กำลังซื้อจีนปลุกคอนโดฟื้นโนเบิลชูจุดแข็งสต็อกพร้อมโอนดันยอดขาย/รายได้

กำลังซื้อจีนปลุกคอนโดฟื้นโนเบิลชูจุดแข็งสต็อกพร้อมโอนดันยอดขาย/รายได้

โนเบิล ประเมินเศรษฐกิจฟื้นกระตุ้นดีมานด์ในประเทศ คาดหลังจีนเปิดประเทศกำลังซื้อจีนเข้ามาปลุกตลาดคอนโดฟื้น ประกาศผุด10 โครงการใหม่มูลค่า2.3หมื่นล้านพร้อมชูจุดแข็งสต็อกพร้อมโอน ตั้งเป้ายอดขาย2.3หมื่นล้าน รายได้1.5หมื่นล้าน

จากที่ปีที่ผ่านมาโนเบิลเปิดเกมรุกคอนโดติดห้าง แม่น้ำ รวมทั้งโครงการบ้านที่กระจายตัวตามทำเลที่มีศักยภาพ เพื่อครอบคลุมความต้องการกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายสามารถกวาดยอดขายได้ถึง1.7หมื่นล้านมียอดขายรอโอน (Backlog)กว่า 1.9หมื่นล้านสูงสุดถือเป็นประวัติการณ์ในรอบ32ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น 

"ธงชัย บุศราพันธ์ "รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า ปี2566 เป็นช่วงเวลาในการฟื้นตัวอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะตลาดคอนโดจากการกลับมาของกำลังซื้อคนจีน บริษัทจึงมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการ  ที่อยู่อาศัย ที่เติบโตตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว รวมทั้งความต้องการบ้านหลังที่สองของชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นจากการเปิดประเทศ โดยในปีนี้มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่จำนวนทั้งสิ้น 10 โครงการ มูลค่ารวม23,300 ล้านบาท 

 แบ่งเป็นโครงการแนวราบรวมถึงโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ จำนวน 9 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 13,400 ล้านบาท และโครงการประเภทแนวสูงจำนวน 1 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 9,900 ล้านบาท โครงการจะกระจายตัวอยู่ทุกทิศของกรุงเทพฯ เช่น แถบกรุงเทพตะวันตก และตะวันออก เป็นต้น รวมถึงทำเลกลางใจกลางเมือง อาทิ ถนนวิทยุ เป็นต้น ทั้งนี้บริษัทมีที่ดินพร้อมสำหรับรองรับการพัฒนาโครงการแล้วทั้งหมด 

นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดโครงการที่เน้นเจาะกลุ่ม Ultra Luxury Segment เพิ่มขึ้น จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการโนเบิล เอควา ริเวอร์ฟร้อนท์ ราษฎร์บูรณะ บ้านเดี่ยวติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โครงการโนเบิล เทอร์รา พระราม 9 – เอกมัย บ้านเดี่ยวใจกลางทำเล CBD พระราม 9 – เอกมัย และโครงการโนเบิล อเวย์ ชะอำ บีชฟร้อนท์ ที่ดินหน้ากว้างติดทะเล ใจกลางตัวเมืองชะอำ

กำลังซื้อจีนปลุกคอนโดฟื้นโนเบิลชูจุดแข็งสต็อกพร้อมโอนดันยอดขาย/รายได้

ธงชัย ระบุว่า   ความได้เปรียบของบริษัทในปีนี้คือยังมีสินค้ารองรับความต้องการอยู่อาศัยของผู้บริโภคในทุกสถานะการก่อสร้าง โดยมีสินค้าสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Inventory) ในปี 2566 มูลค่ารวมประมาณ 11,300 ล้านบาท และสินค้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างมูลค่ารวมประมาณ 18,700 ล้านบาท ซึ่งสามารถรองรับผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยทั้งแบบอยู่อาศัยเองหรือเพื่อลงทุน ซึ่งจะผลักดันยอดขายและรายได้ในปีนี้ของบริษัทเติบโตสูงขึ้น

 “ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคชาวจีนในประเทศไทยเปลี่ยนไป หันมานิยมซื้อที่อยู่อาศัยแบบสร้างเสร็จพร้อมอยู่แล้วมากขึ้น เพราะสามารถเห็นโครงการจริงและวิวจริง ซึ่งสามารถชมโครงการได้หลายรูปแบบทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ อีกทั้งยังมีความต้องการห้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการอยู่อาศัยเองทั้งครอบครัวจากเดิมที่นิยมซื้อเพื่อลงทุน” 
 

นายธงชัยกล่าวต่อว่า  ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ในทำเลพระรามเก้า ซึ่งเป็นย่านนิยมของนักลงทุนต่างชาติติดห้างเซ็นทรัลพระราม 9 คือโครงการ นิว ดิสทริค อาร์ 9 เป็นโครงการคอนโดมิเนียมแนวสูง ปัจจุบันโครงการมียอดขายแล้วกว่า 75% ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากทั้งลูกค้าชาวไทยและลูกค้าต่างชาติ

กำลังซื้อจีนปลุกคอนโดฟื้นโนเบิลชูจุดแข็งสต็อกพร้อมโอนดันยอดขาย/รายได้

      ภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ว่าเศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยบวกจากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันของโรคโควิด-19 ประกอบกับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวของไทยในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ดี เกิดการจ้างงานมากขึ้น ส่งผลให้ประชากรภายในประเทศมีกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้น

ขณะที่ล่าสุดรัฐบาลจีนก็มีการประกาศปลดล็อคและเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นอีกปัจจัยบวกใหม่ที่จะทำให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยคึกคักมากขึ้น และจะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทยด้วยจากการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยของนักท่องเที่ยวชาวจีน 

     "จากการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจ และ Backlog ที่มีในมือ รวมถึงโครงการแนวราบที่จะทยอยส่งมอบในปีนี้ คาดว่าจะทำให้รายได้รวมปีนี้อยู่ที่15,000 ล้านบาท"