เพอร์เฟคผนึกจ๊อดแฟร์ลุยไนท์มาร์เก็ตผุดมิกซ์ยูสมูลค่า7พันล้านย่านรัชดา
วีรีเทล บริษัทในเครือพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ผุดโครงการมิกซ์ยูสมูลค่า 7พันล้านย่านรัชดาบนพื้นที่ 13 ไร่ มีอาคารสำนักงาน พื้นที่รีเทลในอาคารและกลางแจ้ง พร้อมจับมือ “จ๊อดแฟร์”มาบริหารพื้นที่รีเทล ไลฟ์สไตล์มอลล์รวมอาหารสตรีทฟู้ด และไนท์มาร์เก็ตใหม่ เปิดบริการปี 2567
นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มองถึงการลงทุนในธุรกิจที่เพิ่มศักยภาพให้แก่บริษัท โดยเฉพาะโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์บนทำเลศักยภาพสูงซึ่งบริษัทมีที่ดินรองรับ โดยบริษัทได้ลงทุนพัฒนาโครงการแบบมิกซ์ยูสบนพื้นที่ 13 ไร่ของบริษัท ริมถนนรัชดาภิเษก ประกอบด้วยอาคารสำนักงาน พร้อมพื้นที่รีเทลภายในอาคารและด้านหน้าอาคาร
ซึ่งได้ “จ๊อดแฟร์” เข้ามาร่วมมือในการบริหารพื้นที่รีเทลทั้งหมด การมีพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์บริหารไนท์มาร์เก็ตมาร่วมบริหารโครงการ ทำให้มั่นใจว่าโครงการจะได้รับความนิยมทั้งกลุ่มคนไทย ตลอดจนตลาดนักท่องเที่ยวที่จะกลับมาคึกคัก รวมทั้งยังมีส่วนสนับสนุนผู้ประกอบการร้านค้าขนาดย่อมให้มีโอกาสทางธุรกิจและช่องทางบนทำเลที่ดีเยี่ยม โครงการดำเนินการโดย บริษัท วีรีเทล จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มที่ดำเนินธุรกิจพื้นที่เชิงพาณิชย์
นายพรสวัสดิ์ เกษจุฬาศรีโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรีเทล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการตั้งอยู่ริมถนนรัชดาภิเษก ย่านศูนย์กลางธุรกิจที่เติบโตเร็วที่สุดของกรุงเทพ และมีระบบขนส่งมวลชนอำนวยความสะดวกในการเดินทาง
โดยอยู่ติดสถานี MRT ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ที่จะเป็นจุดเชื่อมต่อของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีส้ม โครงการมีมูลค่า 7,000 ล้านบาท ประกอบด้วย 2 โซน ได้แก่ อาคารสูง 12 ชั้น และ พื้นที่ร้านค้าด้านหน้าอาคาร ตัวอาคารมีพื้นที่รวมกว่า 93,000 ตร.ม. แบ่งเป็น พื้นที่สำนักงาน 5 ชั้น 20,000 ตร.ม. พื้นที่ร้านค้า 3 ชั้น 25,000 ตร.ม. พื้นที่จอดรถ 4 ชั้น 33,000 ตร.ม. จอดรถได้ 750 คัน พื้นที่บริการและสัญจร สวน ล็อบบี้ อีก 15,000 ตร.ม.
โครงการนี้ใช้เวลาในการก่อสร้าง2 ปี ใช้งบประมาณก่อสร้าง23,00 ล้านบาท
ส่วนพื้นที่สำนักงาน จะเป็นสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และบริษัทในกลุ่ม เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ โดยรวมพนักงานที่อยู่ตามอาคารสำนักงานต่างๆ เข้ามาอยู่ศูนย์กลางที่เดียว พร้อมสำนักงานขายใจกลางเมือง มีแผนพัฒนาให้เป็นสำนักงานทันสมัย ภายใต้แนวคิด Smart Green Office ทั้งการอนุรักษ์พลังงานเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ตั้งแต่ การออกแบบอาคารให้แสงธรรมชาติเข้าถึงภายในเพื่อประหยัดพลังงาน มีสวนรูฟการ์เด้นและพื้นที่สีเขียวภายในอาคาร ติดตั้ง Solar roof ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ มี EV Charging Station สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการจัดการอาคารมาใช้
อาทิ ระบบจดจำใบหน้าในการเข้าออก ระบบจดจำป้ายทะเบียนรถยนต์ ระบบแลกบัตรผ่านเข้าออกอัจฉริยะ ระบบชำระค่าจอดรถแบบไร้สัมผัส เป็นต้น ภายในมีทั้งพื้นที่สำนักงานเต็มรูปแบบ และพื้นที่แบบ Co-Working Space พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและสันทนาการ ที่ตอบสนองการใช้ชีวิตของคนทำงานได้ครบ สำหรับพื้นที่รีเทลซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของโครงการ บริหารพื้นที่โดย “จ๊อดแฟร์” ภายในอาคารจะเป็นร้านอาหารร้านค้าไลฟ์สไตล์ ส่วนด้านหน้าอาคารจะเป็นไนท์มาร์เก็ตแห่งใหม่ โดยโครงการกำหนดเปิดให้บริการในปี 2567
ไพโรจน์ ร้อยแก้ว ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารตลาดรถไฟและตลาดจ๊อดแฟร์ กล่าวว่า “จ๊อดแฟร์” จะเป็นผู้บริหารจัดการพื้นที่รีเทลทั้งหมด ประกอบด้วย พื้นที่ร้านค้าภายในอาคารขนาด 25,000 ตร.ม. จำนวน 3 ชั้น มีร้านค้ารวม 928 ร้าน ด้วยรูปแบบอาคารและการตกแต่งในสไตล์วินเทจ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สวยงามคลาสสิก เหมาะกับการถ่ายรูปในทุกมุม รวมถึงเน้นบรรยากาศสบายๆ เหมือนเดินอยู่ในเชลซีมาร์เก็ต นิวยอร์ค
โดยวางคอนเซ็ปท์ให้เป็นแหล่งรวมสินค้าและอาหารสตรีทฟู้ดร้านเด็ดจากทั่วทุกย่าน ซึ่งอาหารสตรีทฟู้ดของไทยสร้างความประทับใจให้คนทั่วโลก เป็นการดึงดูดผู้มาใช้บริการและนักท่องเที่ยว พร้อมส่งเสริมซอฟท์พาวเวอร์ของไทยในด้านอาหาร สำหรับพื้นที่กลางแจ้งด้านหน้าอาคาร ประมาณ 5.6 ไร่ จะเป็นไนท์มาร์เก็ตแห่งใหม่ ที่มีทั้งพื้นที่เป็นล็อค ร้านค้า และร้านในรูปแบบคีออส รวม 798 ร้าน ที่รวบรวมสินค้าหลากหลาย
ทั้งอาหาร คาเฟ่ สตรีตฟู้ดชื่อดัง ผักผลไม้พรีเมียม ต้นไม้ เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ ของแต่งบ้าน งานวินเทจ งานคราฟต์ งานแฮนด์เมด โดยยังคงคอนเซ็ปท์ไนท์มาร์เก็ตที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ จนเป็นที่นิยมของทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในแบบของจ๊อดแฟร์