โหวตแก้รัฐธรรมนูญบัตรสองใบวันนี้ ส.ว.รอสัญญาณนาทีสุดท้าย
โหวตแก้รัฐธรรมนูญบัตรสองใบวันนี้ ส.ว. รอสัญญาณนาทีสุดท้าย ก่อนตัดสินใจ “ฝ่ายเห็นชอบ”มี 187 เสียง-ต้องการอีก 179 เสียง
อาฟเตอร์ช็อคทางการเมืองจากปม “โหวตคว่ำนายกฯ” จากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่งผลต่อการโหวตร่างแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ วาระ 3 ในวันนี้ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม เริ่มเคลื่อนไหว-ทันเกมการเมืองของ “ไส้ศึก” มากขึ้น
โดยเฉพาะ “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และ “วิรัช รัตนเศรษฐ” ประธานวิปรัฐบาล ที่เป็นตัวชูโรงขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้กลับมาใช้กติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ โดยให้ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร. เป็นคนออกหน้า
“ธรรมนัส-วิรัช” ขายฝัน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพปชร.ว่าหากแก้รัฐธรรมนูญมาใช้บัตร 2 ใบ จะทำให้พรรคพปชร.ได้ ส.ส. มากขึ้น เพราะตอนนี้พรรค พปชร.ถือเป็นพรรคใหญ่ หากใช้บัตรใบเดียวโอกาสที่จะไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีสูงมาก ทำให้ พล.อ.ประวิตร เห็นดีเห็นงามตาม “สองขุนศึกคู่กาย”
แม้จะมี “แกนนำพปชร.” บางกลุ่มทักท้วงในทางลับว่า หากแก้รัฐธรรมนูญมาใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะทำให้เข้าทาง “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และมีโอกาสสูงที่พรรคเพื่อไทยจะกลับมาชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์
ทว่า “ธรรมนัส-วิรัช” พรีเซนต์ข้อดี ปัดทิ้งข้อเสีย กล่อมจน พล.อ.ประวิตร ยอมคล้อยตาม ทำให้พรรค พปชร.ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญบัตรเลือกตั้ง 2 ใบเข้าสู่กระบวนการแก้ไข แม้ร่างของพรรคพปชร.จะตกไป แต่ก็ผลักดันร่างของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดินหน้าแก้ไขจนได้
ทว่า เวลานี้ “ธรรมนัส” ถูกนายกฯ ประยุทธ์ ปลดจากเก้าอี้ รมช.เกษตรและสหกรณ์ สะท้อนให้เห็นว่าดุลอำนาจภายในพรรคพปชร.กำลังเปลี่ยนทิศ “ธรรมนัส” ผู้เสนอบัตร 2 ใบ ไม่เหลืออำนาจต่อรองทางการเมือง
ปฏิบัติการของ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันชัดเจนว่า “เจ้าของพรรคตัวจริง” คือใคร แม้ “ธรรมนัส” จะมี ส.ส.พปชร. คอยเป็นแบ็คอัพให้จำนวนมาก แต่หลังเสร็จสิ้นการโหวตซักฟอก อำนาจทางการเมืองทั้งหมดกลับไปอยู่ที่ตัวของ พล.อ.ประยุทธ์
เช่นเดียวกับการโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญบัตร 2 ใบในวันนี้ มีเพียง พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะชี้ขาดว่าจะให้ร่างแก้ไขผ่านวาระ 2 หรือไม่ เพราะในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มี “แกนนำพปชร.” เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อวิเคราะห์เกมการเมืองต่อจากนี้
โดย “แกนนำพปชร.” เกือบทุกคนที่เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เพราะจะทำให้ “ขั้วพรรคร่วมรัฐบาล” เสียงเปรียบอย่างมาก ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องชั่งใจใหม่หมด เพราะจาก "รัฐธรรมนูญที่ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา" จะกลับกลายเป็นรัฐธรรมนูญที่ดีไซน์ให้ “โทนี่” ได้เปรียบขึ้นมาทันที
แม้ใจจริงอยากจะตัด “พรรคก้าวไกล” ออกจากการเมือง แต่คำนวณดูแล้วได้ไม่คุ้มเสีย เพราะจะได้ “โทนี่” เข้ามาครองอำนาจแทน
เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาเปลี่ยนเกมขั้วอำนาจภายในพรรคพปชร. การโหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่ว่าจะผ่านแน่ๆ กลับไม่แน่นอนจนนาทีสุดท้าย โดยการโหวต อาจมีแนวโน้มดังนี้
โดยพรรคที่ออกเสียงเห็นด้วย ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 134 เสียง พรรคประชาธิปัตย์ 48 เสียง พรรคเพื่อชาติ 5 เสียง
พรรคที่ออกเสียงไม่เห็นด้วย พรรคก้าวไกล 48 เสียง จาก 53 เสียง (งูเห่า 5 เสียง) พรรคเสรีรวมไทย 10 เสียง พรรคประชาชาติ 7 เสียง และพรรคเล็กอื่นๆ
พรรคที่งดออกเสียง ประกอบด้วย พรรคภูมิใจไทย 59 เสียง (ศาลสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ 2 ราย) + ส.ส.งูเห่า 5 เสียง พรรคเศรษฐกิจใหม่ 6 เสียง พรรครวมพลังประชาชาติไทย 5 เสียง
พรรคฟรีโหวต ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ 119 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 12 เสียง พรรคชาติพัฒนา 4 เสียง
ส่วน ส.ว. จะรอสัญญาณนาทีสุดท้ายอย่างน้อย 180 เสียง และไม่เห็นชอบ - งดออกเสียง - ไม่ลงคะแนน ไม่น้อยกว่า 70 เสียง
โดยหลักเกณฑ์ผ่านการพิจารณาวาระ 3 ต้องใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกของรัฐสภา (366 จาก 732 เสียง) และต้องมีเสียง ส.ว. เห็นชอบไม่น้อยกว่า 84 เสียง และต้องมีเสียงเห็นชอบจาก ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน พรรคที่ไม่มีบุคคลดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หรือประมุขของสภาผู้แทนราษฎร ไม่น้อยกว่า 20% หรือประมาณ 45 คน
เมื่อชำแหละเสียงจะพบว่า เสียงที่จะเห็นด้วยแน่ๆ ลดลง เหลือเพียงเสียงจากพรรคเพื่อไทย 134 เสียง พรรคประชาธิปัตย์ 48 เสียง พรรคเพื่อชาติ 5 เสียง รวมแล้ว 187 เสียง เพราะเสียงจากพรรคพลังประชารัฐ 119 เสียง ถูกเปลี่ยนเป็นฟรีโหวต เสียงจึงวูบหายไปมาก
ทำให้ฝ่ายเห็นชอบมีเพียง 187 เสียง โดยต้องการ 366 เสียงขึ้นไป จึงจะผ่านวาระ 3 ทำให้ต้องการเสียงจาก ส.ว. มากถึง 179 เสียง จากเกณฑ์ที่ต้องการเสียงจาก ส.ว. 84 เสียงขึ้นไป ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญบัตรเลือกตั้ง 2 ใบจึงจะผ่านการพิจารณา
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องวัดใจ ส.ส.พลังประชารัฐ ที่ปล่อยฟรีโหวตว่า จะมาเติมเสียงโหวตให้ “ฝ่ายเห็นชอบ” ได้มากน้อยแค่ไหน แต่จับสัญญาณดูแล้ว ยากที่จะเทเสียงให้ “ฝ่ายเห็นชอบ” แบบแลนด์สไลด์
ดังนั้นการโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญบัตร 2 ใบในวันนี้ จึงค่อนข้างยากที่จะผ่านความเห็นชอบ เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองเปลี่ยน เมื่อ “ธรรมนัส” โดนเขี่ยพ้นจาก ครม.และกำลังถอยฉากจากพรรค พปชร.
เมื่อ “พล.อ.ประยุทธ์” เข้ามาคุมเกมการเมืองด้วยตัวเอง จึงไม่มีทางที่จะเปลี่ยน "รัฐธรรมนูญที่ดีไซน์เพื่อพวกเรา" ให้เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีไซน์เพื่อ “โทนี่” ให้กลายเป็นข้อเสียเปรียบในการเลือกตั้งครั้งต่อไป