ตราเพชรเผยไตรมาส3รายได้พุ่งดัน9เดือนแรกกำไร508ล้านบาท
ตราเพชร เผยไตรมาส 3ปีนี้รายได้รวม 1.2พันล้านเพิ่มขึ้น 16% สวนกระแส ช่วงโลว์ซีซั่-ปัจจัยลบต้นทุนผลิต ตอกย้ำศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งหนุนผลงาน 9 เดือน ทำกำไร 508ล้านบาทเดินหน้ารุกตลาดโค้งสุดท้ายหวังโต 5% ตามเป้าหมาย
นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์และบอร์ดไฟเบอร์ซีเมนต์ บอร์ดตกแต่งผนัง อิฐมวลเบา คานทับหลัง เคาน์เตอร์มวลเบาสำเร็จรูป ร้านกาแฟสำเร็จรูป (DIAMOND Cafe) และบริการติดตั้งโครงหลังคาและกระเบื้องหลังคา"ตราเพชร" เผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2565 (กรกฎาคม-กันยายน) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการผลักดันยอดขายเติบโตอย่างโดดเด่น โดยทำรายได้รวม 1,242.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.13% และมีกำไรสุทธิ 130.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.73% ซึ่งเป็นการขยายตัวได้ดีกว่าภาพรวมอุตสาหกรรม
สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ 'ตราเพชร' ที่มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์สามารถนำไปก่อสร้างบ้านได้ทั้งหลัง เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าได้เป็นอย่างดี ผ่านช่องทางจำหน่ายร้านค้าตัวแทนจำหน่ายรายย่อยและห้างปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ที่สร้างยอดขายเติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์มีอัตราขยายตัวได้มากกว่า 10%
ขณะเดียวกัน การเพิ่มขีดความสามารถด้านการผลิตให้ประสิทธิภาพ โดยรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรได้ตามแผนเพื่อบริหารต้นทุนการผลิตต่อหน่วยให้อยู่ในระดับต่ำ รับมือปัจจัยด้านต้นทุนการผลิตทั้งราคาวัตถุดิบและพลังงานที่เร่งตัวขึ้นได้ดี ช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-กันยายน) มีกำไรสุทธิ 508.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.07% และมีรายได้รวม 3,996.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.08% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
"แม้มีความเสี่ยงด้านต้นทุนการผลิตที่ยังคงทรงตัวในระดับสูง ที่เราต้องบริหารจัดการอย่างต่อเนื่องเพื่อเอาชนะความท้าทายนี้ แต่ด้วยศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ตราเพชร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดี ช่วยผลักดันความสำเร็จของผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/65 และงวด 9 เดือนแรกปีนี้ขยายตัวได้เป็นอย่างดี" นายสาธิต กล่าว
นายสาธิต กล่าวว่า แผนดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ พร้อมนำศักยภาพด้านการผลิตที่มีประสิทธิภาพ โดยมุ่งรักษาอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยอยู่ที่ 80%-90% เพื่อให้เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale) และการบริหาร Product Mix ช่วยสนับสนุนการขายสินค้าในทุกช่องทางการจัดจำหน่ายตอบสนองความต้องการสินค้าวัดสุก่อสร้างในช่วงปลายปี โดยมั่นใจว่าแผนดำเนินงานปีนี้จะสามารถผลักดันรายได้เติบโต 5% ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้