประกาศตัวเป็นฝ่ายค้านทันที
เหตุผลสำคัญของก้าวไกล ที่ถูกพูดถึงต่อๆ กันมาหนาหูในช่วงหลังว่า ทำไมต้องได้ตำแหน่งประธานสภาฯ นั่นเพราะนอกจากเอาไว้ผลักดันกฎหมายเปลี่ยนแปลงประเทศ ที่ส่วนใหญ่ถูกมองว่าล่อแหลมแล้ว ก้าวไกลก็เริ่มจะรู้ชะตาตัวเองดีว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อาจจะวาสนาไม่ถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ด้วยปัจจัยรุมเร้ามากมาย และไม่สามารถรวบรวมเสียง ส.ว.ได้ถึง 376 นั่นเอง
อย่างน้อยก้าวไกลจึงต้องกอดเก้าอี้ประธานสภาฯ ไว้กับตัวเองก่อน ส่วนตำแหน่งนายกฯ ก็อาจเปลี่ยนเกมยอมให้มีการเสนอชื่อแคนดิเดตจากเพื่อไทย เพื่อลดเงื่อนไข ส.ว.เพื่อยอมยกมือให้ ก็ถือเป็นอีกสูตรผ่าทางตันของขั้วประชาธิปไตย ที่ดันพิธาแล้วไม่ผ่านเสียที
เอาเข้าจริง คนในเพื่อไทยบางคนก็รู้แกวก้าวไกล และกลัวอยู่เหมือนกันว่า หากไปทำอะไรขัดใจมากๆ เข้า จนตัดสินใจไปเป็นฝ่ายค้าน คนที่จะตกที่นั่งลำบากเห็นทีจะเป็นเพื่อไทยนั่นเอง
ถ้าเกมบีบให้ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านจริง เพื่อไทยจะกล้าตัดสินใจกลืนน้ำลายตัวเอง ทิ้งสัจจะวาจาที่เคยบอกกับประชาชน ว่า "ไม่เอาลุง ไม่เอาเผด็จการ" แล้วกลับไปเลือกจับมือกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ที่ยังแพ็ก 188 เสียงแน่น หารือกันตลอด และดูจะมีอำนาจต่อรองมากกว่า และอาจพลาดเก้าอี้นายกฯ ให้ "ลุงบางคน" ด้วยซ้ำ
แถมเพื่อไทยยังเสี่ยงสูญพันธุ์ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป หากเล่นเกมข่มก้าวไกลให้ยอมแบบหมดท่าเช่นนี้ จึงได้เห็นท่าทีของคนในเพื่อไทย ที่เหมือนแบ่งบทเล่นทั้งตบและจูบ คือ ยังไงก็จะเอาประธานสภาฯ ให้ได้ กับคนที่ยึดหลักการว่าเป็นโควตาของพรรคที่ได้เสียงอันดับ 1
ใครก็รู้ดีว่า ก้าวไกลถอยในเกมนี้ได้ เรียกว่าถอย 1 เพื่อไปต่ออีก 10 ก้าว หรือมากกว่านั้น เล่นเกมยาวในสงครามยืดเยื้อได้ สวนทางกับเพื่อไทยที่มุ่งดึงดันไม่ยอมเด็ก จะลุยเอาน้ำบ่อนี้ให้ได้จนอาจลืมว่าน้ำบ่อหน้าทำท่าจะลำบาก
เวลานี้ จึงเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ที่ต้องวัดใจเพื่อไทย จะแน่จริงกล้าหักเหลี่ยมก้าวไกล หรือแค่เล่นบทนักต่อรองผลประโยชน์ หวังจะกวาดโควตารัฐมนตรี เกรดเอให้ได้มากที่สุดเท่านั้น
เพราะใจลึกๆ ก็รู้ดีว่า ขืนไปจับกับขั้ว 188 เสียง อำนาจต่อรองจะไม่เต็มมือแบบนี้แน่นอน