ล้มกระดาน ‘สว.’ ฝันใหญ่ ‘นักซื้อตั๋วรัฐประหาร’

ล้มกระดาน ‘สว.’ ฝันใหญ่ ‘นักซื้อตั๋วรัฐประหาร’

หากสถานการณ์ทางการเมืองเรื่องคดี "สอยเศรษฐา" หรือ "เชือดทักษิณ"ด้วย ม.112 นำมาซึ่งการชุมนุมใหญ่ทางการเมือง ก็เข้าทางนักซื้อตั๋วรัฐประหาร ที่เฝ้ารอคอยความฝันกลับมานั่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติอีกครั้ง

KEY

POINTS

  • จังหวะการเมืองอลหม่าน กรณีสอยนายกฯเศรษฐา ทักษิณติดบ่วงคดี ม.112 และปัญหาการเลือกตั้ง สว. เหมือนเข้าทางคนบางกลุ่ม
  • เวที คปท. เหมือนเป็นการอุ่นเครื่องพลังมวลชน รอเงื่อนไขจุดกระแสม็อบใหญ่  การขับเคลื่อนไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ หากมีการบริหารจัดการของคนบางกลุ่ม
  • การเลือก “สว.” ตามโมเดลของรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 107 กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อท่ออำนาจของ สว.สายอนุรักษ์บางกลุ่ม
  • จับตาความพยายามจะปลุกปั่นให้การเมืองปกติ เดินไปสู่ทางตัน เพื่อเปิดช่องให้การเมืองไม่ปกติ หรือการรัฐประหารได้หวนกลับมาอีกครั้ง

อุณหภูมิการเมืองเดือดในเดือน มิ.ย.2567 มีทั้งกรณีสอยนายกฯเศรษฐา ทักษิณติดบ่วงคดี ม.112 และความอลหม่านของการเลือกตั้ง สว. มาบรรจบพบกันพอดี

ด้วยจังหวะการเมืองเหมือนเข้าทางถูกคนบางกลุ่มที่พยายามจะปลุกปั่นให้การเมืองปกติเดินทางไปทางตัน เพื่อเปิดช่องให้การเมืองไม่ปกติหรือการรัฐประหารได้หวนกลับมาอีกครั้ง

โดยเฉพาะ สว.ตัวตึงบางกลุ่ม และกลุ่มอนุรักษ์นักเคลื่อนไหวนอกสภา ที่ไม่ต้องการให้ระบอบทักษิณฟื้นคืนชีพ จึงออกแรงปั่นกระแสล้มกระดานเลือก สว.

ตอนนี้ มีเวที คปท.ร่วมกับกองทัพธรรม ตั้งอยู่ข้างทำเนียบรัฐบาล อันเป็นศูนย์รวมมวลชนอดีตคนเสื้อเหลือง และอดีต กปปส. ที่ยังมีฝันร้ายกับระบอบทักษิณ

เวที คปท. เหมือนเป็นการอุ่นเครื่องพลังมวลชน รอเงื่อนไขจุดกระแสม็อบใหญ่ และการขับเคลื่อนไม่ใช่เรื่องธรรมชาติ หากมีการบริหารจัดการของคนบางกลุ่ม

ดังที่ วันชัย สอนศิริ สว.ชุด คสช. ออกมาปูดเรื่อง ‘ขบวนการ 3 ล้ม’ คือ ล้มรัฐบาล  ล้มพรรคก้าวไกล และล้มกระดานเลือก สว.

การเลือก สว. ชุดใหม่ 200 คน จะแตกต่างกับการเลือก สส.อย่างสิ้นเชิง โดย จะเป็นการ “เลือกกันเอง” ในกลุ่มผู้สมัคร ประชาชนทั่วไปที่ไม่ใช่ผู้สมัครจะไม่มีสิทธิในการเลือก สว.ชุดใหม่

วิธีการเลือก สว. มาจากกติกาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 (พ.ร.ป.สว.ฯ) ที่ออกแบบโดยกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ นำโดยมีชัย ฤชุพันธุ์

อันที่จริง สว.บางกลุ่มที่ออกโรงมาปลุกกระแส “ฮั้ว” เลือก สว.ในเวลานี้ ก็คือกลุ่มที่เห็นดีเห็นงามกับกติกาที่ซับซ้อนนี้

ปี 2566 สว.สายอนุรักษ์ ได้ออกเคลื่อนไหวให้ความรู้เรื่องเผยแพร่การเลือก สว.ชุดใหม่ แต่แฝงไว้ด้วยการจัดกลุ่มผู้สมัคร สว. มีการสร้างเครือข่าย ตั้งแต่ระดับอำเภอ ไปจนถึงระดับประเทศ

เวลานั้น ยังไม่มีพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองใดสนใจเรื่องการเลือก สว. เพราะทุกพรรคกำลังมุ่งมั่นกับการเลือกตั้ง สส.มากกว่า

ดูเหมือนเกมเลือก สว.ตามสูตรมีชัย จะเข้าทางกลุ่ม สว.ชุดเดิม ยิ่งมีคนพูดถึงน้อย ก็ยิ่งเป็นเรื่องดี

จะว่าไปแล้ว สว.ตัวตึงกลุ่มนี้ มีการระบุชื่อตัวบุคคลที่จะผ่านเข้ารอบลึกๆ ไปจนถึงระดับชาติไว้เรียบร้อยแล้ว

กระทั่งหลังสงกรานต์ปีนี้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในนามคณะก้าวหน้า ร่วมกับไอลอว์ จัดแคมเปญ สว.ประชาชน รณรงค์ให้คนตื่นตัวกับการเลือก สว. และลงสมัครชิง สว.ให้มากที่สุด เพื่อทลายบล็อกโหวต

การเคลื่อนไหวของธนาธร นำมาซึ่งกระแส สว.สีส้ม ทำให้ สว.สายอนุรักษ์หรือปีกขวาจัด ตกอกตกใจ กลัวค่ายสีส้มยึดสภาสูง

สว.สายอนุรักษ์ มีความกังวลว่า หากมี สว.สีส้ม แค่ 70 กว่าคน ก็สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 มรดก คสช.ได้ง่ายดาย ไม่ยากเหมือนสภาสูงชุดปัจจุบันนี้

ประกอบกับมีข้อมูลเชิงลึกในพื้นที่ภาคอีสาน และภาคเหนือปรากฏว่า มีกลุ่มการเมืองบ้านใหญ่ ได้เคลื่อนไหวส่งผู้สมัคร สว.แบบเงียบๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอดีตข้าราชการ อสม. และกลุ่มตัวแทนเกษตรกร

ที่สำคัญ การลงสมัคร สว.ของสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ ที่สนาม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ยิ่งกระตุ้นให้กลุ่มต้านระบอบทักษิณ เริ่มขยับเคลื่อนไหวปั่นกระแสความอลหม่านของการเลือก สว.อย่างต่อเนื่อง

พูดง่ายๆ การเลือก “สว.” ตามโมเดลของรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 107 กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อท่ออำนาจของ สว.สายอนุรักษ์บางกลุ่ม

เหมือนคำให้สัมภาษณ์ของ ชัยธวัช ตุลาธน ที่บอกว่า "ผมคิดว่าไม่น่าจะเหมาะสม เพราะไม่เคยเห็น สว.ชุดเดิมโวยวายตั้งแต่แรกว่าที่มาของ ส.ว.ไม่ควรเป็นแบบนี้ มีแต่ประชาชน และนักการเมืองบางส่วนไม่เห็นด้วยที่ ส.ว.เป็นแบบนี้ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งประชาชนโดยตรง”

อย่างที่ลำดับภาพมาแต่ปีที่แล้ว สว.ชุดเดิม ไม่มีใครโวยเรื่องกติกาเลือก สว.สูตรมีชัย ตรงกันข้ามกับมีความหวังที่จะมี สว.สายอนุรักษ์ กลับมีความหวังที่จะมีทายาท สว.ในสภาสูงชุดใหม่ต่อไป

ล่าสุด มีรายงานข่าวจาก กกต. แจ้งว่า ในการประชุมของคณะกรรมการ กกต. วันที่ 7 มิ.ย.นี้ โดยคาดว่าสำนักงาน กกต.มีการประเมินข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และจะเสนอทางเลือกให้ กกต. 2 ทางด้วยกันคือ เลื่อนการเลือก สว.ระดับอำเภอออกไปก่อ หรือเลือก สว.ต่อไป

หากการเลือก สว. มีความยื้ดเยื้อยาวนาน และยังไม่มี สว.ชุดใหม่ออกมาทันวันที่ 2 ก.ค. 2567 ก็เท่ากับว่า สว.ชุดเก่ายังคงอยู่รักษาการต่อไป เพียงแค่ไม่มีอำนาจโหวตนายกรัฐมนตรี

ส่วนร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หาก สว.ชุดเก่ายังรักษาการอยู่ อาจเป็นอุปสรรคในการแก้กฎหมายทำประชามติ ที่ต้องผ่านการลงมติของ สว.

เพียงเท่านี้ ก็ถือว่า เกมสกัด สว.สีส้ม และ สว.บ้านใหญ่ของ สว.ชุดอำนาจเก่าประสบความสำเร็จในเบื้องต้นแล้ว

หากสถานการณ์ทางการเมืองเรื่องคดีสอยเศรษฐา หรือเชือดทักษิณด้วย ม.112 นำมาซึ่งการชุมนุมใหญ่ทางการเมือง ก็เข้าทางนักซื้อตั๋วรัฐประหาร ที่เฝ้ารอคอยความฝันกลับมานั่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติอีกครั้ง

นักซื้อตั๋วรัฐประหารเป็นใคร ก็เดาได้ไม่ยาก ดูจากปูมประวัติสภาแต่งตั้งจากปี 2549 จนถึงปี 2557 ก็รู้แล้วว่า พวกเขาไม่เคยเปลี่ยนแนวคิดแสวงหาอำนาจทางลัด