'ปธ.กมธ.ตำรวจ' แฉ 'เสี่ยวหมา' นายใหญ่แก๊งจีนเทา บัญชาการชั้น25 ปอยเปต

ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร  ซึ่งมีวาระพิจารณาการดำเนินคดีกับขบวนการคอลเซ็นเตอร์ โดยเชิญ น.ส.ชาล็อต ออสติน มีสแกรนด์ ซึ่งถูกหลอกลวงให้โอนเงินเป็นจำนวนมาก ทำให้ได้รับความเสียหาย​มาชี้แจง พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

โดยนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ฐานะประธานกมธ.ตำรวจ กล่าวก่อนเร่ิมประชุมว่า กมธ.ได้รับข้อมูล ว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งดำเนินการโดยกลุ่มคนจีนสีเทา เปิดออฟฟิศอยู่ชั้น 27 ที่ปอยเปตและชั้น 25 เป็นออฟฟิศที่รองรับบัญชีม้า​ ที่หลอกจากประเทศไทย ที่ชั้น 25 จากนั้นจะพาไปชั้น 27 รูปแบบการหลอกลวงคนไทยไม่แตกต่างจากรูปแบบการหลอกลวงของ น.ส.ชาล็อต โดยปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)

นายชัยชนะ​กล่าวว่า​ ชาวจีนที่รับผิดชอบอยู่ชั้น 27 ชื่อ​ เสี่ยวหมา เข้าใจว่าทาง กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.)​ พยายามเข้าไปปิดออฟฟิศดังกล่าว แต่ประเทศต้นทางให้เฉพาะหมายจับ และจะส่งตัวเฉพาะคนที่มีหมายจับมาเท่านั้น​ และคนที่จะเข้าไปตึกนี้ได้จะเป็นคนในตึกเท่านั้น

"รูปแบบการหลอกคือจะมีคนกลางมาหลอกคนที่ทำอาชีพรับจ้างว่าให้ไปทำงาน ที่คาสิโน และก่อนเดินทางไปให้เตรียมบัญชี บัตรประชาชน และโทรศัพท์ โดยจะมีรถมารอรับ ไปส่งที่อำเภออรัญประเทศ และจะมีรถอีกคัน มารับไปส่งที่ชายแดน ผ่านช่องทางธรรมชาติ 4,000 บาท และเมื่อข้ามไปได้แล้วจะมีรถมารับไปส่งที่ตึก​" นายชัยชนะ กล่าว

นายชัยชนะ​ กล่าวว่า ขอยืนยันกับประชาชนว่า​สอท.​ไม่ใช่ว่าเป็นกรณีของน.ส.ชาล็อตจึงให้ความสำคัญ แต่ทุกคดีไม่เคยละเลย ขณะนี้รัฐบาลนางสาวแพทองธาร​ ชิน​วัตร​ นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเงินทั้งหมดที่โอนได้สุดท้ายจะไปอยู่ในบัญชีม้าแล้วไปอยู่ ในบัญชีบริษัทไฟแนนซ์เปลี่ยนเป็นเหรียญคริปโต วันนี้การยกระดับของคอลเซ็นเตอร์พบว่าการลุกลามจากเมื่อก่อนคนจีนหลอกคนไทย ตอนนี่นำไปสู่คนจีนหลอกคนจีน