'ภูมิธรรม'ไม่นิ่งนอนใจคดีตากใบ ขออย่านำมาเคลื่อนไหวทางการเมือง
“ภูมิธรรม” ยันไม่นิ่งนอนใจ ปมตากใบ ส่วนข้อเสนอออกพรก. หยุดอายุความ ให้ฝ่ายกฎหมายศึกษาอยู่ ชี้เป็นความมั่นคงของรัฐ ไม่ใช่รัฐบาล ขออย่านำมาเคลื่อนไหวทางการเมือง
22 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวถึง นักวิชาการเสนอให้ ออกพระราชกฤษฎีกาหยุดอายุความคดีตากใบ จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ว่า ขณะนี้กำลังให้ฝ่ายกฎหมายศึกษาอยู่ ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามกฏหมาย
ส่วนกรณีที่นักวิชาการ อยากเห็นการดำเนินการของรัฐบาลที่เป็นรูปธรรมมากกว่าปล่อยให้คดีนี้หมดอายุความ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ตำรวจออกหมายตรวจค้นบ้านผู้ที่อยู่ในคดีนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้นำทางทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องดำเนินการ และขณะนี้กำลังอยู่ในกระบวนการสืบค้น ที่เหลือก็อยู่ในกระบวนการยุติธรรม
ส่วนนักวิชาการประเมินว่าในวันที่ 25 ต.ค. จะเกิดเงื่อนไขใหม่ในพื้นที่ภาคใต้ และได้มีการสั่งการ ไปยังกอรม.น. ส่วนหน้าหรือยัง นายภูมิธรรม ระบุว่า ส่วนตัวคิดว่าเงื่อนไขในภาคใต้มีอยู่โดยตลอดอยู่แล้ว และเรื่องนี้เป็นเรื่องของความมั่นคงของรัฐไทย ไม่ใช่ความมั่นคงของรัฐบาล ฉะนั้นต้องระมัดระวัง ซึ่งรัฐบาลก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่อย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่สร้างปัญหาและกระทบกระเทือนกับความมั่นคงของรัฐไทย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่อนไหว เราทุกคนพยายามทำและมีอีกหลายเรื่องที่เราควรไปดูในรายละเอียด และกระบวนการนี้มีหลายเรื่องควรจะดูในรายละเอียดไม่ว่านักวิชาการหรือใคร ตนคิดว่าทุกคนหวังดีแต่อยากให้ดูให้ถ่องแท้ เราไม่ได้ปฏิเสธผู้เป็นญาติซึ่งเป็นผู้เสียหาย หากจะพูดเรื่องนี้จริงๆต้องดูแต่ต้นว่าเป็นอย่างไรมีกระบวนการทำยังไงและรัฐบาลในอดีตก็ทำมาโดยตลอด ในทุกเรื่องยืนยันว่ารัฐบาลไม่เคยทอดทิ้งส่วนกระบวนการทางกฎหมาย ได้ขึ้นศาลไปแล้วถึง 4 คดี บางคดีผู้ถูกกล่าวหาเป็นประชาชนคนหนุ่มสาว นายกรัฐมนตรีในยุคสมัยหนึ่งก็ได้ประกาศยกเลิกคดีเพื่อหวังให้เกิดความสามัคคี แต่ความรุนแรงกลับไม่ลดจึงต้องดูให้ถ่องแท้ว่าความรุนแรงเกิดจากกรณีอะไร ซึ่งกรณีนี้เป็นเพียงตัวอย่างที่ใช้ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองและตนมองว่าปัญหาเรื่องตากใบมีความสลับซับซ้อนและต้องค่อยๆ ดูในรายละเอียด
เมื่อถามถึงข้อร้องเรียนขององค์กรมุสลิมโลก นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้มีองค์กรมุสลิมโลกที่เสนอความคิดเห็นมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน แล้วเราได้คุยกับทุกส่วนอย่างต่อเนื่อง และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ไปกระเทือนอะไรที่รุนแรงขนาดนั้น แต่เป็นเรื่องเก่าเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา และที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้เงินกว่า 600 ล้านบาท ในการเยียวยา อย่างเต็มที่กับผู้เสียหาย และตนย้ำว่าเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อย่าใช้ประเด็นนี้มาอ้างว่ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลย วันนี้สังคมไทยที่อยู่สี่จังหวัดภาคใต้เป็นสังคมพหุนิยมเราอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข