พฤกษาพลิกเกมเน้นกำไรเร่งต่อจิ๊กซอว์เฮลท์เทค-โซเชียล คอมเมิร์ส

พฤกษาพลิกเกมเน้นกำไรเร่งต่อจิ๊กซอว์เฮลท์เทค-โซเชียล คอมเมิร์ส

"อุเทน"ซีอีโอป้ายแดงพฤกษาเผยภารกิจเน้นกำไรมากกว่าส่วนแบ่งตลาดและรายได้ชูจุดแข็งบริหารต้นทุนต้นน้ำยันปลายน้ำตรึงราคาตอบโจทย์ลูกค้ากำลังซื้อเปราะบางพร้อมเร่งต่อจิ๊กซอว์เฮลท์เทค และ โซเชียล คอมเมิร์สคาดอานิสงส์บาทอ่อน ท่องเที่ยวดีดตัวกลับจีดีพีปีหน้าโต

นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า 9 เดือนแรกปีนี้ ภาพใหญ่กำไรดีขึ้นแต่ยอดขายน้อยลง  แต่กำไรดีขึ้นมาจากการใช้กลยุทธ์ "บริหารต้นทุน" (Cost Management) ส่วนยอดขายที่น้อย เนื่องจากปีที่ผ่านมาเป็นปีที่พฤกษาล้างสต็อก ลดราคา เนื่องจากกังวลในเรื่องของผลกระทบจากโควิด จึงเร่งระบายสต็อกในราคาต่ำ แต่ปีนี้เราไม่ได้ทำแบบนั้น แต่ปีนี้เราทำในเรื้องของการรักษา กำไรมากกว่า รักษาส่วนแบ่งตลาด หรือรายได้ ฉะนั้นในปีนี้จะเห็นข้อแตกต่างคือ กำไรดีขึ้น  รายได้อาจคงสัดส่วนเท่าเดิม อาจปรับลดลงจาก 9เดือนของปีที่แล้วเล็กน้อย

ส่วนปัจจัยลบด้านค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้คนมีรายได้และการจับจ่ายใช้สอยน้อยลง ดอกเบี้ยสูงขึ้น และมีการวิเคราะห์ว่าในอเมริกา ยุโรป อังกฤษเศรษฐกิจถดถอยประกอบกับสงครามรัสเซีย ยูเครนที่ยืดเยื้อทำให้ราคาย้ำมันสูงขึ้น ทั้งหมดสร้างความผันผวนให้กับตลาดโลก แต่หากมองกลับมาที่ประเทศไทยอาจหนึ่งในประเทศส่วนน้อยที่มีจีดีพีสูงขึ้นสวนทางกับอเมริกา ยุโรป อังกฤษ ที่มีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจถดถอย      

ทั้งนี้เนื่องจากค่าเงินบาทอ่อนทำให้คนต่างชาติเข้ามาประเทศไทย และส่งออกมากขึ้นทำให้รายได้คนไทยสูงขึ้น  รวมทั้งการดีดตัวกลับของธุรกิจท่องเที่ยวที่มีการประเมินกันว่า ปีนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวน10ล้านคน และปีหน้า 22-30ล้านคนทำให้รายได้สูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าจากออฟไลน์ไปออนไลน์มากขึ้นหลังจากโควิด  ทำให้คนทำงานที่บ้านมากขึ้น  
 

 อย่างไรก็ตามบริษัทกลยุทธ์ในการรับมืออัตราดอกเบี้ยด้วยการปรับฟังก์ชันกับราคาบ้าน ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ เช่น การลดต้นทุนด้วยการนำเทคโนโลยีใหม่ “คาร์บอนเคียว”โดยการนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาผสมในคอนกรีต สามารถลดคาร์บอนฟุตปริ้นท์ในการผลิต โดยที่ยังคงประสิทธิภาพและคุณภาพของคอนกรีต จากเดิมเป็นแบบพรีคาสท์ตัน ซึ่งเริ่มนำมาใช้ในปีนี้ ทำให้ราคาบ้านลดลงในปีหน้าแม้ว่าดอกเบี้ยสูงขึ้น แต่ผ่อนถูกลง ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับลูกค้า


 นายอุเทน กล่าวว่า แนวโน้มไตรมาส4 ผลประกอบการน่าจะดีกว่าไตรมาส3  เนื่องจาก มีโครงการคอนโด 3  โครงการที่เริ่มโอนในไตรมาส3 แต่โอนไม่หมดจะไปเก็บงานโอนในไตรมาส4 และมีอีก4 โครงการที่คิดว่าจะสร้างเสร็จในไตรมาส 4 และจะมีบางส่วนที่เริ่มโอนได้ นั้นแค่ส่วนแบล็อคล็อคของคอนโดจะทำให้มีรายได้และยอดขายเข้ามาค่อนข้างเยอะ

นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว โครงการใหม่จำนวน 11 โครงการมูลค่า 7,700 ล้านบาทในไตรมาส4  ซึ่งจะเป็นตัวที่สร้างยอดพรีเซล รวมกับ129 โครงการที่ทำอยู่ คิดว่า เป็นโอกาสของลูกค้าเข้ามาจับจองโครงการพฤกษา ในช่วงเวลามาตรการปลดล็อกแอลทีวี ยังอยู่ ถือเป็นการกระตุ้นช่วงสุดท้ายของปีนี้  โดยทางพฤกษาได้ผลักดันด้านการตลาดไม่ว่าจะเป็นเรื่องโปรโมชั่น ราคา และการให้บริการเสริม ซึ่งสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งโดยเฉพาะบริการเฮลท์แคร์   
 

 " ช่วงเวลานี้จนถึงสิ้นปีลูกค้ายังสามารถล็อกต้นทุนดอกเบี้ย ราคาได้อยู่ ควรรีบตัดสินใจ ซื้อ และลดค่าผ่อน เพราะในปีหน้าความอ่อนไหวเรื่องอัตราดอกเบี้ยยังมีความเสี่ยงอยู่"

 ปัจจุบัน บริษัทมีBacklog ในมือ 1.33 หมื่นล้านบาทที่จะรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส4 เป็นหลักมากกว่า 50% ส่วนที่เหลือจะเป็นไตรมาส1ปี2566  ส่วนงบประมาณที่เหลือในปีนี้ จะเก็บไว้ใช้ในปีหน้า  รีสต็อกที่ดินใหม่ เพื่อเป็นวัตถุดิบใหม่ให้กับพฤกษาให้เหมาะสมแต่ละทำเลไม่ใช่ซื้อทุกทำเล
   

" วันนี้สินค้าที่มี129โครงการมูลค่า6,900 ล้านบาทบวกกับแลนด์แบงก์ที่มีมูลค่าการพัฒนาได้สูงถึง 6,500 ล้านบาทรวมกันตอบโจทย์เรื่องของความยั่งยืนของกลุ่มได้ที่สามารถพูดได้ว่า มีของในมือพร้อม สนับสนุนยอดขายและการเติบโตของพฤกษาไปอีก 3-5ปี โดยไม่ต้อง รีสต็อก หรือเร่งการรีสต็อกโดยทีมงานอยู่ระหว่างการทำงาน เพื่อตระเวณหาซื้อที่ดินเพิ่มเพื่อวางแผนในอนาคต แต่โครงการใหม่ที่เปิดตัวในปีหน้า จากตัวเลขและแผนงานที่วางอยู่นน่าจะสูงกว่าปีนี้ ทั้งปี"

   นายอุเทน กล่าวต่อว่า ปัจจุบันดีมาด์ความต้องการที่อยู่อาศัยยังดีอยู่สังเกตได้จากยอดขายที่ผ่านมา รวมทั้งยอดโอนในแต่ละไตรมาสส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น เชื่อว่า ปีหน้าจะเห็นว่าผู้ประกอบการอสังหาฯที่มีต้นทุนเดิม จะสามารถนำเสนอสินค้าพร้อมอยู่ให้กับลูกค้าได้ ซึ่ง ตรงนี้ถือเป็น "จุดแข็ง"ของพฤกษาที่ได้เตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่ต้นปี  ส่วนปัจจัยภาวะเงินเฟ้อ ต้นทุนวัตถุดิบ ดอกเบี้ยขาขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยลบต่อกำลังซื้อและดีมานด์ของลูกค้า มีความอ่อนไหวสูง

ฉะนั้นหากขึ้นราคาที่อยู่อาศัย จะส่งผลให้ลูกค้าชะลอการซื้อ หรืออาจไม่ซื้อ ดังนั้น พฤกษา ได้วางแผนตั้งแต่ต้นปีในการพัฒนาโครงการ ตั้งแต่การออกแบบให้ลูกค้าได้พื้นที่เท่าเดิม แต่ต้นทุนลดลง แม้ราคาวัสดุก่อสร้างสูงขึ้น โดยในไตรมาส4 จะเห็นดีไซน์ใหม่ โปรดักส์ใหม่ ฟังก์ชั่นใหม่ ออกมาให้กับลูกค้า 

" ถือเป็นจุดแข็งพฤกษาที่สามารถควบคุมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำแบบเบ็ดเสร็จทำให้พฤกษาสามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยแม้มีกำลังซื้อจำกัดได้ "