'วิสุทธิ์' ไม่รู้ 'พิศาล' อยู่ไหน ย้ำตามรธน. จะจับ สส. ต้องขออนุญาต สภาฯ
"วิสุทธิ์" ยกรัฐธรรมนูญ ป้องห้ามจับ "สส." ระหว่างสมัยประชุม ปัดไม่รู้ "พิศาล" อยู่ไหน หลังลาไปรักษาตัวที่ต่างประเทศ
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึง กรณีศาลจังหวัดนราธิวาส ออกหมายจับ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กรณีไม่ไปขึ้นศาลพิจารณาคดีเหตุการณ์สลายการชุมนุม อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ปี 2547 ว่า ตนทราบว่าพล.อ.พิศาล ไปรักษาตัวอยู่ต่างประเทศ แต่ไม่ทราบว่าไปที่ไหน ซึ่งตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 บัญญัติไว้ชัดเจน ว่าช่วงของการประชุมสภา การจับกุมคุมขัง ประธานสภาฯ จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาเพื่อให้สภาฯอนุมัติก่อน ถึงจะจับได้ แต่พล.อ.พิศาล ไปต่างประเทศก่อนหน้านี้แล้ว และไม่ได้อยู่ในสภาฯ ดังนั้นไม่ว่าเป็นพล.อ.พิศาล หรือสส.คนใด ถ้าอยู่ในประเทศไทย ไม่สามารถจับกุมคุมขังได้ เพราะต้องขออนุญาตสภาฯ ก่อน เว้นเสียแต่ว่าคนนั้น ถูกฟ้องแล้วไปมอบตัวแล้ว และประกันตัวออกมาแล้ว ศาลสามารถเรียกได้
“วันนี้ผมไม่ทราบท่านพิศาลไปอยู่ที่ไหน เขาไม่ได้บอกผม และผมมีหน้าที่เป็นวิป จะตามสส.มาลงคะแนน แต่เรื่องนี้การดำเนินอยู่ที่ศาลพิจารณา ผมไม่ได้เอารัฐธรรมนูญมาอ้างเพื่อที่จะปกป้องท่านพิศาล แต่ในหลักการ หากอยู่ในระหว่างสมัยประชุมสภาฯ การจับกุมคุมขัง ต้องผ่านสภาฯก่อน” นายวิสุทธิ์ กล่าว
นายวิสุทธิ์ ยังกล่าวถึงการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายรังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เกี่ยวกับคดีตากใบเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า ถ้ามองการอภิปราย ในฐานะคนนับถือศาสนาพุทธ ตนรับไม่ได้ เพราะต้องดูว่าพูดไปแล้วมันได้อะไรขึ้นมา และการออกหมายจับพล.อ.พิศาล เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม การที่เอามาปั่นในสภาฯ แล้วด่ากันอย่างนั้น มันดีหรือไม่ และก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ตากใบ ต้องดูว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง บางทีคนที่เกิดหลังเหตุการณ์ที่ผ่านมา 20 ปี ฟังแล้วอาจเกิดความแตกแยก
"เมื่อศาลออกหมายจับแล้วก็ต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม เราไม่มีหน้าที่ไปจับใครและไม่ควรที่จะไปแทรกแซง ดังนั้นเวลาอภิปราย ไม่ควรทำให้คนฟังสับสน ผมไม่เข้าใจเจตนาว่าถามไปเพื่ออะไร เพื่อที่จะให้คะแนนเสียง หรือเกิดความแตกแยกในประเทศ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ไม่อยากให้เรื่องนี้ลุกลามบานปลายเพราะจะเกิดความเสียหายได้ อย่าไปกลัวว่าพรรคเพื่อไทยจะเสียหาย เพราะเรื่องนี้ผ่านมานานแล้วไม่อยากรื้อฟื้น ซึ่งเป็นความเจ็บปวดของทุกฝ่าย ไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น”นายวิสุทธิ์ กล่าว