ส่องสมรภูมิ ‘5 อบจ.’ ‘บ้านใหญ่’ สืบทอดอำนาจ

หลายคนอาจแปลกใจว่า ทำไมช่วงนี้จึงมีการเลือกตั้งนายก อบจ. นับแต่เดือน มิ.ย.จนถึงเดือน ส.ค.2567 จำนวน 8 จังหวัด 

เหตุที่มีการเคลื่อนไหวในการเมืองท้องถิ่น อันเนื่องจากกลยุทธ์นายก อบจ.ชิงลาออกก่อนครบวาระ เพื่อชิงความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง จึงทำให้มีการเลือก ตั้งนายก อบจ.ในหลายจังหวัด

เฉพาะเดือน มิ.ย.2567 มีการเลือกตั้งนายก อบจ.ผ่านไปแล้ว 3 จังหวัดคือ นครสวรรค์ อ่างทอง และปทุมธานี

สำหรับเดือน ส.ค.นี้ จะมีการเลือกตั้งนายก อบจ.อีก 3 จังหวัดคือ วันอาทิตย์ที่ 4 ส.ค.จะมีการเลือกตั้งนายก อบจ.พะเยา อบจ.ชัยนาท และ อบจ.พระนครศรีอยุธยา

สมรภูมินายก อบจ.พะเยา มีคู่ชิง 2 คนคือ ชัยประพันธ์ สิงห์ชัย กลุ่มพะเยาก้าวไกล และ ธวัช สุทธวงค์ อดีตรองนายก อบจ.พะเยา ซึ่งเป็นมือทำงานของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

หลายคนยังจำได้ว่า ปลายเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย เปิดตัว อัครา พรหมเผ่า เป็นว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.พะเยา อีก 3 เดือนถัดมา อัครา ลาออกจากตำแหน่ง และไม่ลงสมัครชิงนายก อบจ.พะเยา โดยอ้างว่าเตรียมเล่นการเมืองระดับชาติ

พรรคก้าวไกลไม่ได้ส่งผู้สมัครนายก อบจ.พะเยา แต่ สจ.แน้ว-ชัยประพันธ์ สิงห์ชัย อดีตผู้สมัครนายก อบจ.พะเยา คณะก้าวหน้า และอดีตผู้สมัคร สส.พะเยา พรรคก้าวไกล จึงลงสนามในนามกลุ่มพะเยาก้าวไกล 

พูดง่ายๆว่า เป็นการต่อสู้ระหว่าง สจ.อาง-ธวัช สุทธวงค์ มือทำงานของผู้กองธรรมนัส กับ สจ.แน้ว-ชัยประพันธ์ ผู้มีหัวใจสีส้ม

มาแบบเงียบๆ อนุชา นาคาศัย สส.ชัยนาท และอดีต รมช.เกษตรฯ ให้น้องชาย อนุสรณ์ นาคาศัย ลาออกจากนายก อบจ.ชัยนาท ก่อนครบวาระ พร้อมส่งพี่สาว เจ๊ต้อย-จิตร์ธนา ทวีลาภา ลงสนามแทน

เจ๊ต้อย-จิตร์ธนา อดีต สว.ชัยนาท เริ่มปูทางลงสนาม อบจ.ตั้งแต่ปี 2565 โดยรับบทประธานสโมสรฟุตบอลชัยนาท ฮอร์นบิน ทีมดังไทยลีก 2 และเปิดโรงเรียนฟุตบอล อบจ.ชัยนาท 

คู่แข่งของเจ๊ต้อยคือ สุทธิพจน์ เชื้ออภัยวงษ์ อดีตผู้สมัคร สส.ชัยนาท พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นรองบ้านใหญ่นาคาศัย อยู่หลายขุม 

จากชัยนาทมาถึงสนามนายก อบจ.กรุงเก่า สมทรง พันธ์เจริญวรกุล อดีตนายก อบจ.อยุธยา ปะทะ อุ๊ กรุงสยาม หรือ วัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ กลุ่มก้าวใหม่อยุธยา

กลุ่มก้าวใหม่อยุธยาของ อุ๊ กรุงสยาม ไม่เกี่ยวข้องกับพรรคก้าวไกล แต่มี ชริน วงศ์พันธ์เที่ยง สส.อยุธยา พรรคก้าวไกล ให้การสนับสนุนโดยส่วนตัว

เซียนการเมืองฟันธงว่า ซ้อสมทรง จะคว้าชัยนั่งนายก อบจ.สมัยที่ 5 สมราคาบ้านใหญ่วังน้อย หรือบ้านใหญ่สีน้ำเงิน 

วันอาทิตย์ที่ 11 ส.ค.นี้ จะมีการเลือกตั้งนายก อบจ.ชัยภูมิ ซึ่งสนามนี้เรียกว่าเป็นไฟท์หยุดโลก เพราะเป็นการต่อสู้ระหว่าง “บ้านใหญ่สีน้ำเงิน” กับ “บ้านผู้กอง” และอาจมี” บ้านในป่า” แทรกเข้ามาเป็นตัวตัดแต้ม 

อร่าม โล่ห์วีระ อดีตนายก อบจ.ชัยภูมิ ที่ชิงลาออกก่อนครบวาระ เพราะมั่นใจในกองหนุน ทั้งลุงป้อม และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า

ป๋าหร่าม-อร่าม เป็นบิดา อัครแสน โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ พลังประชารัฐ สายตรง ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งสมัยที่แล้ว อร่ามได้เป็นนายก อบจ. ก็เพราะแรงหนุนจากผู้กอง

ปัจจุบัน พลังประชารัฐ มี สส.ชัยภูมิ 2 คนคือ อัครแสนคีรี  โล่ห์วีระ สายธรรมนัส และกาญจนา จังหวะ สส.หน้าใหม่ สายตรงลุงป้อม 

ส่วนคู่แข่งของป๋าหร่ามคือ สุรีวรรณ นาคาศัย ภรรยาของสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สส.ชัยภูมิ ภูมิใจไทย และได้การสนับสนุนจากครูใหญ่ เนวิน ชิดชอบ

สุรีวรรณ ถูกวางตัวเป็นผู้สมัครนายก อบจ.ชัยภูมิ มาระยะหนึ่งแล้ว โดยเริ่มเข้าไปเป็นคณะที่ปรึกษา อนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย

ปีที่แล้ว พรรคภูมิใจไทยเจาะฐานเพื่อไทยสำเร็จ ได้ สส.ชัยภูมิ 2 ที่นั่งคือ สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ และเชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงศ์ 

ดังนั้น ตัวแปรสนาม อบจ.เที่ยวนี้คือ สส.ชัยภูมิ เพื่อไทย 3 คนคือ โอชิษฐ์ เกียรติก้องชูชัย ,เชิงชาย ชาลีรินทร์ และศิวะ พงศ์ธีระดุลย์ จะเลือกช่วยใคร 

ที่น่าสนใจ มีรายงานข่าวว่า จารุวรรณ จังหวะ ส.อบจ.ชัยภูมิ เขต อ.หนองบัวแดง จะลงสมัครนายก อบจ.ด้วย และจารุวรรณ เป็นพี่สาว กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ สายบ้านในป่า นัยว่า จะลงมาตัดแต้มใครบางคน 

วันอาทิตย์ที่ 18 ส.ค.นี้ จะมีการเลือกตั้งนายก อบจ.พิษณุโลก หลัง มนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ ลาออกจากตำแหน่ง

มนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์ กลุ่มพลังพิษณุโลก ยืนยันจะลงสนามนายก อบจ.พิษณุโลก อีกสมัย ซึ่งที่ผ่านมา ได้รับการหนุนช่วยจาก นพพล เหลืองทองนารา สส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย

สมัยที่แล้ว มนต์ชัย เจอคู่แข่งคนกันเอง ยลลดา ช่างพินิจ หลานสาวนิยม ช่างพินิจ อดีต สส.พิษณุโลก ซึ่งตอนนั้น นิยมยังสังกัดเพื่อไทย ปรากฏว่า ยลลดา ได้แสนกว่าคะแนน แต่ก็ยังแพ้มนต์ชัย

ทุกวันนี้ นิยม ช่างพินิจ ย้ายมาสังกัดภูมิใจไทย เป็นที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย ก็ต้องรอดูบ้านใหญ่บางระกำ จะส่งใครลงสมัครนายก อบจ.หรือไม่ 

ดังนั้น สมรภูมินายก อบจ.พะเยา ชัยนาท อยุธยา ชัยภูมิ และพิษณุโลก ก็ยังเป็นเรื่องการสืบทอดอำนาจของบ้านใหญ่ และไม่มีพื้นที่ให้บ้านสีส้ม แม้แต่ อบจ.เดียว