กรรมเก่าไล่ล่า ว่าที่ รมต.ส่อวืด วัดใจ'เพื่อไทย' เสี่ยงกับดักจริยธรรม

การฟอร์ม ครม.แพทองธาร 1 ไม่ง่ายเหมือน ครม.เศรษฐา เพราะมีกับดักจริยธรรมนักการเมืองที่ศาลรัฐธรรมนูญ ได้วางบรรทัดฐานไว้กรณีอดีตนายกฯเศรษฐา และพิชิต ชื่นบาน

แม้กระแสข่าวดึง 21 เสียงของพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาล พร้อมมีการส่งชื่อ “ต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน และ “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง ไปให้แกนนำเพื่อไทยแล้วนั้น แต่มาถึงวันนี้ รัฐบาลผสมกว่า 300 เสียงส่อเค้าว่าจะไม่ราบรื่น

ประการแรก ปมขัดแย้งในพรรคพลังประชารัฐ ระหว่าง “มติพรรค” ของพล.อ.ประวิตร กับ “มติกลุ่ม” ของ ร.อ.ธรรมนัส ส่งผลให้นายกฯแพทองธาร ตัดสินใจลำบาก

ประการที่สอง กรณี ต่อ-เฉลิมชัย ศรีอ่อน และ นายกชาย-เดชอิศม์ ขาวทอง กำลังเจอกรรมเก่าไล่ล่า เพราะมีเรื่องร้องเรียนค้างคาอยู่ใน ป.ป.ช. รวมถึงคดีความของคนใกล้ชิด

วันที่ 24 ส.ค.2567 สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐว่า เมื่อวานเดินผ่าน ได้ยินคนคุยกัน พวกที่อยู่พรรคการเมืองหนึ่ง แต่แอบติดต่อกับพรรคแกนนำรัฐบาล เสนอชื่อใครต่อใครร่วมรัฐบาล โดยกรรมการบริหารพรรคไม่ได้ให้ความเห็นชอบ และอ้างว่าตัวเองมีเสียง สส.ในมือเท่าโน้นเท่านี้ เพื่อขอตำแหน่งรัฐมนตรี โปรดระวัง    

1.อาจมีผู้ไปร้องต่อ ป.ป.ช.ว่า ท่านทำผิด พ.ร.ป.พรรคการเมืองในเรื่องการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมือง และฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในประเด็นแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว นำไปสู่การถอดถอนและตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต

2.ผู้บริหารพรรคการเมือง ที่รับผู้ที่รู้หรือสมควรรู้ว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมที่ขัดมาตรฐานทางจริยธรรมร้ายแรง อาจถูกรางวัลใหญ่ตามไปด้วย

ข้อสังเกตของ สมชัย ทำให้แกนนำเพื่อไทย รวมถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า ขบคิดกันอย่างหนัก เพราะไม่อยากเล่นเกมเสี่ยง  

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของฝั่งบ้านป่าฯ หลังจากพา สส.พลังประชารัฐ 19 คน ไปกินสเต็กแถวสระบุรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ 12 คน จากทั้งหมด 19 คน ถือว่าเกินกว่ากึ่งหนึ่งครบองค์ประชุมตามระเบียบข้อบังคับพรรค

ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคมีมติเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค จำนวน 4 คน ตามที่มีข้อตกลงกับพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำการจัดตั้งรัฐบาล

1.พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ 2.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า 3.สันติ พร้อมพัฒน์ และ 4.อรรถกร ศิริลัทธยากร พร้อมกำชับว่า ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนรายชื่อ กรณีไม่ผ่านด่านจริยธรรม ก็ต้องส่งคืนมาที่พรรค พปชร. ซึ่งจะมีการเสนอชื่อไปแทนคนที่มีปัญหา 

เมื่อลุงป้อมงัดมติพรรค ก็เหมือนโยนโจทย์ยากไปที่พรรคเพื่อไทย นายกฯอุ๊งอิ๊ง จะเอาอย่างไร ระหว่าง “มติพรรค” กับ “มติซุ้ม”

หากเพื่อไทยเลือกมติซุ้ม ก็สุ่มเสี่ยงเจอนักร้อง ไปร้อง ป.ป.ช. ทำผิด พ.ร.ป.พรรคการเมืองฯ เหมือนที่สมชัย ศรีสุทธิยากร ตั้งเป็นประเด็นให้คิดข้างต้น

ดังที่ทราบกัน พรรคพลังประชารัฐ แบ่งเป็น 2 ขั้ว ส่งชื่อร่วม ครม. 2 โผ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ แบ่งเป็น 2 ฝ่ายเหมือนกัน แต่มีโผเดียว

เสี่ยต่อ-เฉลิมชัย ศรีอ่อน จะนั่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่วน เดชอิศม์ ขาวทอง จะนั่ง รมช.สาธารณสุข

จะว่าไปแล้ว หากมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส. ขั้วเสี่ยต่อ เฉลิมชัย ย่อมได้เปรียบ และมีมติเข้าร่วมรัฐบาลด้วยเสียงข้างมาก

เรื่องมติพรรคไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ปมกับดักจริยธรรมต่างหากที่จะทำให้เฉลิมชัย-เดชอิศม์ ไปไม่ถึงฝัน เพราะทั้งคู่มีเรื่องร้องเรียนอยู่ใน ป.ป.ช.

เหนืออื่นใด นายกฯอุ๊งอิ๊ง ไม่น่าจะเล่นเกมเสี่ยง โดยยอมรับมติพรรค พปชร. เท่ากับปิดทางเข้าร่วมรัฐบาลของกลุ่มบ้านใหญ่ ปชป.ไปโดยปริยาย