'นิพิฎฐ์' ฝากข้อคิดเวลาขึ้นศาลมีแค่แพ้หรือชนะ ต้องยอมรับผลตัดสิน
'นิพิฎฐ์' มั่นใจกระบวนการยุติธรรมไทย เตือน ทุกฝ่ายถึงเวลาขึ้นศาลมีแค่แพ้หรือชนะ ออกหน้าไหนต้องยอมรับผล
นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความคิดเห็นถึงกระบวนการยุติธรรมในขณะนี้ผ่านทางเฟซบุ๊กว่า ศาลยุติธรรมทำงานหนัก หลายเรื่องคำสั่งศาลออกมาดีครับ เช่น การยกคำร้องฝากขังผู้ต้องหากรณีการชุมนุมประท้วงรัฐบาล หรือการอนุญาตให้ฝากขังได้ตามความจำเป็นแห่งการสอบสวน ผมว่าศาลยืนตรงกลางเป๊ะเลย ระหว่างการคุ้มครองสิทธิของผู้ชุมนุม กับ การละเมิดกฎหมาย ไม่ให้ใครเอาอิสระภาพของผู้ชุมนุมมากดดัน ขณะเดียวกันก็ไม่ให้มีการละเมิดกฎหมาย แต่ไม่ใช่ว่า ศาลจะทำอย่างนี้ได้นานนะครับ เมื่อคดีเข้าสู่การพิจาณาของศาลมันก็ต้องจบด้วยการแพ้ หรือ ชนะ
"การต่อสู้คดีไม่เหมือนการเล่นกีฬา กีฬาอาจมีเสมอกันได้ แต่คดีอาญาแพ้หรือชนะเท่านั้น ผู้เล่นก็ต้องเสี่ยงเอาเอง และยอมรับผลจากการกระทำตามความเชื่อของตัวเอง การชุมนุมประท้วงในเมืองไทย ตามประวัติศาสตร์ ผู้ชุมนุมไม่เคยชนะรัฐบาลนะครับ ทหารต้องออกมาแทรกแซงในตอนสุดท้ายทุกครั้ง"
ด้าน นายนคร มาฉิม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งปัจจุบันเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า สงคราม ยังไม่จบ ขอวีรชนยืนหยัดสู้ต่อไป ชัยชนะอยู่แค่เอื้อม หลังจากตั้งรับมาระยะหนึ่งที่มวลชนฝ่ายประชาธิปไตย นักเรียน นิสิต นักศึกษาและประชาชนสามารถรวมตัวกันติด การเอาคืน และรุกกลับของพวกเขากระทำหลายรูปแบบ จึงอยากจะให้บรรดา ข้าราชการทั้งหลาย ทั้งข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อ ส ม. และจิตอาสาที่รักความเป็นธรรม รักประชาธิปไตย รักและปรารถนาจะส่งมอบอนาคตที่ดี ส่งมอบระบอบการเมืองการปกครองที่ดี ให้แก่ลูกหลาน อย่ายอมเป็นเครื่องมืออย่าทำร้าย ทำลายอนาคตของประเทศ อนาคตของลูกหลานโปรดหันกลับมาอยู่ฝั่งประชาชน ฝ่ายประชาธิปไตยเถิด หาไม่แล้ว เมื่อฝ่ายประชาธิปไตยชนะประวัติศาสตร์ยุคใหม่จะบันทึกพวกท่านว่าทำลายอนาคตของลูกหลาน สงครามครั้งนี้ยังไม่จบในเวลาอันใกล้ และคงจะต้องใช้เวลา ซึ่งอาจมีความสูญเสียบ้างทั้งต่อชีวิต ต่อเสรีภาพของนักสู้ และเหล่าวีรชน เพราะระบอบเผด็จการแข็งแกร่ง หยั่งรากลึกมายาวนาน
"ขอพี่ น้องประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา อย่าพึ่งท้อแท้ สิ้นหวัง พวกท่านคือเสรีชน คือวีรชนที่จะสร้างอนาคตที่ดี ที่มีสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ภราดรภาพและส่งมอบระบอบการปกครองที่ดีคือประชาธิปไตยให้แก่ตัวท่าน และลูกหลานของพวกเราทุกคน สงครามครั้งนี้ คือสงครามครั้งสุดท้าย แน่นอน เป็นสงครามในรอบ 100 ปี ที่ชัยชนะจะเป็นของประชาชนฝ่ายประชาธิปไตย สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงกำลังพัดผ่าน จับมือกันให้มั่น ดำรงเป้าหมาย ยืนหยัดในหลักการอย่างมั่นคง เด็ดเดี่ยว ปรับปรุงและพัฒนายุทธวิธีการต่อสู้ให้ก้าวล้ำด้วยสติปัญญา ทำทุกวิถีทางเพื่อขยายแนวร่วมดึงมวลชนส่วนใหญ่มาอยู่ฝ่ายเรา ชัยชนะอยู่อีกไม่ไกลอย่าหลงกลเกมฝ่ายเผด็จการทรราช อย่ายอมถอย อย่ายอมรับข้อเสนอที่หลอกลวง ไม่จริงใจ ของฝ่ายเผด็จการทรราช หาไม่แล้วพวกเราจะพ่ายแพ้และถูกไล่ล่าตั้งแต่คุก จนถึงชีวิตแน่นอน"