“เสธ.โย-แม่ทัพอี๊ด” มือดี “นายป้อม” สกัดเลือดไหล หยุด”เพื่อไทย”แลนด์สไลด์
บทบาทของ "เสธ.โย" คือมือปฏิบัติ ในการดูแล "ส.ส.พลังประชารัฐ" แทน "พล.อ.ประวิตร" ขณะที่ "แม่ทัพอี๊ด" นับเป็นสายเหยี่ยว มียุทธวิธีทำการเมือง แบบที่คู่ต่อสู้ต้องร้องแรกแหกกระเชอ
การขยับเสริมทัพของ “พรรคพลังประชารัฐ” ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่นครราชสีมาไฮไลท์หนีไม่พ้นการแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรค แทน 4 ตำแหน่งที่ว่าง
โดย 2 ใน 4 คนที่น่าสนใจคือ “พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์” หรือ เสธ.โย อนุกรรมการฝ่ายหารายได้ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ และอดีตฝ่ายเสนาธิการ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม
ขณะที่อีกคน คือ “พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร” หรือ แม่ทัพอี๊ด อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ถูกดันเข้าไลน์การเมืองเตรียมรับศึกเลือกตั้งใหญ่เต็มตัว
บทบาทของ “เสธ.โย” พล.อ.กฤษณ์โยธิน แห่งมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ถือเป็นคนสนิทเบอร์ต้นๆ ของพล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มือทำงานที่ได้รับความไว้วางใจ เป็นมือเป็นไม้ช่วย“บิ๊กป้อม” ดูแล ส.ส.พลังประชารัฐ มาตั้งแต่ต้น
ไม่ว่า ส.ส. หรือใครก็ตาม มีปัญหาให้ช่วยเหลือ เมื่อสะท้อนผ่าน “บิ๊กป้อม” แล้ว คนที่จะรับหน้าที่ไปดำเนินการก็คือ “เสธ.โย” คนสำคัญที่ถือกระเป๋าคอยแจกจ่ายกระสุนดินดำ หรือถือท่อน้ำเลี้ยง
ส.ส.พลังประชารัฐ รุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ ต่างให้ความเคารพเป็นอย่างมาก ด้วยบุคลิกที่เข้าถึงง่ายวางตัวดี ไม่ตีตัวเสมอนาย ไม่แอบอ้างนาย พูดน้อย ไม่พูดมั่วหรือพูดพร่ำเพรื่อ จึงมีความน่าเชื่อถือสูง
การมีตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรค ของ “เสธ.โย” พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ ก็เพื่อประสิทธิภาพ ยับยั้งภาวะเลือดไหลออก หลังจาก “ส.ส.” หลายคนที่อยู่ในอาการไม่แน่ใจ จะได้มั่นใจ ว่า “บิ๊กป้อม” รันการเมืองต่ออย่างจริงจัง ไม่วางมือลอยแพลูกพรรค
ขณะที่ “แม่ทัพอี๊ด” พล.อ.ธัญญา ถือเป็นสายเหยี่ยว มือลุยของ “บิ๊กป้อม” เป็นหนึ่งในเบื้องหลังทางการเมืองยุค “3 ป.” มานาน มีส่วนสนับสนุนในการสู้ศึกของ “พลังประชารัฐ” มาหลายต่อหลายสนาม ตั้งแต่ “เลือกตั้งใหญ่” และ “เลือกตั้งซ่อม”
การเลือกตั้ง 24 มี.ค.2562 พรรคพลังประชารัฐ มีแม่ทัพเลือกตั้งในภาคอีสานหลายคน ทั้งสมศักดิ์ เทพสุทิน วิรัช รัตนเศรษฐ เอกราช ช่างเหลา สุพล ฟองงาม และสุชาติ ตันเจริญ แต่ในกลุ่มผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ จะทราบดีว่า มีแม่ทัพหลังม่านชื่อ พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร ซึ่งตอนนั้น ดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 2
ชัยชนะของพลังประชารัฐ ได้ ส.ส.นครราชสีมา 6 ที่นั่ง ปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่เป็นผลงานของแม่ทัพหลังม่านชื่อ แม่ทัพอี๊ด พล.อ.ธัญญา นายทหารสไตล์ลูกทุ่ง ใจถึงใจ
ไม่เฉพาะในพื้นที่อีสาน ที่ “แม่ทัพอี๊ด” คุ้นเคยเท่านั้น การเลือกตั้งซ่อมภาคใต้หลายสังเวียน มือทำงานของ “แม่ทัพอี๊ด” ถูกระดมลงพื้นที่เต็มสูบ สู้กับคู่แข่ง ที่ต้องเจอยุทธวิธีแบบคนมีสี ที่ทำเอาฝ่ายการเมืองขั้วตรงข้ามโอดครวญ ออกมาร้องแรกแหกกระเชอ
ทุกวันนี้ พล.อ.ธัญญา สวมหมวกประธานอนุกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาค (ภาคอีสาน) เดินสายพบประชาชนในภาคอีสาน คล้ายเป็นแม่ทัพภาคอีสาน ที่ดูแลเรื่องน้ำ
ปี 2564 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) และผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ไปตรวจราชการและติดตามสถานการณ์น้ำในภาคอีสานบ่อยครั้ง ปลายปีที่แล้ว พล.อ.ประวิตร ลุยพื้นที่ภาคอีสาน โดยที่ไม่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แต่กลับมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา และพล.อ.ธัญญา ตามประกบบิ๊กป้อมแทน
แม้ “บิ๊กป้อม” จะได้ชื่อว่าเป็นพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ แต่ช่วง คสช.เรืองอำนาจ นายทหารคนใดจะเป็นแม่ทัพอีสาน ก็ต้องมีผลงานเข้าตาบิ๊กป้อม
“บิ๊กอี๊ด-พล.อ.ธัญญา (ตท.21) เติบโตมาในกองทัพภาคที่ 2 ปักหลักอยู่ที่กรมทหารราบที่ 23 (ร.23) ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ก่อนจะขึ้นเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 6 (พล.ร.6) จ.ร้อยเอ็ด และรับตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 2 ช่วงใกล้เลือกตั้งสมัยที่แล้ว
เดือน เม.ย.2562 พล.อ.ธัญญา ขยับขึ้นแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ และปลายปี 2563 ก็มารับตำแหน่งใหม่คือ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ควบประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำรายภาค (ภาคอีสาน) เดือน ต.ค.2564 จึงเกษียณอายุราชการ และเข้ามาทำงานช่วยบิ๊กป้อมต็มตัว โดยดูแลทั้งปัญหาเรื่องน้ำ และการเมือง
การเดินสายรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากกลุ่มเกษตรกร เป็นความเคลื่อนไหวแบบเงียบๆแต่มีนัยทางการเมือง ในช่วงที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มีปัญหากับ พล.อ.ประยุทธ์ และเตรียมหันหลังให้พลังประชารัฐ
การวางตัว “แม่ทัพอี๊ด” เป็น กรรมการบริหารพรรค และเป็นกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งดูแลพื้นที่ภาคอีสานตอนบน อาจเป็นกลยุทธของ “บิ๊กป้อม” ที่ใช้ทั้งการเมือง และอดีตนายทหารใหญ่ ทำงานควบคู่กันอย่างถึงลูกถึงคน แบบที่เคยทำมา
เพื่อหยุดยั้งแผนแลนด์สไลด์ของ “พรรคเพื่อไทย” ที่เร่งโหมโรง ในจังหวะที่อะไรหลายอย่างเข้าทาง โดยเฉพาะ “บัตรเลือกตั้งสองใบ” ที่ “พลังประชารัฐ” เสียเปรียบ เพราะตอนที่คิดเปลี่ยนระบบนั้น สถานการณ์ในพรรคยังไม่เปลี่ยนแปลง กระจัดกระจายจนอยู่ในช่วงทิ้งดิ่งเหมือนตอนนี้
ดังนั้น การที่ “บิ๊กป้อม” ดึง “เสธ.โย” และ “แม่ทัพอี๊ด” เข้ามาเต็มตัว ก็เพื่อผนึกกำลังภายใน “พลังประชารัฐ” ให้เป็นหนึ่ง เพื่อเดินหน้าขัดขวาง “เพื่อไทย” ไม่ให้ถึงฝัน กวาดเก้าอี้ “ส.ส.” แบบแลนด์สไลด์ ถล่มทลายตามเป้าหมายคนแดนไกล