'กมธ.สิทธิฯ สว.' ยื่น 'ป.ป.ช.' เอาผิด 'ราชทัณฑ์' ส่อเอื้อ 'ทักษิณ' อยู่นอกคุก

'กมธ.สิทธิฯ สว.' ยื่น 'ป.ป.ช.' เอาผิด 'ราชทัณฑ์' ส่อเอื้อ 'ทักษิณ' อยู่นอกคุก

"ปธ.กมธ.สิทธิฯ" ทิ้งทวนทำหน้าที่ ยื่น "ป.ป.ช." สอบ "จนท.ราชทัณฑ์-ยธ." ส่อปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ขัดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ปมเอื้อ "ทักษิณ" อยู่นอกคุก

ที่รัฐสภา สว.สมชาย แสวงการ ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.)  สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตนฐานะประธานกมธ.ฯ ได้ลงนามในหนังสือซึ่งเป็นไปตามมติของกมธ. ส่งเรื่องให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบเจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ต่อกรณีการดูแลผู้ต้องขังของระบบราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นกรณีที่เกิดขึ้นกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ​ อย่างไรก็ดีในหนังสือที่ส่งให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบนั้น ตนไม่ได้ระบชื่อใคร แต่ขอให้ตรวจสอบบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งจะต่อเนื่องในความรับผิดชอบของบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ในเรื่องของนายทักษิณ กรณีที่ถูกส่งตัวไปรักษาสถานพยาบาลนอกเรือนจำนั้น กมธ.ได้ติดตามอย่างต่อเนื่องและเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องชี้แจงภายใต้กมธ. แต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร ทั้งที่การขอเอกสารหรือรายละเอียดต่างๆ นั้นเป็นไปภายใต้การทำงานของเจ้าหน้าที่  เช่น การอนุมัติให้อยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ เป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ เอกสารประกอบความเห็นของแพทย์ ภาพถ่ายบันทึกภาพผู้คุมกับนักโทษที่รักษาตัวนอกเรือนจำ ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นไปตามการปฏิบัติงานทั้งสิ้น แต่ กรมราชทัณฑ์ไม่ได้ให้ข้อมูล จึงถือว่ามีพฤติกรรมต้องสงสัยว่าไม่ได้ดำเนินการตามระบบที่ถูกต้อง กมธ.จึงส่งให้ ป.ป.ช. สอบต่อ

“มติของ กมธ. ที่ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. สอบข้อเท็จจริง เพราะเห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐนั้นปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบตามกฎหมายของ ป.ป.ช.  ทั้งนี้การตรวจสอบ เรื่องการดูแลผู้ต้องขังของระบบราชทัณฑ์นั้น เป็นไปตามหน้าที่และอำนาจของกมธ. แต่กรณีของนายทักษิณ ที่พักรักษาตัวนอกเรือนจำนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีหน้าที่รับผิดชอบไม่ได้ให้รายละเอียด ส่วนกรณีที่ระบุว่าเป็นเรื่องสิทธิของผู้ป่วยที่ได้รับความคุ้มครองนั้น กมธ.ไม่มีเจตนาที่จะนำไปเปิดเผยแต่อย่างใด ดังนั้นการไม่ส่งมอบเอกสารหรือรายละเอียดที่กมธ.ขอให้นำส่งเพื่อประกอบการตรวจสอบและศึกษานั้น ถือว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่จงใจใช้อำนาจขัดกับกฎหมายและรัฐธรรมนูญ รวมถึงฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และ มาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวว่าการส่งหนังสือดังกล่าวถือเป็นการทำหน้าที่ฐานะสว. จนวันสุดท้าย โดยฐานะที่ตนเป็นสว.ชุดที่ 12 ถือว่ากรณีการส่งหนังสือให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบรอบนี้ เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการประสานการทำงานร่วมกับทุกฝ่าย ไม่ใช่การลุแก่อำนาจ ซึ่งกรณีดังกล่าวนั้น ป.ป.ช. ได้ลงเลขรับไว้ในระบบแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กมธ.สิทธิมนุษยชนฯ ตั้งประเด็นการตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งเป็นการติดตามการบริหารจัดการดูแลผู้ต้องขังของระบบราชทัณฑ์ การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมเท่าเทียม และกรณีของนายทักษิณ ที่กลับเข้าประเทศ เมื่อ 22 ส.ค.2566 และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนและสังคมให้ความสนใจ รวมถึงมีกรณีวิจารณ์และข้อสงสัยต่อการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ที่ผ่านมา กมธ.เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล อาทิ สำนักปลัดกระทรวงยุติธรรม กรมคุมประพฤติ กรมราชทัณฑ์ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โรงพยาบาลตำรวจ  กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จากการรับฟังข้อมูลและข้อคิดเห็นพบว่าการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจขัดต่อกฎหมาย จึงมีมติส่งรายละเอียดที่ได้ตรวจสอบ ซึ่งมีเนื้อหากว่า 300 หน้า ให้กับ ป.ป.ช. ได้ตรวจสอบ.