เครื่องร้อน !แอสเซทไวส์ผุด3แคมปัสคอนโดไตรมาสแรกมูลค่ากว่า 4.4 พันลบ.

เครื่องร้อน !แอสเซทไวส์ผุด3แคมปัสคอนโดไตรมาสแรกมูลค่ากว่า 4.4 พันลบ.

แอสเซทไวส์ เหยียบคันเร่ง ผุด3แคมปัสคอนโดทำเลรังสิต - ม.กรุงเทพ- ศาลายา ในไตรมาสแรกมูลค่ากว่า 4.4 พันล้านจับกลุ่มกลุ่มเจเนอเรชั่น Z

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์  จำกัด (มหาชน) เผยว่า บริษัทได้วางกลยุทธ์การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะการมุ่งให้ความสำคัญการขยายตลาดในเซ็กเมนต์แคมปัสคอนโด ซึ่งโฟกัสทำเลศักยภาพใกล้กับสถานศึกษา

โดยได้เปิดโครงการภายใต้แบรนด์เคฟมาแล้ว 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 14,500 ล้านบาท อาทิ โครงการเคฟ ซี้ด เกษตร ใกล้ ม.เกษตร มูลค่าโครงการ 1,350 ล้านบาท , โครงการ เคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน ใกล้ ม.บูรพา มูลค่าโครงการ 520 ล้านบาท ที่เปิดตัวในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา สร้างปรากฎการณ์การตอบรับอย่างล้นหลามจากลูกค้าภายหลังการเปิดตัว โดยประกาศ ปิดการขายเป็นที่เรียบร้อย

 

ทั้งนี้ ปรากฎการณ์ดังกล่าวนับเป็นบทพิสูจน์แห่งความสำเร็จของ ASW โดยสามารถก้าวสู่ผู้นำตลาด แคมปัสคอนโด ซึ่งแบรนด์ เคฟ ได้กลายเป็น Top of Mind สำหรับกลุ่มเจเนอเรชั่น Z อีก

ทั้งยังเป็นแบรนด์อสังหาฯ ที่นักลงทุนชื่นชอบ และไว้วางใจ เนื่องจากให้อัตราผลตอบแทนจากการเช่า (Yield) สูง และเป็นแบรนด์คอนโดฯ ที่มีอัตราการขาย (Take up sale) เฉลี่ยสูงกว่า 90%

ซึ่งมาจากความมุ่งมั่นพัฒนาโครงการเคฟ คอนโด ที่สอดรับกับดีมานด์ของตลาด และการสร้างแบรนด์เคฟที่เข้าใจกลุ่มลูกค้าที่มีความโดดเด่นและมีสไตล์ที่แตกต่างอย่างมีเอกลักษณ์ ผ่านการจัดกิจกรรมทั้งสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง มิวสิก มาร์เก็ตติ้ง ตลอดจนการขับเคลื่อนไลฟ์สไตล์สู่สมาร์ทไลฟ์อย่างครบครัน

โดยในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทวางแผนบุกตลาด แคมปัสคอนโด โดยจะเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ บนทำเลศักยภาพ ใกล้กับมหาวิทยาลัยชั้นนำถึง 3 แห่ง มูลค่าโครงการรวมกว่า 4,430 ล้านบาท

ประกอบด้วย 1. โครงการ เคฟ เอมบริโอ รังสิต จำนวน 514 ยูนิต มูลค่าโครงการ 780 ล้านบาท 2. โครงการเคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ ใกล้ ม.กรุงเทพ จำนวน 1,770 ยูนิต มูลค่าโครงการ 3,150 ล้านบาท และ 3. โครงการเคฟ ป๊อป ศาลายา  ใกล้ ม.มหิดล ศาลายา จำนวน 238 ยูนิต มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท

นายกรมเชษฐ์ กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมเปิดแผนธุรกิจปี 66 เพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างมั่นคงในเร็วๆ นี้ โดยมองว่าแนวโน้มภาพรวมตลาดอสังหาฯ ปี 66 จะเห็นกำลังซื้อผู้บริโภคจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างโดดเด่นด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น

ส่งผลให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งนโยบายการกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐยังคงดำเนินการต่อเนื่องในปี 66 ด้วยการต่ออายุมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิจาก 2% เป็น 1% และลดหย่อนค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01 % สำหรับที่อยู่อาศัยมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท ไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.66 จะส่งผลดีต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อบ้านในปีนี้ ซึ่งปัจจัยบวกดังกล่าวจะผลักดันให้ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง