หนุน'ประยุทธ์'งัดม.44 ปลด 'สุวิจักขณ์' เซ่นปมนาฬิกาสภา
"วัชระ" ยุส่ง "หัวหน้า คสช." งัดม.44 ปลด "สุวิจักขณ์" พ้นราชการ เซ่นปมนาฬิกาสภา ชี้ช่อง คสช. สอบต่อ มีนักการเมืองเอี่ยว
นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถอดนาฬิกาจำนวน 242 เรือน มูลค่ากว่า 14 ล้านบาท ออกจากอาคารรัฐสภาและอาคารวุฒิสภาว่า เป็นผลงานปราบทุจริตของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จับต้องได้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เป็นประธานรัฐสภา
โดยนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งการซื้อนาฬิการาคาสูงถึงเรือนละ 7.5 หมื่นบาท ยืนยันว่าเรื่องนี้มีนักการเมืองเกี่ยวข้อง สภาฯควรตรวจสอบให้ถึง เพราะตนไม่เห็นด้วยกับการลงโทษเฉพาะข้าราชการผู้น้อย ด้วยการตัดเงินเดือน 2 เปอร์เซ็นต์ เพราะต้องทำตามผู้บังคับบัญชา
อย่างไรก็ตาม น่าสนใจว่า บริษัทชนะการประมูลได้ทำหนังสือถึงสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อยกนาฬิกาให้เป็นกรรมสิทธิ์แก่สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อใช้ประโยชน์ในราชการ โดยบริษัทไม่คิดค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อแลกกับการขอคืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารกรุงเทพ เลขที่ 1005257 มูลค่า 744,554 บาท แต่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกลับไม่กล้ารับนาฬิกาดังกล่าวไว้เป็นกรรมสิทธิ์ กลับใช้วิธีปลดนาฬิกาลงแทน
นายวัชระ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวมีการยื่นให้ป.ป.ช. ตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่คืบหน้า และยังไม่มีการลงโทษนายสุวิจักขณ์ ที่ถูกย้ายไปดำรงตำแหน่งที่สำนักนายกรัฐมนตรี และขอถามว่า การที่สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สั่งเก็บของกลางที่เกิดจากการกระทำความผิดทำไม เพราะหลักฐานชัดเจน อีกทั้งสภาเสียทั้งชื่อเสียงและเกียรติยศ จึงเรียกร้องให้คสช. ตรงจสอบและลงโทษ ผู้เกี่ยวข้อง อย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะโยงไปถึงนักการเมืองพรรคใดก็ตาม อย่าได้ละเว้น และเสนอหัวหน้าคสช. ใช้มาตรา44 จัดการ
นอกจากนั้น นายวัชระ กล่าวอีกว่า ขอให้ ป.ป.ช. เร่งตรวจสอบกรณีบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) รับจัดโครงการโรดโชว์สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 ในกลุ่มจังหวัดอุบลราชธานี ขอนแก่น นครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยาและเชียงใหม่ เป็นเงิน 100 ล้านบาท เพราะเรื่องดังกล่าวตนได้ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ผ่านไป 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใด