‘ชวน’ แฉ ‘ฝ่ายค้าน’ โกงได้ แบ่งโครงการลงตัว รับ ‘เลือกตั้ง’ ใช้เงินเป็นปัญหา
“ชวน” งัดประสบการณ์ ผ่านการใช้ รธน. หลายฉบับ ชี้ ”ทหาร“ เป็นอุปสรรคในการพัฒนาประชาธิปไตย ยกเคส “จอมพลถนอม” รำคาญลูกพรรค ขอเงิน จนยึดอำนาจตัวเอง ระบุ พัฒนาการ รธน. มาจากพฤติกรรมคน ห้าม สส.ยุ่งงบประมาณ รับ ระบบเลือกตั้งไทย มีปัญหาใช้เงิน แฉ ยุคนี้ฝ่ายค้านได้โครงการ โกงได้
ที่อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกิจกรรมเสวนาวิชาการวันฉลองรัฐธรรมนูญ ประจำปี 2566 เนื่องใน วันรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวปาฐกถาพิเศษความสำคัญของรัฐธรรมนูญตอนหนึ่งว่า เรามีรัฐธรรมนูญมาตั้ง20ฉบับ ล้วนมีความสำคัญทั้งสิ้น แต่ทำไมเรามายึดฉบับ ปี 2475 เป็นสำคัญ ทำไมเราไม่เอาฉบับหลังสุด ฉบับปราบโกง มาเป็นวันรัฐธรรมนูญ เหตุผลคือเราถือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เป็นประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงของการเมืองไทยอย่างแท้จริง
นายชวน กล่าวว่า ในฐานะเป็นนักการเมืองตัวจริง อยู่ในสายปฏิบัติผ่านการใช้รัฐธรรมนูญมาหลายฉบับ มากกว่าในหมู่เพื่อนๆนักการเมืองทุกคน เป็นผู้แทนราษฎรมาและเริ่มใช้ตั้งแต่ฉบับปี 2511 จะเห็นว่ารัฐธรรมนูญ ทั้ง20 ฉบับ พัฒนาการแต่ละฉบับก้าวหน้าไปตามกาลเวลาของความรู้ ความคิดที่เป็นสากล ได้เห็นเหตุการณ์รอยต่อการใช้รัฐธรรมนูญแต่ละฉบับ เช่น ฉบับปี 2511 เทียบฉบับปี2475 ตอนนั้นผ่านมาตั้ง 30 กว่าปี ไม่มีเค้าโครงให้เราเห็นความเป็นประชาธิปไตย เวลาไม่ได้ช่วยให้ประชาธิปไตยเราเพิ่มขึ้น รัฐธรรมนูญ ปี2511 เขียนขึ้นเพื่อให้อำนาจยังอยู่กับจอมพลถนอม กิตติขจร ต่อไป ระหว่างหาเสียงในการเลือกตั้งปี 2512 ตนเขียนชื่อตัวเอง ชื่อพรรคประชาธิปัตย์ไว้เลย และวงเล็บฝ่ายค้าน เพราะอ่านรัฐธรรมนูญออก รู้ว่านายกฯ คนต่อไปคือจอมพลถนอม แล้วก็เป็นไปอย่างนั้น เพราะให้มี สว. 3ใน4 เป็นข้าราชการประจำได้ มีสิทธิเหมือนนักการเมือง จอมพลถนอมอยู่ได้ 2ปี 9เดือน ระหว่างนั้นการกระจายเสียงถ่ายทอดการประชุมสภาทำให้คนตื่นตัว ในที่สุดก็มีเหตุการณ์ยึดอำนาจ 14พ.ย.2514 มาจากเหตุที่คนทั่วไปไม่รู้ รัฐบาลไปให้เงินสส. ฝ่ายรัฐบาล คนละ 3.5 แสนบาท ข้าราชการเป็นคนเอาข้อมูลนี้มาให้ ตนก็เป็นผู้อภิปรายว่าไม่ถูกต้อง ฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ใช่ฝ่ายบริหาร ไม่ควรเอาเงินไปโดยฝ่ายนิติบัญญัติ และการให้เงินโดยเลือกปฏิบัติเฉพาะกลุ่มพวกตัวเอง ไม่ยุติธรรม เราแก้ไม่ได้ รัฐบาลก็ไม่กลัว สมัยนั้นเรียกว่าผู้แทนฯ สร้างส้วม ผู้แทนฯ สร้างอะไรเกิดขึ้น ใช้เงินไปทำโน้นทำนี่ ปีต่อมา สส.ขอเพิ่มจาก 3.5 แสน เป็น 1 ล้านบาท จนจอมพลถนอม รำคาญไม่พอใจลูกพรรคตัวเอง ก็เลยยึดอำนาจ
“ทหารจึงเป็นอุปสรรคในการพัฒนาประชาธิปไตยจริง เพียงแค่รำคาญนิดหน่อยก็ยึดอำนาจตัวเอง ด้วยความตื่นตัวทางการเมืองในที่สุด เหตุการณ์ 14 ตุลา ก็เกิดขึ้น จึงได้เกิดรัฐธรรมนูญ ปี 2517 อันถือเป็นรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมากที่สุดฉบับหนึ่ง” นายชวน กล่าว
นายชวน กล่าวอีกว่า ตนลงเลือกตั้งปี 2518 ด้วยรัฐธรรมนูญ ปี2517 ได้เป็นรัฐมนตรีครั้งแรก เมื่อประชาธิปัตย์ชนะ แต่เป็นเสียงข้างน้อย รัฐบาลอยู่ได้ 20 วันล้ม เพราะไม่ผ่านความเห็นชอบของสภาในการแถลงนโยบาย เป็นที่มาของรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่ไม่ยอมเขียนมาตรานี้เหมือนฉบับปี 2517 อีกเลยจนบัดนี้
นายชวน กล่าวว่า พัฒนาการส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งมาจากพฤติกรรมของคน เช่น การบังคับให้สังกัดพรรคการเมือง เมื่อปี 17 มีเหตุจากปี 12 สภาชุดนั้นมี สส.ขายตัว ได้รถได้บ้าน ถ้าปล่อยให้เป็นอิสระ เป็นแล้วขายตัวทีหลังจะมีปัญหา รัฐธรรมนูญ ปี17 จึงบังคับให้สังกัดพรรค เหมือน รัฐธรรมนูญ ปี60 มีบทบัญญัญติ ม.144 ควบคุม กมธ.งบประมาณ และ สส.ไม่ให้ยุ่งกับงบประมาณ เพราะไม่ไว้ใจพฤติกรรมนักการเมืองไม่สุจริต แต่ต้องขอความเป็นธรรมด้วยว่าเป็นเรื่องตัวบุคคล ไม่ใช่ทุกคนเป็นอย่างนั้น เพียงแต่การเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปในรอบ 90 ปี มันทำให้คนที่รังเกียจการเมือง แต่รู้ว่าการเมืองมีประโยชน์ต่อธุรกิจเปลี่ยนไป
“รัฐธรรมนูญสมัยนี้เปลี่ยนไป คนเข้ามามีอำนาจบันดาลได้ สามารถรู้ได้ว่างบประมาณปีนี้เท่าไหร่ ถ้าเป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้าง รู้ได้เลย มีเท่าไหร่อย่างไร” นายชวน กล่าว
นอกจากนั้น นายชวน กล่าวอีกว่า ตนเห็นการเลือกตั้งเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา น่าคิด เราใช้ระบบการเลือกตั้งที่แก้รัฐธรรมนูญมาเป็นลำดับ อย่างระบบวันแมนวันโหวต ตามรัฐธรรมนูญ ปี40 เห็นคนดีๆ สอบตก ด้วยระบบนี้ แต่ถ้าเป็นระบบผสม มีเขตเล็ก เขตใหญ่ ไม่เกิน 3 คน คนซื้อเสียงชนะไป แต่คนดีก็ติดไปด้วยคนหนึ่ง คนเลือกตั้งเขาบอกเอาคนนี้ไว้ใช้ ตนมีเพื่อนหลายจังหวัดก็เสียดาย เขาก็ยอมรับ ถ้าระบบวันแมนวันโหวตเขาสู้เงินไม่ไหวหรอก นี่คือความจริงในสังคมที่เป็นอยู่ แม้จะถือว่าระบบนี้เป็นธรรมเนียมทั่วโลกใช้กัน แต่ในวัฒนธรรมของเรายังมีปัญหาอยู่ ทำให้แข่งขันกันว่า 1,000 บาท ชนะ 500 บาท
“พัฒนามาถึงวันนี้ 91 ปี สส.บางคนถามผมว่า ท่านชวนมันมาเป็นอย่างนี้ได้ยังไงเนี่ย ผมบอกนั่นสิ บังเอิญผมเกิดมาในยุคที่ไม่มีซื้อเสียง สมัยนั้นอย่างดีคือเลี้ยงเหล้า ไปหาเสียงชาวบ้านก็นายชวนขอท่อนสิ ท่อนก็คือเหล้า ไม่ให้ แต่มันเริ่มมีเงินเข้ามาจนคำขวัญต้องเปลี่ยน ศักดิ์ศรีชาวตรัง ใครอย่ามุ่งหวังซื้อด้วยเงินตรา เพื่อให้คนร่วมมือ วันหนึ่งมันแจกเลี้ยงกัน ชาวบ้านก็เขียนคำขวัญใหม่ ใส่เสื้อทวี กินฟรีพิทักษ์ เลือกพรรคนายชวน ผมมาในระบบไม่ใช้เงิน ผมรับไม่ได้ การเมืองของเราถ้าใช้เงินต้องโกง ไม่มีลงทุน 50 ล้าน เอาคืนเดือนละแสน ตัวเองไม่โกง พรรคก็ต้องโกง อย่าไปคิดว่าต้องเป็นรัฐบาลแล้วโกง ฝ่ายค้านก็โกงได้ เดี๋ยวนี้การประสานผลประโยชน์ของนักการเมืองเขาไม่สนใจ อยู่ที่ไหน คุณเอาโควตาที่นี่ไป กี่โครงการ คุณรับโครงการที่นั่นไปกี่โครงการ มันถึงอยู่ที่คน” นายชวน กล่าว
อดีตประธานสภา กล่าวว่า ดังนั้นมันถึงอยู่ที่คน กฎหมายที่จะเป็นประชาธิปไตย อันเป็นหลักของประเทศสำคัญ แต่คนดีก็ต้องมี เราจึงต้องการรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย และนักการเมืองที่เป็นคนดี ไม่ใช่ดีในคำพูด แต่เบื้องหลังต้องไม่โกงเลือกตั้ง ไม่ซื้อเสียง ไม่ทุจริต