วุฒิสภาไทยเตือนส.ว.สหรัฐฯห้ามยุ่งการเมืองในประเทศ อาจกระทบสัมพันธ์ 200 ปี
ส.ว.ไทยแถลงโต้ ส.ว.สหรัฐฯ ยืนยัน ไทยเคารพประชาธิปไตยและเสรีภาพการชุมนุม เตือน ห้ามล้ำเส้นการเมืองในประเทศ หวั่น กระทบความสัมพันธ์สองชาติ 200 ปี
ที่รัฐสภา นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ส.ว.และประธานคณะกรรมาการต่างประเทศ วุฒิสภา แถลงถึงกรณีที่นางแทมมี่ ดักเวริร์ธ ส.ว.สหรัฐอเมริกา เชื้อสายไทยได้ร่วมกับส.ว.สหรัฐฯเสนอให้วุฒิสภาสหรัฐฯมีมติสนับสนุนการใช้สิทธิการชุมนุมทางการเมืองในประเทศไทยว่า การประชุมร่วมกันของคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน และคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บรโภค ได้มีความเห็นร่วมกันต่อกรณีที่ส.ว.ของสหรัฐอเมริกาเรียกร้องให้รัฐบาลไทยปกป้องและส่งเสริมการปกครองและการให้สิทธิและเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ ดังนี้
1.ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมถึงการคำนึงสิทธิและเสรีภาพของประชาชน แม้ในบางช่วงเวลาจะมีสถานการณ์ที่ทำให้ความเป็นประชาธิปไตยของประเทศต้องสะดุดลงบ้าง แต่ก็เพื่อให้การปกครองของประเทศมีความเข้มแข็งในอนาคต
2.แม้ความเป็นประชาธิปไตยจะสะดุดลงบ้างในปี 2557 แต่เป็นไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศที่มีสาเหตุมาจากการทุจริตในระบบการเมืองอย่างกว้างขวาง ส่งผลให้เกิดวิกฤตในประเทศไทย
3.รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่มีการเรียกร้องให้ยกเลิกนั้นเมื่อพิจารณาถ่องแท้แล้วจะพบว่ายังคงหลักการสำคัญที่มีระบุไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับก่อนทั้งสิ้น โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสิทธิและเสรีภาพของประชาชน
4.หลังจากประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันและจัดให้มีการเลือกตั้งแล้ว ปรากฎว่าฝ่ายที่ไม่ได้รับการจัดตั้งเป็นรัฐบาลได้พยายามกล่าวหาว่ามีการทุจริตในการเลือกตั้ง รวมไปถึงข้อกล่าวหาว่ารัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้นำไปสู่การยุยงปลุกปั่นให้คนกลุ่มต่างๆ ออกมาชุมนุมประท้วง แม้รัฐธรรมนูญจะให้เสรีภาพในการชุมนุมแต่การกระทำของคนเหล่านั้นกลับเป็นการชุมนุมที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย นอกจากนั้น การชุมนุมประท้วงของบางกลุ่มยังแฝงไปด้วยเจตนาร้ายและก้าวล่วงไปถึงสถาบันหลักของประเทศด้วย
5.หากส.ว.สหรัฐฯยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเมืองการปกครองของประเทศไทย สามารถสอบถามเพื่อรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องได้ที่สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยในสหรัฐฯได้อีกทางหนึ่ง
"คณะกรรมาธิการทั้งสามคณะมีความห่วงกังวลต่อกรณีนี้เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากข้อเรียกร้องต่างๆอาจถูกนำไปตีความที่คลาดเคลื่อน และตั้งอยู่บนข้อเท็จจริงที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงอย่างมาก ซึ่งอาจนำไปสู่ความแตกแยกมากยิ่งขึ้นในสังคมไทย และส่งผลต่อความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศที่มีมาเกือบ 200 ปี จึงเป็นที่มาของการแถลงข่าวร่วมกันในครั้งนี้" นางพิกุลแก้ว กล่าว
ด้านนายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว.และประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า ในมุมมองคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ เราให้ความสำคัญต่อส.ว.สหรัฐอเมริกา แต่นั่นเป็นการเสนอความคิดเห็นด้านเดียว ดังนั้น ต้องเข้าใจและตระหนักถึงการบริหารประเทศของไทย แต่ละประเทศย่อมมีปัญหาแตกต่างกัน โดยสหรัฐฯก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างไม่ต่างกัน ซึ่งแต่ละประเทศจะต้องไม่ก้าวก่ายการบริหารภายในประเทศกันและกัน
นายสมชาย แสวงการ ส.ว.และประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ทั้งสามคณะกรรมาธิการฯมีผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆและเห็นว่าส.ว.สหรัฐฯอาจได้รับข้อมูลด้านเดียวที่ไม่ครอบคลุมถึงสถานการณ์ในประเทศไทย ยืนยันว่าการชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญและเจ้าหน้าที่ยังยึดตามหลักสากลโดยไม่มีความรุนแรงที่เกินกว่ากฎหมายควบคุมไว้ หวังว่าส.ว.สหรัฐฯจะชะลอการเสนอญัตติเอาไว้ พร้อมกับสอบถามข้อมูลจากวุฒิสภาไทยก่อนได้ตลอดเวลา