เกมโหวตประธานสภาฯ ไม่จบ ‘ขั้ว 188’ ฉวยจังหวะเช็ค ‘งูเห่า’
การถอยของ “ก้าวไกล-เพื่อไทย” หวังกุมสถานการณ์ไม่ให้ขั้ว 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเดินเข้าสู่จุดแตกหัก แต่การเสนอชื่อชิงเก้าอี้ประธานสภาฯของ“ขั้ว 188 เสียง” คือเกมรุกเช็คเสียง“งูเห่า”ที่คิดจะแปรพักตร์ โดยใช้การโหวตประธานสภาฯเป็นข้ออ้าง
เพื่อไทยพลิกเกมเสนอรุ่นเก๋า “วันนอร์” วันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ นั่งเก้าอี้ประธานสภาฯ หวังหลบกระแสโจมตี เอา “คนกลาง” มาสยบรอยร้าว “ก้าวไกล”
ภายหลังที่ “ก้าวไกล” เสนอชื่อ “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เป็นตัวแทนพรรคก้าวไกล ลงชิงประธานสภา แต่ “ส.ส.เพื่อไทย” แข็งกร้าวยอมหักไม่ยอมถอย กาชื่อ “ปดิพัทธิ” ทิ้ง ไม่โหวตให้ตัวแทนจาก “ก้าวไกล” หากยืนกรานจะโหวตคนจาก “เพื่อไทย” เท่านั้น
ขณะเดียวกันทีมเจรจาของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเล่นเกมสองหน้ามาหลายครั้ง โชว์เหลี่ยมการเมือง หลังยื้อจนโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาร่วมเดือน ทางออกประธานสภาคนกลางจึงถูกโยนขึ้นมาบนโต๊ะเจรจา “ก้าวไกล-เพื่อไทย” ทำให้ทั้งสองฝ่ายยอมถอยคนละก้าว เพื่อให้ความเหนียวแน่นของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลยังคงอยู่ต่อไป
แต่ถามว่า “ก้าวไกล” แฮปปี้หรือไม่ อ่านใจมองข้ามช็อตก็คงยากที่จะทำใจรับได้ แต่หากยังดื้อดันอาจจะเสียแต้มการเมืองเพราะ “ก้าวไกล” จะโดนผลักให้เป็น “ตัวร้าย” แข็งข้อไม่ยอมให้กับ “เพื่อไทย”
แม้ชั่วโมงนี้ “บิ๊กก้าวไกล” รู้อยู่เต็มอกว่า “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล หนทางที่จะเดินเข้าทำเนียบรัฐบาลในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เลือนรางและมืดมน แต่ขอรักษาทรงการเมืองเล่นบท “ตัวพระ” ไม่ให้เสียแต้ม
เนื่องจากขั้ว 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลมีเพียง 312 เสียง ต้องการอีก 64 เสียง ทั้งจากขั้วรัฐบาลเดิม 188 เสียง และ 250 ส.ว. เพื่อปีนข้ามกำแพง 376 เสียง นั่งนายกรัฐมนตรี แทบไม่มีแต้มมาเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน “บิ๊กก้าวไกล” พออ่านเกมออกว่าเพื่อไทยจะต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งมีโอกาสเพิ่มเติมอีก 64 เสียง เนื่องจาก “บิ๊กเนมเพื่อไทย” มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ “ส.ว.บางกลุ่ม” แต่ก็เหนื่อยไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งก็อาจลองวัดใจเพื่อไทย หากเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะเลือก 151 เสียงของก้าวไกล เพื่อนับรวมเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่
เพราะหากเพื่อไทยเททิ้งก้าวไกล คะแนนความสงสารในฐานะผู้ถูกกระทำจะมากองกันที่พรรคก้าวไกล ดังนั้นเกมเสนอชื่อ “วันนอร์” นั่งเก้าอี้ประธานสภาจึงเป็นเหมือนเกมยื้อไม่ให้ “ก้าวไกล-เพื่อไทย” แตกหักก่อนเวลาอันควร โดยต่างฝ่ายต่างถือไพ่กันคนละหน้า แตกหักแยกทางกันเมื่อไหร่ ใครจะเจ็บหนักกว่ากัน
แต่อีกทางหนึ่งก็ต้องระวัง “ขั้ว 188 เสียง” ที่จับมือกันอย่างเหนียวแน่น ไม่มีพรรคไหนแตกแถวออกมา จะวางเกมโหวตเก้าอี้ประธานสภาฯ อย่างไร แม้จะไม่คาดหวังว่าจะต้องชนะโหวต แต่วางเกมลึกเช็คเสียง เช็คคน
โดย “เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดแผนส่งตัวแทน “ขั้ว 188 เสียง” โหวตสู้กับ “ขั้ว 312 เสียง”เพื่อรีเช็คเสียงโหวต แม้จะเป็นการโหวตลับไม่สามารถรู้ได้ว่า “ส.ส.” แต่ละคนลงคะแนนให้ใคร
ทว่า ในการโหวตลับขั้วหนึ่ง 312 เสียง อีกขั้ว 188 เสียง หากมีคู่ชิงเพียง 2 คน หากมีแต้มจาก 312 เสียง มาเติมให้ตัวแทนของ 188 เสียง ย่อมเป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ภายในขั้ว 312 เสียง ไม่มีความเป็นเอกภาพ
อย่างไรก็ตาม ต้องวัดใจบุคคลที่ “ขั้ว 188 เสียง” จะเสนอชื่อให้โหวตแข่งด้วยว่าเป็นคนจากพรรคการเมืองใด หากเป็นชื่อของ “สุชาติ ตันเจริญ” ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เจ้าตัวจะขอโหวตแข่งหรือไม่ เพราะหากคำนวณแต้มแล้วสู้ไม่ได้ “สุชาติ” มีสิทธิขอถอนตัวได้
เกมเสี้ยมของ “ขั้ว 188 เสียง” พยายามแยกปลาออกจากน้ำ เพราะมีกระแสข่าวว่าแม้ “บิ๊กเนมเพื่อไทย” จะหาทางออกด้วยการเสนอชื่อ “วันนอร์” นั่งประธานสภาฯ แต่ยังมี ส.ส. เพื่อไทย อีกหลายคน ไม่เห็นด้วยที่ต้องโควตาให้ “คนกลาง” เนื่องจากข้อเจรจาเดิมโควตาประธานสภาฯ ต้องเป็นของคนจากเพื่อไทย
หากจับพลัดจับผลู “ขั้ว 188 เสียง” มีเสียงเพิ่มเติม อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนในการโหวตเลือกเก้าอี้นายกฯ เนื่องจากจะสะท้อนอย่างชัดเจนว่า ส.ส.เพื่อไทย พร้อมจะแปรพักตร์ หักมติพรรคใช้เอกสิทธิส่วนตัวในการโหวต
การถอยของ “ก้าวไกล-เพื่อไทย” หวังกุมสถานการณ์ไม่ให้ขั้ว 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเดินเข้าสู่จุดแตกหัก แต่การเสนอชื่อชิงเก้าอี้ประธานสภาฯของ“ขั้ว 188 เสียง” คือเกมรุกเช็คเสียง“งูเห่า”ที่คิดจะแปรพักตร์ โดยใช้การโหวตประธานสภาฯเป็นข้ออ้าง ฉะนั้นเกมการเมืองทุกชอต จึงละสายตาแทบไม่ได้