“ดีแทค” ชู “ดีทั่วดีถึง เพื่อชีวิตเท่าเทียม” ฟื้นฟูประเทศก้าวข้ามวิกฤติโควิด-19
“ดีแทค” ชู “ดีทั่วดีถึง เพื่อชีวิตเท่าเทียม” ฟื้นฟูประเทศก้าวข้ามวิกฤติโควิด-19 ตอกย้ำภารกิจใช้เทคโนโลยีและดิจิทัล สู้ความเหลื่อมล้ำในวันที่โครงสร้างสังคมเปลี่ยนไป
“ดีแทค” บอกเล่าภารกิจช่วงวิกฤติโควิด-19 ผ่านแนวคิด “ดีทั่วดีถึง เพื่อชีวิตเท่าเทียม” ที่มุ่งส่งเสริมกลุ่มคนเปราะบางทั้งผู้สูงอายุ เด็ก รวมถึงผู้ประกอบการตัวเล็กให้เข้าถึง และสามารถใช้ดิจิทัล เพื่อเท่าเทียมกับกลุ่มคนอื่นๆ ในสังคม พร้อมชี้ให้ทุกภาคส่วนในสังคมเห็นถึงความรุนแรง และผลกระทบเชิงลึกของปัญหา “ช่องว่างทางดิจิทัล” ที่กำลังซ้ำเติมโครงสร้างสังคมไทย ที่กำลังบอบช้ำด้วยปัญหาความเหลื่อมล้ำ และยังต้องเปลี่ยนผ่านไปให้ทันกับอัตราเร่งของดิจิทัลทั่วโลก
นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ดีแทค มีความเชื่อว่าโทรคมนาคม สามารถดำเนินบทบาทนำในการสนับสนุนความเท่าเทียมทางดิจิทัล (digital inclusion) ผ่าน 3 ภารกิจ คือ 1.สัญญาณเน็ตเพื่อทุกคน (Good For All Connectivity) 2.การเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม (Affordable and Accessible Services) 3.การเพิ่มทักษะดิจิทัล (Digital Upskilling) ร่วมฟื้นเศรษฐกิจพลิกชีวิตชุมชน มุ่งสร้างทักษะดิจิทัลในเยาวชน ผู้สูงอายุ และผู้มีรายได้น้อย โดยดีแทคส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาที่เท่าเทียมและยั่งยืน พร้อมรับกับความท้าทายใหม่ๆ ในอนาคต
K-SHAPED RECOVERY ในภาคการศึกษา : โฉมหน้าความเหลื่อมล้ำดิจิทัลในเด็กไทย
ภาคการศึกษาเป็นอีกหนึ่งภาคที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างรุนแรง เมื่อมีจำนวนนักเรียนเพิ่ม อีก 1.2 ล้านคนทั่วโลกต้องออกจากโรงเรียน เนื่องจากโรงเรียนถูกสั่งปิดเพื่อควบคุมโรคระบาด นักเรียนไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติสุขภาพครั้งนี้ เช่นเดียวกับที่อื่นของโลก
จากข้อมูลสถิติแห่งชาติปี 2562 ยังมีเด็กมากถึง 14.7% หรือกว่า 2.4 ล้านคน ที่ยังเข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต สำหรับเด็กที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้นั้น กว่า 94% ของเด็กเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านทางมือถือเป็นหลัก ในขณะที่เข้าผ่านคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและแล็บทอปเพียงแค่ 55% และ 16% ตามลำดับ และมีครัวเรือนยากจน (รายได้ต่ำกว่า 200,000 บาท/ปี) เพียง 3% เท่านั้นที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตโดยอาศัยคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ส่วนที่เหลือล้วนแต่ต้องใช้สมาร์ทโฟนในการท่องโลกออนไลน์ กล่าวได้ว่า สำหรับครัวเรือนที่มีฐานะยากจน หรือในที่นี้เราเรียกเด็กกลุ่มนี้ว่า เป็นขาล่างของตัว K ซึ่งเป็นกลุ่มที่ยังไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้ การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตทางโทรศัพท์มือถือแทบจะเป็นช่องทางเดียวที่พวกเขาทำได้
ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ดีแทค สนับสนุน 2,000 ซิม พร้อมแพ็คเกจเน็ตอันลิมิเต็ดความเร็ว 4 Mbps แก่กลุ่มเด็กนักเรียนยากจนพิเศษ ของ กสศ. นำร่องเขตกรุงเทพฯ สำหรับการเรียนออนไลน์เป็นการเร่งด่วนลดอุปสรรคการเรียนรู้ เตรียมพร้อมหาทางออกระยะยาวในยุคเรียนออนไลน์ มุ่งสู่เป้าหมายความเท่าเทียมทางดิจิทัล (Digital inclusion) และลดการปิดกั้นแม้เกิดสถานการณ์โควิด-19
เมื่อ “การเชื่อมต่อ” ผู้สูงวัยคือ “การเชื่อมต่อ” ปัจจุบันกับอนาคต
ในหนังสือเรื่อง The Industries of the Future โดย อเล็กซ์ รอสส์ (Alec Ross) ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชื่อดังทำนายไว้ว่า การแพทย์และบริการสาธารณสุขจะเป็นอุตสาหกรรมมีนวัตกรรมใหม่ออกมามากที่สุด โดยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัล และเทคโนโลยีชีวภาพจะเปลี่ยนโฉมหน้าบริการสุขภาพชนิด “ปฏิวัติ” แต่เป็นเรื่องน่าเสียดายที่กลุ่มผู้สูงวัย กลุ่มที่สมควรได้รับประโยชน์ จากความก้าวหน้าทางการแพทย์มากที่สุด กลับได้ดอกผลน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ด้วยเหตุผลว่า “ผู้สูงวัย” เป็นกลุ่มคนที่เข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลได้น้อยที่สุด
นับตั้งแต่ปี 2548 ประเทศไทยเป็น “สังคมสูงวัย” (Aging Society) อย่างเป็นทางการ ตามนิยามขององค์การสหประชาชาติไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อสัดส่วนจำนวนประชากรที่อายุเกิน 60 ปี คิดเป็นสัดส่วน 10% ของประชากรทั้งประเทศ ไม่เพียงเท่านั้น คาดการณ์ว่าในปี 2565 ประเทศไทยจะเข้าสู่ “สังคมสูงวัยโดยสมบูรณ์” (Aged Society) เมื่อสัดส่วนประชากรที่มีอายุเกิน 60 ปี คิดเป็น 20% ของประชากรทั้งหมด และจะเข้าสู่ภาวะ “สังคมสูงวัยระดับสุดยอด” (Super Aged Society) ใน 2578 เมื่อประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นเป็น 30% ของจำนวนประชากรทั้งหมด โจทย์สังคมสูงวัยไม่ใช่โจทย์ของผู้สูงวัยเท่านั้น แต่เป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรทั้งหมดที่สังคมต้องรับผิดชอบดูแลร่วมกัน ดังนั้น สังคมสูงวัยจึงหมายถึงการเปลี่ยนแปลงของคนทุกรุ่น และส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม
ความเหลื่อมล้ำดิจิทัลในกลุ่มผู้สูงวัยแบ่งได้เป็น 2 มิติ ได้แก่ การเข้าถึง (access) และการปรับใช้ (adopt) ซึ่งประเทศไทยมีปัญหาในทั้งสองมิติ สำหรับการเข้าถึง
ดีแทค ให้ความสำคัญกับการติดอาวุธดิจิทัลให้ผู้สูงวัยผ่านโครงการ “ดีแทคเน็ตทำกิน” ในภารกิจปั้นผู้ประกอบการวัยเก๋า 50+ เพื่อมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาผู้สูงวัยในการสร้างเสริมทักษะและความรู้ในการค้าขายออนไลน์ การแสวงหาโอกาสในการทำธุรกิจดิจิทัล รวมทั้งการให้ความรู้เพื่อรับมือกับภัยเสี่ยงบนโลกออนไลน์ให้ผู้สูงวัยด้วย และให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัยมากกว่า 8,000 ราย จากทีมดีแทคคอลเซ็นเตอร์ให้เข้าถึงบริการทางการแพทย์ผ่านแอพพลิเคชั่นของโรงพยาบาลรัฐบาล
เศรษฐกิจของ “คนตัวเล็ก ที่ต้องใจใหญ่” ในยุคโควิด-19
การสำรวจ Thai Digital Generation 2021 ระบุว่า การเข้าถึงและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลคือ หัวใจสำคัญของการปรับตัวในกลุ่มผู้ประกอบการทุกกลุ่ม รวมถึงผู้ประกอบการขนาดเล็กที่มีความเปราะบางสูง โดยบุคคลที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากกว่าจะได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจทางลบน้อยกว่า (คิดเป็น 60% ของผู้ที่สูญเสียรายได้) เมื่อเทียบกับผู้ใช้เทคโนโลยีในระดับต่ำ (คิดเป็น 72% ของผู้ที่สูญเสียรายได้) และจากการประเมินสถานการณ์ของ สสว. (ในช่วงกลางปี 2563) หากเศรษฐกิจไทยถดถอยประมาณ 1% ธุรกิจในกลุ่ม MSME จะถดถอยราว 3.3% หรืองานศึกษาของสถาบันเพื่อการวิจัยและพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ที่เคยประเมินไว้ว่า หากเศรษฐกิจไทยในปี 2563 ถดถอย 5.5-6% มูลค่าธุรกิจรวมของ MSME ก็จะหดตัวราว 6-6.5% เป็นต้น
นอกจากนี้ กลุ่มคนเปราะบาง ได้แก่ ผู้พิการ ชนกลุ่มน้อย เป็นต้น ก็ยังดิ้นรนทำมาหากินในฐานะผู้ประกอบการตัวเล็กในระบบเศรษฐกิจด้วย
#ดีทั่วดีถึงเพื่อชีวิตเท่าเทียม เติมรายได้เพิ่มโอกาสให้ธุรกิจผ่านพ้นโควิด-19 ไปด้วยกัน
เมื่อสถานการณ์โควิด-19 กำลังดีขึ้น แต่ช่องว่างทางดิจิทัลยังคงอยู่ อีกทั้งจากที่พวกเราต้องยอม ล็อกดาวน์ ปิดเมือง แลกกับการหยุดยั้งการระบาด ทำให้เราเห็นช่องว่างดิจิทัลในสังคมไทยที่เป็นปัญหามานาน และยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อกลุ่มเปราะบางและผู้ประกอบการตัวเล็กที่ไม่สามารถเปลี่ยนตัวเองเข้าสู่ดิจิทัลเพื่อค้าขายออนไลน์ได้
ดีแทค มองวิกฤติดังกล่าว เป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับทุกคน เราต้องสนับสนุนการเข้าถึงดิจิทัล ลดช่องว่างความไม่เท่าเทียม เพื่อสร้างโอกาสสู่การเติบโตไปข้างหน้าร่วมกันของทุกฝ่าย ดังนั้น ดีแทคจึงนำ “ดีทั่วดีถึง เพื่อชีวิตเท่าเทียม” มาใช้เป็นกลยุทธ์สำคัญเพื่อเชื่อมต่อกับกลุ่มต่างๆ และชูภารกิจหลักคือ สัญญาณเน็ตเพื่อทุกคน (Good For All Connectivity) และการเข้าถึงบริการอย่างเท่าเทียม (Affordable and Accessible Services) พร้อมกับดีแทคยังเติมเต็มภารกิจที่สำคัญยิ่งคือ “การเพิ่มทักษะดิจิทัล (Digital Upskilling)”
โดยดีแทคได้นำโครงการ “ดีแทค เน็ตทำกิน” (dtac Net For Living) ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างทักษะการทำธุรกิจดิจิทัลให้กับผู้ประกอบการตัวเล็กโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นการสนับสนุนครั้งสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการซึ่งส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบด้านยอดขายอย่าง รุนแรงจากวิกฤติโควิด-19 ก้าวสู่การทำตลาดดิจิทัล และหลังจากอบรมและดูแลอย่างต่อเนื่องของทีมดีแทคเน็ตทำกิน เราพบว่าผู้ประกอบการที่เข้าอบรมมียอดขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 51%