เลขาธิการ พปชร. ลั่น4รมต.ลาออก สร้างมาตรฐานการเมืองใหม่ ที่ไม่มีใครทำมาก่อน พร้อมลงการเมืองเต็มตัว แจง3เดือนที่ผ่านมา ทำงานท่ามกลางกดดัน หวังงานทีมเศรษฐกิจแล้วเสร็จ
เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2562 ทำเนียบรัฐบาล 4 รัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รมว. อุตสาหกรรม หัวหน้าพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ภูตระกูล รมต.ประจําสํานักนายกรัฐมนตรี โฆษกพรรค ร่วมกันแถลงข่าวลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีเพื่อไปปฏิบัติงานการเมืองอย่างเต็มตัว
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เลขาธิการพรรคพลังปรพชารัฐ กล่าวว่า การลาออกของพวกเราทั้ง 4 คน ถือว่าโดยหลักการ ตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญหรือธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา ไม่เคยมีรัฐมนตรีที่ลาออกหลังพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งประกาศใช้ แรงกดดันที่มีต่อพวกเรามาตลอดระยะเวลา 3 เดือน พวกเรารับแรงกดดันด้วยความอดทน อย่างที่หัวหน้าพรรคได้พูดว่า เราเข้าสู่การเมืองโดยมีเป้าหมายคือการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ได้เอาการเมืองนำการทำงานของพวกเรา
นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราน้อมรับคำวิจารณ์และก็เรียนว่าคำวิจารณ์เหล่านั้นเป็นคำวิจารณ์ทางการเมืองทั้งสิ้น ไม่ได้อยู่บนหลักการ หรือเหตุผลที่เคยปฏิบัติกันมาแต่เนื่องจากพวกเราทั้ง 4 คนอาสาตัวเองเข้ามาทำงานการเมือง เราถือว่าเราเป็นนักการเมือง ใหม่ของบริบทการเมืองของประเทศไทย เราต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ทางการเมือง ที่ไม่ใช้ความได้เปรียบทางการเมืองเป็นจุดหลักในการทำงานการเมืองเป็นเพียงอย่างเดียว
ที่เรารอเวลาจนถึงเวลานี้ เนื่องจากภารกิจที่เรารับผิดชอบในส่วนของทีมเศรษฐกิจ ยังไม่เสร็จสิ้น และประกอบกับการเปลี่ยนแปลงหลายด้านในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนคงเห็นผลงานของพวกเราที่ทำงานหนักตลอดเวลา 3-4 เดือนเพื่อให้งานบรรลุล่วงโดยเร็วที่สุด
"อยากจะเรียนว่ามาตรฐานเหล่านี้เป็นมาตรฐานที่เราตั้งใจทำ ที่ผ่านมาเราไม่ให้สัมภาษณ์ทางการเมืองเลยในห้วงที่ทำงานในเวลาราชการ ถ้าหากจะทำก็จะลากิจ และสิ่งที่เราทำในวันนี้ทั้งหมดอยากให้เชื่อมั่นว่าเราอยากเห็นประเทศไทย ที่ไม่ใช้วาทกรรมการเมือง เราอยากเห็นประเทศไทยที่ทำการเมืองโดยเห็นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน บนความรับผิดชอบ ถึงการทำงานที่จะสร้างประโยชน์โดยตรงต่อประชาชน เพราะฉะนั้นเราทั้ง 4 คนและพรรคประชารัฐตั้งใจที่แสดงจุดยืนที่ชัดเจนทางการเมืองและเรียนว่าการลาออกในครั้งนี้ ไม่เคยมีใครปฏิบัติหรือนักการเมืองใดที่ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ได้กระทำมาก่อน และเมื่อเรา ได้อาสาและรวบรวมคนที่คล้ายพวกเรา เข้ามาทำงานการเมืองเพื่อให้ประเทศจะได้มีทางออกต่อไป และการลาออกวันนี้ไม่ได้อยู่ในแรงกดดันใครทั้งสิ้น เป็นการตัดสินใจเพื่อจะทำงานด้านการเมือง โดยตรงไปตรงมาของพวกเรา"นายสนธิรัตน์ กล่าวและว่า
พวกเรามีความมั่นใจ ว่าประเทศต้องการการเปลี่ยนแปลง และด้วยประสบการณ์ของพวกเราและความตั้งใจทางการเมืองใหม่ของพวกเรา ถือเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะเดินหน้างานการเมืองอย่างเต็มตัว เพื่อประเทศ ถือว่าเรามั่นใจ ส่วนพรรคพลังประชารัฐจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้นถือว่าขึ้นอยู่กับประชาชน และผลเลือกตั้งเป็นหลัก ซึ่งตนคิดว่า เราต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน พรรคพลังประชารัฐจะทำหน้าที่เต็มความสามารถและหากเราได้รับความไว้วางใจ จะทำหน้าที่นั้นต่อไป