ด่วน! ศาลรธน.รับคำร้องส.ส.ฝ่ายค้าน ยื่นฟันคุณสมบัติ ‘ประยุทธ์’ แต่ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องวินิจฉัย ความเป็นนายกรัฐมนตรี ของ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" แต่ไม่ต้องยุติปฏิบัติหน้าที่ และรับคำร้องกรณี พรรคอนาคตใหม่ "ธนาธร-ปิยบุตร" ล้มล้างการปกครองฯ
เมื่อวันที่ 19 ก.ค.62 องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ ม.170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบม.160 (6) หรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่ากรณีนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญม.170 วรรคสาม และม.82 ประกอบกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 จึงมีคำสั่งให้รับคำรองไว้วินิจฉัย พร้อมให้ส่งสำเนาคำร้องไปให้พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะผู้ถูกร้อง เพื่อให้ผู้ถูกร้องยื่นคำชี้แจ้งแก้ข้อกล่าวหาภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง พร้อมวินิจฉัยว่าผู้ถูกร้องไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่การเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องยังไม่ปรากฏเหตุที่สงสัยได้ว่าผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้องที่จะทำให้เกิดความเสียหายประกอบกับผู้ร้องไม่ได้ร้องขอให้ผู้ถูกร้องต้องยุติปฏิบัติหน้าที่ด้วย สำหรับคดีนี้เกิดจากการที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) 110 คน เข้าชื่อร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรว่าพล.อ.ประยุทธ์ เข้าข่ายขาดคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี เหตุจากการเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ
นอกจากนั้น คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยังมีคำสั่งนัดอ่านคำวินิจฉัยกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล,นายสุวิทย์ เมษินทรีย์, นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร และนายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ อดีต 4 รัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ 1 ว่าสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ในวันอังคารที่ 27 สิงหาคม 2562 เวลา 14.00น. โดยศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่า คดีมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ จึงไม่ทำการไต่สวนและให้คู่กรณีมาฟังคำวินิจฉัยในวันดังกล่าว และหากคู่กรณีประสงค์ยื่นคำแถลงการณ์ปิดคดีเป็นหนังสือให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง