ธุรกิจจีนเทา เผือกร้อนไทย ซีล 2 ชั้น 14 จังหวัดชายแดน

ธุรกิจจีนเทา เผือกร้อนไทย ซีล 2 ชั้น 14 จังหวัดชายแดน

จับตาฝีมือ “รัฐบาลแพทองธาร” งัดมาตรการป้องกัน ปราบปราม ธุรกิจจีนเทาชายแดนไทย ยาเสพติด ค้ามนุษย์ คอลเซ็นเตอร์ ปัญหาซุกอยู่ใต้พรมมายาวนาน

KEY

POINTS

  • นายกฯ เตรียมมอบนโยบายซีลชายแดน 2 ชั้น ทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง14 จว.ชายแดนติดเพื่อนบ้าน
  • 6 เดือนประเมินผล งานไม่คืบย้ายออกจากพื้นที่ แต่หากทำดีตบรางวัล

ทหารไทยใช้ขั้นตอนทั้งทางเปิด ทางลับ ควานหาตัว Mr. Xing Xing (ซิงซิง) ดาราจีน ขาดการติดต่อบริเวณ ชายแดนไทย-เมียนมา ฝั่งอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก

เนื่องจาก ทหารเมียนมาไม่ได้คุมพื้นที่ ได้ทั้งหมด บางพื้นที่อยู่ในอิทธิพลของชนกลุ่มน้อย หลายกลุ่ม อาทิ กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (DKBA) สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU)

เพราะที่ผ่านมา ทหารไทยใช้กลไกงานด้านสัมพันธ์ที่มีต่อกันทั้งทหารเมียนมา ชนกลุ่มน้อยทุกกลุ่ม ร่วมกันแก้ไขปัญหารักษาพื้นที่รอยต่อชายแดนให้เกิดความเรียบร้อย

ทหารไทยใช้เวลา 2 วันเต็ม นับตั้งแต่ ซิง ซิง ดาราจีน ขาดการติดต่อและหายตัวไปฝั่ง อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ชายแดนไทย-เมียนมา ด้วยการแจ้งข้อมูลประกอบด้วย รูปถ่าย ชื่อนามสกุล ให้ทหารเมียนมา ชนกลุ่มน้อยทุกกลุ่ม

จนได้รับการติดต่อกลับมา ซิง ซิง อยู่ที่ ชเวโกะโก กับ พ.ต.หม่องวิน ซึ่งเป็นหน่วยขึ้นตรงกับ พ.อ.ชิต ตุ ผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยงแห่งชาติ (KNA)

เบื้องต้น ซิง ซิง ให้การกับ พ.ต.หม่องวิน ว่า ข้ามมาเยี่ยมญาติที่ชเวโกะโก

สำหรับเมือง ชเวโกะโก มีภูมิทัศน์อยู่ใกล้กับชายแดน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีเพียงแม่น้ำเมยขวางกั้น สามารถเดินทางข้ามไปมาสะดวกและ พื้นที่กลุ่มทุนจีน ถูกจับตา การค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมออนไลน์

ย้อนกลับไปช่วงเช้าตรู่วันที่ 3 ม.ค.2568 พิจารณาจากพฤติกรรม ซิง ซิง ตั้งแต่เดินออกมาจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เรียกรถด้วยตัวเอง โดยการว่าจ้าง และปักหมุดไปที่ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เมื่อถึงที่หมาย จ่ายเป็นเงินไทยจำนวน 5,000 บาท

หลักฐานบ่งชี้ว่า ซิง ซิง รู้ข้อมูล ขั้นตอนการปฏิบัติมาพอสมควร ผ่านการพูดคุยกับผู้ประสานงานผ่านเว็บเว่ยป๋อของจีน ลงรับสมัครแคสติ้งงาน โดยอ้างชื่อสื่อบันเทิงยักษ์ใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศไทย

ผิดวิสัยของคนจีนที่ไม่เคยมาเมืองไทย ตั้งแต่วิธีการเดินทางเมื่อมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปถึงอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พื้นที่นัดหมาย คนฝั่งเมียนมา มารับตัวไป ผ่านช่องทางธรรมชาติ เพราะไม่มีหนังสือผ่านแดนข้ามไปฝั่งเมียนมา

แม้ ซิง ซิง ไม่ใช่ดาราเบอร์ต้นของจีน แต่พลันที่แฟนสาวโพสต์ขอความช่วยเหลือผ่านเว็บเว่ยป๋อให้ช่วยตามหา ข่าวจึงกระพือไปไกลในหมู่คนจีน รวมถึงประเทศไทย ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรง

เพราะเมื่อหลายปีที่ผ่านมา พลันที่ ภาพยนตร์เรื่อง “No More Bets” มีเนื้อหาคนจีนถูกหลอกมาทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีความโหดร้ายและน่ากลัวในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในภาพยนตร์มีส่วนคล้ายทั้ง ไทย เมียนมา และกัมพูชา

กลายเป็นการจุดกระแสในประเทศจีน เมืองไทยไม่ปลอดภัย และมีการบอกต่อๆ กัน หากมาเที่ยวเมืองไทย ระวังนอนหลับไปบนรถ ตื่นมาอีกทีไปโผล่ฝั่งเมียนมา

กรณี ซิง ซิง ก็คล้ายคลึงกับคนไทยจำนวนมากที่ถูกหลอกไปทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ฝั่งเพื่อนบ้าน ผ่านการประกาศรับสมัครงาน เงินเดือนดี สวัสดิการเยี่ยม พร้อมออกค่าใช้จ่ายสำหรับเดินทางให้ทั้งหมด

แต่เมื่อไปถึงจะถูกยึดโทรศัพท์ นำส่งตัวไปยังพื้นที่เป้าหมาย เข้าขั้นตอนกระบวนการข่มขู่ เรียกค่าไถ่จากคนใกล้ชิด และครอบครัว แลกกับการส่งตัวกลับ

กรณีที่ไม่มีเงินมาจ่ายค่าไถ่ตัว ก็จะถูกยื่นเงื่อนไข ให้ติดต่อคนรู้จัก 3-5 คน ให้เดินทางมาทำงาน หากสามารถทำได้ตามเป้า ก็จะได้รับการปล่อยตัว หรือแม้แต่ ให้ทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์ หลอกเงินให้ได้ตามจำนวนที่ต้องการ เพื่อแลกกับการปล่อยตัว

ทว่า เงื่อนไขต่างๆ เป็นเพียงยาหอมสร้างแรงจูงใจให้เหยื่อชักชวนคนรู้จักมาทำงาน หรือบางเคสครอบครัวส่งเงินมาจ่ายค่าไถ่เรียบร้อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับการปล่อยตัว

ส่วนกรณี ซิง ซิง เปรียบเป็นเผือกร้อนอยู่ในมือ ที่ไม่ควรเก็บเอาไว้ จึงไร้ซึ่งค่าไถ่ ภารกิจจบลงใน 48 ชั่วโมง ก่อนส่งมอบตัวให้เจ้าหน้าที่ฝั่งไทย

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างด้าน ประเทศไทยถูกมองเป็นทางผ่านก่ออาชญากรรม ยาเสพติด ค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และมีคนไทยจำนวนไม่น้อย ตกเป็นเหยื่อของขบวนการเหล่านี้

นายกฯ “แพทองธาร ชินวัตร” ตระหนักถึงความสำคัญ ยกให้เป็นวาระเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหา เตรียมมอบเป็นนโยบายการซีลชายแดน 2 ชั้น หรือสร้างกำแพง 2 ชั้น ให้กับทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง 14 จังหวัด ที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน 27 ม.ค.นี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล

ประกอบด้วย 14 ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ 51 อำเภอ 76 ผู้กำกับสถานีตำรวจ ผู้การจังหวัด 14 จังหวัด รวมถึง แม่ทัพภาคที่1 แม่ทัพภาคที่ 2 แม่ทัพภาคที่ 3 และแม่ทัพภาคที่ 4 และหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งหมด

จากนั้นจะคิกออฟเริ่มปฏิบัติงานได้ทันที และประเมินผลงานทุก 6 เดือน จังหวัดใด อำเภอใด ไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น เช่น ปัญหาไม่ลดลง ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ต้องถูกย้ายออกนอกพื้นที่ แต่หากผลงานเด่นชัด เป็นรูปธรรมรัฐบาลตบรางวัลให้


ชั้นแรก (แนวชายแดน) เป็นความรับผิดชอบของ กองกำลังป้องกันชายแดน สนธิกำลังระหว่างตำรวจ 
ฝ่ายปกครอง และหน่วยที่ทหารรับผิดชอบดูแลสกัดกั้นตามแนวชายแดน ซึ่งจะเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจ ช่องทางธรรมชาติ  เนื่องจากชายแดนไทยกว้างและยาว มีช่องทางธรรมชาติอีกจำนวนมาก

ชั้นที่สอง พื้นที่ตอนในระดับอำเภอเป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่าง ตำรวจ นายอำเภอ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ในการป้องกันและสกัด จัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด จัดชุดปฏิบัติการลงพื้นที่

 ดังนั้น ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ต้องมีการบูรณาการประสานการทำงานใกล้ชิด เพื่อให้ทุกหน่วยงานสามารถมองเห็นเป้าหมายและเดินไปในทิศทางเดียวกัน

6 เดือนนับจากนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการชี้วัดผลงาน ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง 14 จังหวัดติดกับประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นการพิสูจน์ฝีมือ “รัฐบาลแพทองธาร”ด้วย 

เพราะยาเสพติด ค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมออนไลน์รูปแบบต่างๆ เป็นปัญหาที่ซุกอยู่ใต้พรม สร้างความเดือนร้อนให้คนไทยและประเทศไทยมายาวนาน