ปชป.หนุนปปช.แก้กม.ไต่สวนการทุจริต
"หมอวรงค์"หนุน"วิชา"แก้กฎหมายป.ป.ช.เพิ่มอำนาจไต่สวนการคอร์รัปชั่น เพราะทุจริตมาจากฝ่ายขรก.-การเมือง
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เตรียมจะเสนอแก้ไขกฎหมายป.ป.ช.ให้มีประสิทธิภาพโดยการเพิ่มอำนาจป.ป.ช.ในการไต่สวนภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ว่า สนับสนุนแนวคิดนี้เต็ม100เปอร์เซ็นต์ เพราะจะเห็นชัดเจนว่าการทุจริตในโครงการของรัฐบาลส่วนใหญ่องค์ประกอบหลักที่เกี่ยวข้องในการคอร์รัปชั่นคือ ฝ่ายการเมือง ฝ่ายข้าราชการประจำบางส่วนและฝ่ายเอกชนที่วิ่งเข้ามารับงาน ซึ่งกฎหมายป.ป.ช.ที่มีผลบังคับใช้อยู่ปัจจุบันนี้ ให้อำนาจป.ป.ช.สอบแค่ฝ่ายการเมืองและข้าราชการที่เกี่ยวข้อง หากมีการเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)นำไปปรับเปลี่ยนแก้ไขเพิ่มอำนาจในการเรียกสอบฝ่ายเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทั้งในเชิงการให้ข้อมูลแวดล้อมและบริษัทหรือเครือข่ายเอกชนที่ไปร่วมรับงานหรือร่วมเครือข่ายการโกงด้วยก็จะครบวงจร
นพ.วรงค์ กล่าวต่อว่า ตัวอย่างการทุจริตคอร์รัปชั่นที่ชัดเจนที่สุดและมีผลเสียหายย่อยยับคือโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่ผ่านมา ที่มีตัวหลัก 3 องค์ประกอบ คือ ฝ่ายการเมือง ฝ่ายข้าราชการ และฝ่ายเอกชน ที่เกิดการทุจริตจนเสียหายมหาศาลหลายแสนล้าน ก็เพราะมีภาคเอกชนเข้ามารับดำเนินการหรือเป็นตัววิ่งชนงานเพื่อรับดำเนินการแทน ถือว่าภาคเอกชนเป็นตัวหลักในการทุจริตจนเกิดความเสียหายมหาศาล คือ บรรดาเจ้าของ โรงสี โกดังเก็บข้าวเอกชนที่ร่วมโครงการทั้งที่ปล่อยให้เกิดการสวมสิทธิ์ ลักลอบนำข้าวออกไปเวียนเทียน หรือข้าวหาย โดยมีข้าราชการบางส่วนหลิ่วตา จึงถือเป็นข้อเสนอที่ดีและควรเร่งนำมาสู่ภาคปฏิบัติให้เร็วที่สุด เพราะคิดว่าการแก้ไขกฎหมายนี้คงไม่ยุ่งยาก ถือเป็นการอุดรูรั่วหรือปิดช่องทางของปัญหาที่มองเห็นว่าเกิดขึ้น เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นมีประสิทธิภาพและครอบคลุมมากที่สุด ในการใช้งบประมาณแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน