'วิษณุ' จ่อถกพิจารณาเงินช่วยเหลือเหยื่อโคราช
"วิษณุ" เตรียมประชุมพิจารณาเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมให้กับผู้ประสบเหตุกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา พร้อมพิจารณาช่วยเหลือห้างเทอร์มินอล 21
เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 63 นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ และได้มอบให้ตนเป็นประธานเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุกราดยิงที่ จ.นครราชสีมานั้น จะนำเงินจากคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ไปให้ความช่วยเหลือ เพราะเข้าข่ายของผู้ประสบสาธารณภัย ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชนทั่วไป โดยจะให้การช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ 4 ข้อ คือ เสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส บาดเจ็บไม่สาหัส และปัญหาสุขภาพจิต สภาพจิตใจที่ตามมา นอกจากนี้จะมีการพิจารณาความเสียหายของทรัพย์สินต่างๆ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยจะนำมาหารือในรายละเอียดอีกครั้ง
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า รัฐบาลในอดีต เคยมีการตั้งเกณฑ์ช่วยเหลือสำหรับผู้เสียชีวิตไว้สูง เคยเสนอให้ได้รับเงินเยียวยาถึงรายละ 7 ล้านบาท ซึ่งคดียังอยู่ในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อมาได้มีการแก้ไขไม่ได้เป็นไปตามวงเงินดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการให้ความช่วยเหลือ มีอยู่แล้ว ตามกฎหมาย 2 ฉบับ คือ การสงเคราะห์ผู้ประสบภัยของกระทรวงการคลัง ซึ่งให้ไม่มาก และกฎหมายเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้เสียหายของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นเงินช่วยเหลือที่ไม่มากเช่นกัน รวมถึงยังมีระเบียบของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่จะช่วยในลักษณะการไปเยี่ยม และนำจิตแพทย์และแพทย์ ไปดูแลทุกเดือน
นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า หากผู้ได้รับผลกระทบเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ จะมีกฎระเบียบแยกต่างหาก เช่น หากเสียชีวิต จะได้รับเงินเดือนทวีคูณ 7 เท่า เลื่อนชั้นยศ รับบุตร 1 คนเข้ารับราชการโดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งรัฐบาลมองว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เกิดขึ้นทั้งเจ้าหน้าที่และผู้บริสุทธิ์ จึงต้องเยียวยาให้สมน้ำสมเนื้อ คาดว่าจะประชุมได้ภายในวันนี้ (12 ก.พ.)
เมื่อถามว่า ยอดเงินจำนวน 1 ล้านบาท เพียงพอหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นวงเงินที่เคยให้ความช่วยเหลือในเหตุการณ์ราชประสงค์ จะได้รับเงิน 1 ล้านบาท อาจนำมาเทียบเคียงกับกรณีนี้ได้ แต่ต้องพิจารณากันก่อน โดยเบื้องต้นจะดูวงเงินทั้งหมดที่ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ก่อน หลังจากนั้นจะนำเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยมาเติมให้ครบกับจำนวนเงินที่คณะกรรมการฯ ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปยอดเงินว่าจะเยียวยารายละเท่าไร แต่จะพิจารณาให้สูงสุดตามระเบียบอย่างแน่นอน
“ไม่ได้หมายความว่าจะใช้เงินกองทุนฯ จ่ายให้รายละ 1 ล้านบาท แต่เป็นการนำเงินช่วยเหลือของส่วนต่างๆ มารวมกันทั้งหมด และนำเงินกองทุนฯ ไปเติมให้ และในกรณีนี้จะต้องดูถึงทรัพย์สินของทางภาคเอกชนที่ได้รับความเสียหายด้วย อาทิ เทอร์มินอล 21 ขอย้ำว่าทั้งหมดเป็นการช่วยเหลือจากภาครัฐ แต่หากภาคเอกชนอื่นๆ จะสนับสนุนเพิ่มเติม สามารถทำได้ และทราบว่าปลัดกระทรวงการคลังแจ้งว่ามีรัฐวิสาหกิจจะรวบรวมเงินจำนวนหลายล้านบาท มอบให้เป็นพิเศษ จะนำไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในครั้งนี้ด้วย” นายวิษณุ กล่าว