"ฝ่ายรัฐบาล" แรงหมด ขอลดเวลาตัวเอง-เร่งจบอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนคืนนี้

"ฝ่ายรัฐบาล" แรงหมด ขอลดเวลาตัวเอง-เร่งจบอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนคืนนี้

ประธานวิปรัฐบาล ขอลดเวลาฝั่งตนเอง 1 ชั่วโมง หวังเร่งการอภิปรายร่างรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ให้เสร็จคืนนี้ ด้าน ฝ่ายค้านไม่ยอม ยืนยันใช้เต็มเวลา-ให้โหวตพรุ่งนี้ 13.30 น.

     ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมร่วมรัฐสภา วาระพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับประชาชน ที่นายจอน อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 98,041 คน เสนอ ช่วงเวลา 21.40 น. ได้หารือถึงกรอบการอภิปราย ของแต่ละฝ่าย ซึ่งนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิป รัฐบาล) หารือขอให้ลดเวลาการอภิปราย เพื่อให้การประชุมแล้วเสร็จภายในคืนวันที่ 17 พฤศจิกายน เพื่อให้การประชุมวันที่ 18 พฤศจิกายน จะเร่ิมลงมติในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยฝ่ายของรัฐบาลที่เหลือเวลา ประมาณ 1 ชั่วโมง 22 นาที  จะขอลดเวลาให้เหลือ 22 นาที เป็นต้น 
     อย่างไรก็ตามในส่วนของตัวแทนวิปฝ่ายค้าน ยืนยันจะใช้เวลาที่ได้รับการจัดสรรแบบเต็มเวลาและไม่ลด โดยนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ชี้แจงว่า จากการตกลงของวิป 4 ฝ่ายขอให้ยึดตามกรอบเวลาที่หารือ คือ ฝ่ายรัฐบาล ตามชื่อที่เสนอมีผู้อภิปราย 1 คน จากนั้นจะเหลือเวลา 1 ชั่วโมง  , ฝ่ายค้าน มีรายชื่ออภิปรายอีก 2 คน จากนั้นจะเหลือเวลา 2 ชั่วโมง, ฝ่ายวุฒิสภา มีเสนอชื่อ 2 คน จากนั้นะเหลือเวลา 50 นาที ดังนั้นหากพิจารณาเวลาที่เหลือ ที่จะประชุมต่อวันที่ 18 พฤศจิกายน เร่ิมเวลา 09.30 น. จะทำให้การลงมติเกิดขึ้นเวลา 13.30 น. ถือว่าอยู่ในเกณฑ์และกรอบเวลา
     อย่างไรก็ตามนายวิรัช ยืนยันที่จะขอความร่วมมือให้การอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาจบภายในช่วงดึกของวันที่ 17 พฤศจิกายน เพื่อให้วันที่ 18พฤศจิกายน ได้เริ่มต้นลงมติ พร้อมกับขอให้ฝ่ายค้านใช้เวลา 2 ชั่วโมงที่มีอย่างเต็มที่ และส.ส.พรรครัฐบาลจะนั่งฟัง

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภายังคงท้วงติงต่อการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดย นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว. อภิปรายว่าการแก้ไขเพิ่มเติมและยกเลิกบทบัญญัติสำคัญ​โดยเฉพาะการยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 7 ฉบับ โดยเฉพาะฉบับที่ใช้ปราบปรามการทุจริตที่กังวลว่าจะเป็นการนิรโทษกรรม เพื่อให้คนแดนไกลจะกลับมาอย่างเท่ห์ๆ  ซึ่งตนอาจจะมโนไปเอง แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้.