ชู3นิ้วต้านรัฐประหารหน้านายกฯลงพื้นที่ขอนแก่น
"ประยุทธ์"ตรวจภัยแล้งที่ขอนแก่น เจอนักศึกษาชูสามนิ้วขณะขึ้นกล่าวบนเวทีก่อนจะปล่อยคาราวานภัยแล้ง ยันทำรถไฟสะอาด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง ที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น โดยเมื่อเดินทางถึงศาลากลางได้ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 ที่หน้าศาลากลาง
จากนั้นได้เดินทางไปที่เต็นท์เพื่อฟังรายงาน พบปะพูดคุย กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มาต้อนรับภายในเต็นท์โดมขนาดใหญ่ที่จัดเตรียมไว้บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารคุมพื้นที่อยู่
ระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์ ขึ้นกล่าวปราศัยบนเวที ได้มีกลุ่มนักศึกษาจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นนักศึกษาที่ทำงานในชื่อ "กลุ่มดาวดิน" รวม 5 คน ได้ฝ่าเข้าไปที่บริเวณหน้าเวทีพร้อมกับชูสามนิ้ว และทุกคนสวมเสื้อยืดดำที่สกรีนตัวหนังสือ 5 พยางค์ คำว่า ไม่ เอา รัฐ ประหาร แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะเข้มงวด แต่นักศึกษากลุ่มนี้ก็สามารถฝ่าเข้าไปถึงหน้าเวทีและแสดงสัญลักษณ์ชูสามนิ้ว
ระหว่างนั้น นายกรัฐมนตรี อยู่ในอารมณ์ที่อึ้งกับเหตุการณ์ แต่ก็ยิ้มออกมาในตอนท้าย และกล่าวติดตลกว่า "นึกว่าเป็นการแสดงกระตั้วยิงเสือ" เพราะนักศึกษากลุ่มนี้ได้ถอดเสื้อคลุมออก ก่อนที่จะวิ่งเข้ามาหน้าเวที จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้ง 5 คน คือ 1นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นักศึกษาปี 3 2.นายพายุ บุญโสภณ นักศึกษาปี 2 3.นายวิชชากร อนุชน นักศึกษาปี 2 4.นายเจตน์สฤษฎิ์นามโคตร นักศึกษาปี 4 และ 5.นายวสันต์ เสกสิทธิ์ นักศึกษาปี 4 ไปสอบสวนและทำประวัติที่ กองบังคับการภูธรจังหวัดขอนแก่น จากนั้นได้นำส่งตัวไปควบคุมที่ มณฑลทหารบก 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงอัยการศึก ขณะที่ก่อนหน้านี้ในช่วง ได้มีการโปรยและติดแผ่นปลิวข้อความ "อีสานไม่เอารัฐประหาร" ที่บริเวณถนนศรีจันทร์ ถ.กัลปพฤกษ์ และถนนศูนย์ราชการด้วย
ภายหลังจากการนำตัวนักศึกษาทั้ง 5 คนออกไป พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "วันนี้ได้พกพาความห่วงใย เขามีความคิดแตกต่างไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ไปหาข้อยุติให้ได้ ตอนนี้ต้องการทำทุกอย่างเพื่อให้พี่น้องประชาชนทุกคนทั้งประเทศ วันนี้มีรัฐมนตรีหลายท่านมาเพื่อที่จะทำให้ยั่งยืน อยากจะบอกสั้นๆว่าเราต้องมองประเทศเป็นหนึ่งเดียวให้ได้ ทุกภาค ทุกจังหวัดทุกตำบล คือประเทศไทย รัฐบาลมีหน้าที่ในการดูแลทุกจังหวัดทุกพื้นที่ทุกตารางนิ้วของประเทศไทย ให้เกิดความเป็นธรรมความเจริญให้ได้ สิ่งใดเป็นปัญหาบ้านเมือง วันนี้มาเปิดขบวนช่วยเหลือภัยแล้ง ซึ่งเกิดมาหลายสิบปี แล้วแก้ไม่ได้เสียที วันนี้จะมาแก้อย่างไรให้เกิดความยั่งยืน โดยไม่บังคับใครทั้งสิ้น
ต้องให้ความสำคัญกับยุทธศาสตร์นำความเจริญ
เพียงแต่บอกว่าเราจะทำอะไรอย่างไร มาตกลงกันเสียก่อนและช่วยบอกด้วยว่าถ้าจะขัดแย้งกันต่อไป ไม่ร่วมมือกันประเทศชาติจะไปอย่างไร วันนี้จะต้องแก้ไขภาพใหญ่ของประเทศให้ได้เพื่อจะไปเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน และเชื่อมต่อไปยังประชาคมต่างประเทศ ก็จะทำให้ราคาของและการค้าขายมันราคาสูงขึ้น การเกษตรผลิตเดิมก็ขายได้เท่านี้ เราต้องยกระดับราคาสินค้าในประเทศให้ได้ก่อน แล้วเชื่อมโยงขายต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้วจึงจะต่อไปประชาคมโลก เราจะต้องเดินทั้งสามอย่าง ในประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านและประชาคมโลก
อย่ามองเล็กน้อยของเราเป็นประเด็นไปทุกเรื่อง ทำให้การขับเคลื่อนไปไม่ได้ ต้องมองยุทธศาสตร์ประเทศเจริญไปอย่างไร ยุทธศาสตร์เรื่องการจัดการน้ำอย่างไรไม่ให้เกิดภัยแล้วซ้ำซาก จะปลูกพืชอย่างไร และจะดูแลเรื่องคมนาคมอย่างไร ให้ความเป็นธรรมพี่น้องอย่างไร เห็นใจพี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อย โดยเฉพาะภาคเกษตรกรรมมีรายได้น้อยมาก เราพยายามดูทุกอย่าง การแก้ปัญหาด้วยการเอาเงินให้เป็นการแก้ปัญหาชั่วคราว ต้องแก้ยั่งยืนจะต้องทำอย่างไร การปลูกข้าวต้องปลูกข้าวที่มีคุณภาพ มีราคาที่เป็นต้องการทำให้ราคาสูงแต่ถ้าข้าวไม่ดีไม่มีคุณภาพก็ขายไม่ได้ดังนั้นจึงต้องคิดในภาพกว้างว่าจะทำอย่างไร
ให้ความสนใจกับปัญหายากจน-เหลื่อมล้ำ
วันนี้ประเทศเราแก้ปัญหาในปลายเหตุมานานพอสมควร ผมเป็นทหารมา 38 ปี วันนี้ทุกคนทราบดีว่า ปัญหาเหล่านี้ต้องได้รับรับการแก้ไข ไม่ใช่เรื่องการเมือง ความขัดแย้ง แต่ต้องการมาแก้เรื่องความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ บังคับใช้กฎหมายให้เป็นธรรม เกิดความทั่วถึงเท่าเทียมกัน วางรากฐานไว้วันหน้า วันนี้ถ้าเกิดความขัดแย้งก็เดินหน้าไม่ได้ จะเห็นว่าก่อนที่เราจะเข้ามายุ่งเหยิงวุ่นไปหมด ทหารจึงทำทุกอย่างเพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย
วันนี้เข้ามาได้ 4-5 เดือน จะเห็นว่าทุกอย่างค่อนข้างจะดีขึ้น จะพอใจหรือไม่พอใจเท่านั้นแหละ อยากจะบอกว่าทุกอย่างต้องใช้เวลา ในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะการแก้ปัญหา คนเป็นจำนวนหลายสิบล้านคนไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งส่วนกลาง ท้องถิ่น อบต.เยอะแยะไปหมด ทำอย่างไรจะทำให้ทุกคนเป็นที่พอใจ วันนี้อย่าไปเชื่อข่าวลือเรื่องโน้นเรื่องนี้ ที่จะยุบไม่ยุบ ไม่เคยมี ทำอย่างไรให้ดีขึ้น ให้เป็นระบบขึ้น ทำอย่างไรให้เกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น วันนี้รัฐบาลต้องการคิดลงรายละเอียดเลยว่า แผนการระยะยาวจะเกิดอะไรขึ้น จะต้องมองอนาคตประเทศชาติจะเดินไปอย่างไร
ไปประชุมต่างประเทศ มองไปแต่อนาคต
เกษตรกรจะไปข้างหน้าอย่างไร การจัดน้ำจะเป็นอย่างไร ถ้าไม่รู้อนาคตประเทศไทยเดินหน้าไม่ได้ ไปประชุมต่างประเทศ หลายการประชุม เขาพูดถึงอนาคต อีกสิบปียี่สิบปีข้างหน้า โลกจะเป็นอย่างไร เพื่อที่จะพัฒนาตัวเองอย่างไร ถ้าเรามัวแต่ขัดแย้งกันอยู่อย่างนี้ เราก็จะเป็นประเทศที่อยู่ตรงกลางที่ถูกแวดล้อมด้วยประเทศที่ยกระดับกันหมดแล้ว วันนี้เราต้องลดความขัดแย้งให้ได้ หนักนิดเบาหน่อยต้องอดทนให้อภัยซึ่งกันและกัน ผมไม่ใช่คนก้าวร้าวหรือชอบความรุนแรง เห็นตัวตนผมแล้ว เจ็บปวดทุกครั้งที่ต้องมามีปัญหากับพวกท่านทั้งหลาย ไม่เคยคิดทั้งสิ้น วันนี้มาเอาหัวใจมาเต็มร้อย ผมให้หัวใจเกินร้อยให้ผมคืนได้ไหมครับ เราสัญญากันนะครับว่าเรากับรัฐบาลจะขับเคลื่อนประเทศไทยไปด้วยกันให้ได้ วิกฤตความยากจน รายได้ การเข้าถึงกฎหมายความยุติธรรม เรามีเวลาจำกัดเราต้องช่วยกัน
เรื่องที่ดินเราตั้งคณะกรรมการมาใหม่แล้ว ค่อยเป็นค่อยไป ให้ใจเย็นๆ คิดทั้งระบบ ใครมีอยู่แล้วอย่าขายที่ดินหายาก ตอนนี้กำลังช่วยเรื่องข้าวต้องซื่อสัตย์ต่อกัน จะได้รีบจ่ายบางคนยังไม่ได้ยังตรวจสอบไม่เสร็จ แม้จะเงินไม่มากแต่มีค่ากับทุกคน ต้องอยู่กันอย่างพอเพียงเงินข้าวช่วยได้ระยะหนึ่ง แต่เราต้องมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการปลูกให้ต้นทุนการผลิตลดลง ผลิตเพิ่มขึ้น ราคาตลาดดีขึ้น ฉะนั้นไม่มีเวลามาต่อสู้ขัดแย้งกับใครอีกแล้วเพราะเวลาจำกัด ใครมีอะไรปัญหาอะไรก็ส่งมาได้ รับแจ้งไว้หมด อย่าประท้วงเมื่อกี้ก็รับมา ให้คณะกรรมการพิจารณาทั้งทุกอย่างเราต้องแก้แต่ต้องใช้เวลา บางอย่างแก้โดยใช้กฎหมาย บางอย่างแก้ได้เลย ถ้าจำเป็นก็ส่งมาศูนย์ดำรงธรรม อย่างเมื่อกี้ก็น่าให้ส่งศูนย์ดำรงธรรม มาอย่างนี้ไม่ได้ประโยชน์ เมื่อกี้คิดว่าเอาการแสดงมารับผม นึกว่าเป็นกระตั้วแทงเสือ ไม่เป็นไม่ได้โกรธแค้นกัน พี่น้องคนไทยด้วยกันทั้งสิ้นต้องรักกัน
ถ้าไม่ดูแลประชาชน แล้วใครจะดู ที่ผมมาวันนี้ฝากถึงพี่น้องประชาชนที่ไมได้มาด้วย ให้กำลังใจข้าราชการที่ตั้งใจทำงาน คอร์รัปชั่นเลิกเสีย จะได้เอาเงินมาใช้เต็มที่ ใครจะอ้างผลประโยชน์ผมไม่มี อย่าให้เกิดในพื้นที่ท่านโดยเด็ดขาด
ทำรถไฟสะอาด - ส้วมไม่เหม็น
ต้องแก้ปัญหาเรื่องน้ำเรื่องขยะเรื่องที่ดิน เจาะน้ำบาดาล ขุดลอกคูคลอง เยอะแยะไปหมด เดี๋ยวรถไฟก็จะเกิด จะต้องสร้างทางรถไฟอีกประมาณ 2,000 กิโลเมตร สร้างตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ระยะทาง 2,000 กว่ากิโลเมตรก็เท่าเดิม ซึ่งจะเพิ่มสมัยนี้ ระยะเท่ากัน ค่อยวางแผน ซึ่งเส้นทางที่เพิ่มอีก 2,000 กิโลเมตร เป็นเส้นทางคู่สวนกัน จะได้สะดวกขึ้น ถ้าไปนั่งรถความเร็วค่าโดยสารแพง เอารถไฟสะอาดส้วมไม่เหม็น กำลังทำรวมทั้งรถไฟที่จะเชื่อมโยงไปลาวไปจีน พม่า และผ่านด้านอีสานด้วย ทำให้ขนส่งเดินทางดีในอนาคต ยังบอกอีกว่าในฐานะที่ทุกคนเป็นเจ้าหน้าที่ต้องทำงานถ้อยทีถ้อยอาศัยอย่าโมโห ให้บริการด้วยดี ให้เดินหน้าโดยไม่ขัดแย้ง มาแก้ปัญหาเรื่องที่อยู่ที่กินน้ำดื่มน้ำใช้ดีกว่า
เรื่องน้ำบาดาลตั้ง 4-5 หน่วยงานมาเจาะเป่าบ่อเครื่องใหม่ทำอยู่แล้ว ไม่ใช่มีแค่นี้ทุกที่ ในหมื่นกว่าหมู่บ้านใน 10 จังหวัดมีแล้งซ้ำซาก ประมาณ 5,000 กว่าหมู่บ้าน แล้งแต่ก็ปลูกข้าว ต้องคุยกันต้องขับเคลื่อน รัฐบาลขับเคลื่อนนโยบาย จังหวัดอำเภอ อปท.ขับเคลื่อนข้างล่างให้ได้ เม็ดเงินต้องถึงไม่ทุจริต จับต้องได้ เดี๋ยวหาเงินให้เพิ่มอีก ให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง ให้เดินหน้าได้ ถ้าเราทำเป็นชั้นๆ ทำระยะยาวโดยการวางแผน วางอนาคตของหมู่บ้านในแต่ละปี จะสอดกัน ทำเป็นแผนรัฐบาลหาเงินมาให้
ไม่มีใครทำให้คนรับได้ 100 เปอร์เซ็นต์แต่ก็พยายามให้คนพอใจมากที่สุด โดยไม่เสียประโยชน์คนทั้งประเทศต้องฝากความคิดถึงพ่อแม่พี่น้องทุกคนทั่วประเทศ ที่ไม่ได้มาที่นี่ และต้องขอโทษทุกคนที่มานั่งฟังตรงนี้ แต่ถ้าไม่เจอกันตรงนี้ก็คุยกันไม่ได้ ไม่ได้เรื่อง ผมเป็นคนจริงใจ รักพี่น้องทุกคนรู้ถึงความลำบากยากแค้น และขอขอบคุณทุกคนขอให้สิ่งที่เราตั้งใจจะร่วมมือกันทำงานวันนี้ให้ประเทศชาติเดินหน้าด้วยความเข้มแข็ง เราต้องไว้วางใจ ให้กำลังใจอย่างบั่นทอนซึ่งกันและกัน เสนอแนะให้เป็นประโยชน์ ให้เวลาในการแก้ปัญหาด้วยความร่วมมือระหว่างกันภาครัฐ เอกชน และประชาชน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ทำพิธีปล่อยขบวนคาราวานภัยแล้ง แล้วเดินทางไปประชุมการเตรียมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดภาคอีสานภาคเหนือ และหัวหน้าส่วนราชการกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ที่ห้องประชุมพระธาตุขามแก่น ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น.