"นายกฯ" สั่ง สำรอง "ยาฟาวิพิราเวียร์" 84 ล้านเม็ด "กทม." เตียง CI ยังว่าง
"โฆษกรัฐบาล" เผย "นายกฯ" บริหารจัดการ ยา - เวชภัณฑ์ รักษาผู้ป่วยโควิด เพียงพอ สั่ง องค์การเภสัชกรรม สำรอง "ยาฟาวิพิราเวียร์" 84 ล้านเม็ด แจง กทม. มีเตียง CI ว่างกว่า 2.3 พันเตียง ห่วง ผู้สูงอายุติดเตียง เตือนครอบครัวระวังสูงสุด จ่อใช้ Test & Go 1 มี.ค.นี้
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันนี้ รวม 22,311 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยจากในประเทศ 22,175 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 136 ราย ผู้ป่วยสะสม 668,492 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) หายป่วยกลับบ้าน 17,470 ราย หายป่วยสะสม 486,855 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 213,645 ราย เสียชีวิต 42 ราย ล่าสุด การให้บริการวัคซีน โควิด-19 สะสมอยู่ที่ 123,555,557 โดส เข็มที่ 1 ฉีดสะสม 53,532,236 โดส เข็มที่ 2 ฉีดสะสม 49,705,225 โดส เข็มที่ 3 ฉีดสะสม18,675,388 โดส เข็มที่ 4 ฉีดสะสม 1,642,708 โดส
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยืนยันรัฐบาลบริหารจัดการยาเวชภัณท์ ที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเพียงพอ โดยกำชับไปยังองค์การเภสัชกรรม ได้มีการบริหารจัดการสำรอง “ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir)" ให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ ได้มีการสำรองไว้จำนวน 24 ล้านเม็ด และทำการผลิตเพิ่มเติมอีก จำนวน 60 ล้านเม็ด รวมการสำรองทั้งสิ้น 84 ล้านเม็ด
ขณะเดียวกัน กทม. ยังรายงานว่า มีเตียงว่างสำหรับรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในCommunity isolation (CI) อีกกว่า 1,300 เตียง และยังเตรียมเปิดเพิ่มอีก 9 แห่ง จำนวน 1,000 เตียง ยืนยันเตียง CI ในกทม. ยังมีว่างพอรองรับผู้ติดเชื้อ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังห่วงใยถึงกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้มีความเสี่ยงสูงในการได้รับเชื้อ ฝากเตือนไปยังครอบครัวที่มีสมาชิกที่จัดอยู่ในกลุ่มของผู้มีความเสี่ยงในการได้รับเชื้อโควิด-19 ให้เพิ่มความระมัดระวังสูงสุด จัดสรรพื้นที่ภายในบ้านเพื่อลดการติดเชื้อในครอบครัวด้วย
ทั้งนี้ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังย้ำหลักเกณฑ์การเดินทางเข้าประเทศไทยในรูปแบบTEST AND GO จากการปรับมาตรการใหม่ ที่จะเริ่มต้นในวันที่ 1 มีนาคม 2565 โดยมีขั้นตอนการลงทะเบียน ดังนี้ 1. ลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass ที่ https://tp.consular.go.th/ โดยจะใช้เวลาในการพิจารณา 3-7 วัน 2. ตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ผลตรวจภายใน 72 ชั่วโมง (ก่อนเดินทาง) 3. เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย ผ่านจุดตรวจ และเดินทางไปยังโรงแรมด้วยพาหนะโรงแรมในรูปแบบ sealed route 4. ตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR ในวันแรก และรอผลตรวจที่โรงแรม และ 5.ตรวจ ATK self - test ด้วยตัวเองในวันที่ 5- 6 และรายงานผลตรวจผ่านช่องทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ทั้งนี้ ย้ำผู้เดินทางต้องเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนครบตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และได้รับอย่างน้อย 14 วัน ก่อนเดินทาง
พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์ ศิลาวงษ์