‘4 ภารกิจร้อน’ จ่อคิวสภาสูง คอนเน็กชัน ‘เกรียง-มงคล’ คีย์แมน
เปิดฉาก สว.ชุดที่ 13 “4 ภารกิจร้อน” จ่อคิวสภาสูง ตั้ง“ป.ป.ช. - ผู้ตรวจฯ” ลุ้นฉลุยงบปี 68 - งบกลางปี 67 เข็นดิจิทัลวอลเล็ต จับตา “ประธานวุฒิสภา” ผ่าคอนเน็กชันสีน้ำเงินจับตา “เกรียง - มงคล” ชิงผู้นำ
KEY
POINTS
- เปิดฉาก สว.ชุดที่ 13 “4 ภารกิจร้อน” จ่อคิวสภาสูง ตั้ง “ป.ป.ช. - ผู้ตรวจฯ” ลุ้นฉลุยงบปี 68 - งบกลางปี 67 เข็น "ดิจิทัลวอลเล็ต"
- "ประธานวุฒิสภา" เดิมพันสภาสูง "เกมอำนาจ"
- “แม่ทัพเกรียง” ผนึกขั้วใหม่ - ประสานขั้วเก่า "สัญญาณไฟเขียว" บุคคลสำคัญ?
- "มงคล" สายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ ลูกหม้อมหาดไทย สเปกนักปกครอง
เปิดฉากสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ชุดที่ 13 ตามรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 หลังจากคณะกรรมการ การเลือกตั้ง (กกต.)ประกาศรับรองผลการเลือก สว. 2567โดยรับรองผลผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ทั้ง 200 คน และบัญชีสำรอง 100 คน
จำนวนนี้มี 1คน ที่ถูกระงับสิทธิชั่วคราว หรือ “ใบส้ม” คือ “คอดียะฮ์ ทรงงาม” ผู้ได้รับเลือกเป็น สว.อ่างทอง ลำดับที่ 4 กลุ่ม 18 กลุ่มสื่อสารมวลชน เนื่องจากเป็นที่ปรึกษา นายก อบจ.อ่างทอง
ทำให้เลื่อนว่าที่ พ.ต.กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ อดีตประธานรุ่น 5 หลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหาร (พคบ.) ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ซึ่งเป็นผู้ได้รับเลือกลำดับที่ 11 ขึ้นมาแทน
จากนี้ต้องติดตาม หลังสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา สว.ชุดใหม่เข้าแสดงตน ในวันที่ 11, 12 และ 15 ก.ค.นี้ ตามขั้นตอนหลังเปิดให้รายงานตนครบถ้วน เลขาธิการวุฒิสภาจะมีหนังสือการนัดประชุมวุฒิสภานัดแรก เพื่อให้ สว. 200 คน กล่าวคำปฏิญาณตนต่อที่ประชุมก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ และจะเป็นวาระการเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา
“เกรียง-มงคล” ชิงประธานวุฒิสภา-คีย์แมนสภาสูง
ต้องจับตาไปที่ตำแหน่ง “ประธานวุฒิสภา” ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น “รองประธานรัฐสภา” ตามรัฐธรรมนูญจนถึงล่าสุดยังต้องจับตาไปที่ 2 รายชื่อคือ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ หรือ “บิ๊กเกรียง” สว. จากกลุ่มบริหาราชการแผ่นดินและความมั่นคง ที่ได้คะแนนสูงสุดในกลุ่มดังกล่าว และอีกคนคือ “มงคล สุระสัจจะ” อดีตอธิบดีกรมการปกครอง
โดยในส่วนของพล.อ.เกรียงไกร นั้นอย่างที่รู้กัน มีความสนิทสนมกับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะเพื่อร่วมรุ่น วปอ.
กระแสหนึ่งยังเชื่อว่า “บิ๊กเกรียง” จะผงาดสภาสูง เพราะนอกเหนือจากจะสนิทสนมกับ มท.หนู แล้ว ยังถือเป็นบุคคลที่มีคอนเน็กชันเชื่อมโยงได้ทั้ง “อำนาจเก่า” และ “อำนาจใหม่” และได้รับสัญญาณจาก “ผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญ”
นอกจากนี้ “บิ๊กเกรียง” ยังเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 22 ซึ่งรุ่นดังกล่าว เคยสร้างประวัติศาสตร์ เข้าไปเป็นผู้บัญชาการ 4 เหล่า 3 ทัพ คือ พล.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ., พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร., พล.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ.และพล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสสร์ ผบ.ตร.
สอดคล้องกับกระแสข่าวก่อนหน้าที่มีการมองว่า “บิ๊กเกรียง” จะเป็นผู้ที่หยิบชิ้นปลามันไปครอง
ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีการฟันธงว่า เต็งหามจะเป็น “มงคล” เนื่องจากมีประสบการณ์ด้านการปกครองนั้น มีการมองว่า อาจมีการวางบทบาท “มงคล” ที่แยบยลกว่านั้น
แน่อนอว่า มงคลได้เปรียบในแง่ ซึ่งมีความสนิทสนมใกล้ชิดกับ “บ้านใหญ่บุรีรัมย์” แต่หากมองอีกมุมอาจยิ่งเป็นการตอกย้ำภาพ สว.สีน้ำเงินตามที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาก่อนหน้านี้
ทว่าอีกกระแส โดยเฉพาะ “กลุ่มนักการเมืองบ้านใหญ่” ยังคงมั่นใจว่า “มงคล” ยังเป็น “เต็งหาม” ในการชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา
โดยนอกเหนือจากจะเป็นสายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์แล้ว ยังมีความเชี่ยวชาญด้านการปกครองถือเป็น “ลูกหม้อ” กระทรวงมหาดไทยทั้ง อดีตอธิบดีกรมการปกครองและยังเป็นอดีตประธานคณะทำงานทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย
ทั้งนี้ไม่ว่าตำแหน่งประธานวุฒิสภาจะเป็นใคร เชื่อได้เลยว่าทั้ง 2 คนจะมีบทบาทในสภาสูงหลังจากนี้อย่างแน่นอน!
“4วาระร้อน” จ่อคิว สว.ชุดใหม่
ยิ่งไปกว่านั้น ยังต้องจับตาไปที่วาระร้อนที่จ่อคิวพิจารณาในชั้นวุฒิสภา ทั้งการคัดเลือกบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(กรรมการป.ป.ช.) แทนพล.อ.บุณยวัจน์ เครือหงส์ กรรมการ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ ตามมาตรา 9 มาตรา 10 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 จำนวน 1 คน
ซึ่งล่าสุดวันที่ 9 ก.ค.67 สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้สรุปรายชื่อผู้สมัครจำนวน 11 คน โดยขั้นตอนต่อจากนี้ สำนักงานเลขาฯ ซึ่งจะส่งรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งพฤติการณ์ทั่วไป และเมื่อได้รับผลการตรวจสอบดังกล่าวมาแล้ว คณะกรรมการสรรหาจะพิจารณาวินิจฉัยคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครเข้ารับการสรรหา
หลังจากนั้น จะเชิญผู้สมัครเข้ารับการสรรหาที่มีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายบัญญัติมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่ และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และหรือสัมภาษณ์ผู้สมัครต่อไป
ทั้งนี้ตามมาตรา 232 แห่งรัฐธรรมนูญ ให้อำนาจกับวุฒิสภาเป็นผู้พิจารณา และให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลเพื่อเข้าทำหน้าที่กรรมการ ป.ป.ช.
นอกจากนี้ยังมีในส่วนของการสรรหาเป็นบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งเป็นผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 8(1) และตามมาตรา 9 จำนวน 1 คน แทนนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ประธานผู้ตรวจการแผ่นดินที่จะครบวาระ ซึ่งล่าสุดสำนักเลขาธิการวุฒิสภา เปิดรับสมัครตั้งแต่วันอังคารที่ 2 ก.ค.- 16 ก.ค.67 นี้
“งบ 68 - งบกลางปี” เข็นดิจิทัลวอลเล็ต
ขณะเดียวกันยังมีวาระอื่นๆ ที่รอพิจารณาในชั้นวุฒิสภา โดยเฉพาะร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ซึ่งขณะนี้อยู่ในการพิจารณาของ กมธ.วิสามัญสภาผู้แทนราษฎร ที่เตรียมพิจารณาวาระ 2 และ 3 ก่อนเสนอให้วุฒิสภาให้ความเห็นชอบ
รวมไปถึง การจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2567(งบกลางปี 67) เพื่อจัดทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้เห็นชอบเมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่ผ่านมาซึ่งตามไทม์ไลน์จะมีการเสนอเข้าสู่สภาในช่วงกลางเดือน-ปลายเดือนก.ค. และคาดว่าจะผ่านวาระ 3 ในเดือนส.ค. ก่อนที่จะส่งให้วุฒิสภาให้ความเห็นชอบซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงกลางเดือนส.ค.
เปิดฉาก สว.ชุดที่ 13 จับตา “4 วาระร้อน” ที่กำลังจะถูกเสนอเข้าสู่สภาสูงในเร็ววัน!
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์