ยกเครื่องรัฐบาล‘เศรษฐา’ ดิจิทัลวอลเล็ต – อัดงบฯ 68 เดิมพันฟื้นเรตติ้ง
ยกเครื่องรัฐบาล‘เศรษฐา’ ดิจิทัลวอลเล็ต – อัดงบฯ 68 เดิมพันฟื้นเรตติ้ง ‘3 นายกฯ’ อุปสรรคการทำงาน - คนข้างกายขบเหลี่ยม
KEY
POINTS
- ชะตาของ "เศรษฐา" มีสองแนวทาง หนึ่งหลุดจากเก้าอี้ ต้องเข้าสู่กระบวนการสรรหา นายกฯคนใหม่
- สอง รอดพ้นจากบ่วงปม จะเดินเข้าสู่การปรับครม. โจทย์ของ "นายใหญ่" คือการเอา "ประวิตร วงษ์สุวรรณ" ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล คงสถานะ สส.พลังประชารัฐ สายผู้กองเอาไว้
- อย่างไรก็ตามหากพ้นบ่วง "เศรษฐา" ต้องเร่งสร้างผลงาน แต่ก็มีอุปสรรคในเกมอำนาจที่แชร์กันระหว่าง "3 นายกฯ" รออยู่
14 ส.ค. ลุ้นระทึกคดีคุณสมบัติรัฐบาลของ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน ปมแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยมี “อดีตกลุ่ม 40 สว.” ยื่นให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัยคดีดังกล่าว
“เศรษฐา-ทีมกฎหมาย” ส่งคำชี้แจง-คำแถลงปิดคดี โดยมี “เนติบริกร” ขั้นเทพชื่อ วิษณุ เครืองาม เป็นคนตรวจบรูฟเกือบทุกตัวอักษร มีการประดิษฐ์คำ “ความผิดอุปกรณ์” มาเป็นข้ออ้าง เช่นเดียวกับ “นายกฯขาดตอน” ในช่วงการพิจารณาคดีครบ 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในขณะดำรงตำแหน่งนายกฯ
ทำให้ “เศรษฐา-ทีมกฎหมาย” ค่อนข้างมั่นใจว่าทุกข้อต่อสู้ สามารถนำมาหักล้างคำร้องของ “อดีตกลุ่ม 40 สว.” ในชั้น “ศาลรัฐธรรมนูญ” ได้ และมีโอกาสได้ไปต่อ
รวมถึง “สัญญาณพิเศษ” จาก “คนพิเศษ” ซึ่งฉากหน้าปรากฏตัวร่วมงานในบางวงสนทนา ฉากหลังร่วมวงเจรจาความเมืองกับบางวงสนทนาลับ
อย่างไรก็ตาม เมื่อปิดจ็อบคดี “เศรษฐา” ซึ่งมีอยู่ 2 แนวทาง หนึ่งหากหลุดจากตำแหน่งต้องสรรหานายกฯคนใหม่ โดยจะดำเนินการเลือกจากแคนดิเดตนายกฯที่พรรคการเมืองส่งให้ กกต. ซึ่งต้องเป็นพรรคการเมืองที่ได้ สส. เกิน 25 ที่นั่ง
สอง “เศรษฐา” รอด มีโอกาสสูงที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เนื่องจาก “นายใหญ่” ต้องการเอา “ลุงบ้านป่า” ออกจากสมการทางการเมือง โจทย์ใหญ่จึงตกอยู่ที่ “ผู้กองบ้านป่า” จะเดินเกมอย่างไร
หากยอมให้ “นายใหญ่” เทียบเชิญ “ประชาธิปัตย์” หอบ 21 สส. เข้าร่วมรัฐบาล ก็จะต้องเสียโควตารัฐมนตรี
ส่วนจะแก้เกมดึง สส.งูเห่าสีส้ม รวบรวมพลมาที่พรรคสำรอง เวลานี้ค่อนข้างยากเสียแล้ว เนื่องจาก “บิ๊กสีส้ม” วางแผนมาดี เมื่อได้บทเรียนในช่วงเปลี่ยนผ่านจาก“อดีตพรรคอนาคต” ที่ทอดเวลานาน จนทำให้ สส.สีส้ม ถูกดีลให้ย้ายพรรค
เมื่อ “ผู้กองบ้านป่า” รับโจทย์จาก “นายใหญ่” แต่กลับโดนลูกเก๋าของ “ลุงบ้านป่า” ตรึง สส. ไม่ให้ตีจาก จึงต้องจับตาศึกวัดกำลังกันระหว่าง “นายใหญ่บ้านจันทร์” กับ “ลุงบ้านป่า” โดยมี “ลูกน้องสองนาย” เป็นแนวกันชนศึกในพรรคร่วม ซึ่งต้องลุ้นว่าผลจะออกมาอย่างไร โควตาครม.จะแบ่งกันจบ หรือต้องแตกหักปรับออกจาก “พรรคร่วมรัฐบาล”
วัดใจ “สีน้ำเงิน” ชิงรองปธ.สภาฯ
ขณะเดียวกันยังต้องจับตาศึกชิง “เก้าอี้รองประธานสภาฯ” ที่ว่างลง เนื่องจาก “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา ต้องพ้นตำแหน่ง จากการโดนตัดสิทธิทางการเมือง เพราะเป็นหนึ่งใน กก.บห. อดีตพรรคก้าวไกล
โดยมีเสียงเชียร์จาก “สส.สีน้ำเงิน” ให้ยื่นเจตจำนงไปยัง “เพื่อไทย” ขอโควตา “รองประธานสภาฯ” เพื่อมาตอบแทน “สส.” ในพรรค เนื่องจาก “สีน้ำเงิน” ถือเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่มี สส. มากเป็นอันดับสอง
เมื่อ “สีน้ำเงิน” ขยับ “สส.ค่ายแดง” เตรียมเขยื้อนตาม เริ่มมีการเคลื่อนไหวต่อรองกับ “นายใหญ่” ให้ยึดโควตา “ประธานสภาฯ” มาจาก “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” เนื่องจากตอนยกเก้าอี้ให้ “วันนอร์” เป็นสถานการณ์บังคับที่ยังจับมือกับ “อดีตพรรคก้าวไกล” ที่สำคัญพรรคประชาชาติมีโควตา “รมว.ยุติธรรม” ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง นั่งอยู่
ว่ากันว่า “บิ๊กค่ายแดง” มีชื่อคนในใจที่จะมานั่งเก้าอี้ “ประธานสภาฯ” อยู่แล้ว แต่ต้องทำความเข้าใจกับ “วันนอร์” ให้ลงจากตำแหน่งแบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น
“3 นายกฯ” พาบริหารติดหล่ม
อย่างไรก็ตาม หาก “เศรษฐา” ได้ไปต่อ อุปสรรคใหญ่ของ “เพื่อไทย” หนีไม่พ้น “3 นายกฯ” ประกอบด้วย “นายกฯตึกไทย-นายกฯบ้านจันทร์-นายกฯต่างแดน” ซึ่งต่างก็มีอาณาจักรของตัวเอง
มีกระแสข่าวหนาหูว่า การขยับขับเคลื่อนในหลายเรื่อง ในหลายกระทรวง หนทางเพลย์เซฟที่สุดต้องแจ้งความแถลงไขให้ “3 นายกฯ” รับรู้ข้อมูลเท่ากัน หากไม่รายงานคนใดคนหนึ่ง อาจจะเกิดปัญหาขึ้นในภายหลังได้
หากมองแค่หน้าฉากความสัมพันธ์ของ “3 นายกฯ” ยังคงแฮปปี้กันดี แต่หากมองให้ลึกลงในรายละเอียด มี “บริวาร” เป็นพิษอยู่ไม่น้อย เริ่มมี ก๊กรุ่นใหม่ อยู่ข้างกาย “นายกฯตึกไทย” มี ก๊กบ้านใหญ่ อยู่เคียงข้าง “นายกฯบ้านจันทร์” มี ก๊กพี่เลิฟ-น้องรัก คอยรายงาน “นายกฯต่างแดน”
ระยะหลังจึงมีกระแสข่าว “3 นายกฯ” ไม่แฮปปี้กันเองในบางเรื่อง-บางวาระ แม้ยังไม่พัฒนากลายเป็นเรื่องใหญ่ จนถึงขั้นต้องแตกหักกัน แต่ความสัมพันธ์ไม่ราบรื่นเหมือนเก่า
ดิจิทัลวอลเล็ต-งบฯ68 เดิมพัน
ขณะเดียวกันความหวังของ “นายใหญ่-เศรษฐา-สส.ค่ายแดง” ต่างผูกเอาไว้กับโครงการแจกหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต ว่าจะสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาอยู่ในแดนบวก ช่วยกอบกู้ความเชื่อมั่นให้กับ “รัฐบาลเพื่อไทย”
แต่ในทางลับยังมีอุปสรรค เรื่องงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท โดยมีกระแสข่าวว่า อาจจะมี “นักร้อง” ทั้งสังกัดค่าย-ไม่สังกัดค่าย เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความข้อกฎหมายกันอีกระลอก ซึ่งหากโครงการดังกล่าวล่าช้า การกระตุ้นเศรษฐกิจมีปัญหาอย่างแน่นอน
อีกทางหนึ่ง “รัฐบาล” คาดหวังว่าเม็ดเงินจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีผลบังคับใช้ต้นเดือน ต.ค. จะสามารถอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งหมดคือเส้นทาง-อุปสรรคของรัฐบาล หาก “เศรษฐา” ได้ไปต่อ ซึ่งต้องวัดฝีมือกันว่า “3 นายกฯ” ร่วมกันแก้วิกฤตเศรษฐกิจและพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่