นิคมฯอยุธยาฟื้นหนุนคอนโดขายดี! คนซื้อหวังปล่อยเช่า
นิคมฯอยุธยาฟื้นหนุนคอนโดขายดี! คนซื้อหวังปล่อยเช่าแรงงานที่เข้ามาทำงานในนิคมฯบางปะอินราคาไม่เกิน1.5ล้าน ขณะที่นิคมฯโรจนะ นิยมทาวน์เฮ้าส์ ราคา3-5ล้าน ระบุปี65 มีจำนวนเสนอขาย 7.4พันหน่วยคิดเป็นมูลค่า2.4หมื่นล้านเพิ่มขึ้นจากปีก่อน11%
หลังโควิด-19 ตลาดอสังหาฯจ.พระนครศรีอยุธยาเริ่มฟื้นตัว เนื่องจากเป็นพื้นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมหลากหลายมากกว่า 2,134 โรงงาน ใน 5 นิคมอุสาหกรรม ประกอบด้วย สังกัดการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 3 แห่ง ได้แก่ 1.นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน 2.นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า-ไฮเทค และ 3.นิคมอุตสาหกรรมนครหลวง
ส่วนของภาคเอกชนมี 2 แห่ง ได้แก่ 1.นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ และ 2.นิคมอุตสาหกรรมแฟคตอรี่แลนด์-วังน้อย ส่งผลให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยจากแรงงานแฝงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ย้ายมาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมกว่า3แสนคนรวมทั้งยังมีกลุ่มคนในพื้นที่
วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมหน่วยเสนอขายที่อยู่อาศัยในอยุธยาปี2565 พบว่า มีจำนวน 7,400หน่วยคิดเป็นมูลค่า24,000ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา11% จำนวนบ้านจัดสรรไม่เพิ่ม แต่จำนวนคอนโดกลับมีการเปิดตัวใหม่เพิ่มขึ้นจากครึ่งแรกของปี2565 เมื่อเทียบกับครึ่งหลังของปี2564 เพื่อรองรับกลุ่มที่ซื่อเพื่ออยู่อาศัยและกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่าให้กับแรงงานที่เข้าไปทำงานในนิคมฯ
ทั้งนี้เนื่องจากบ้านจัดสรรยังมีหน่วยเหลือขายอยู่ โดยเปิดตัวบ้านเดี่ยวจำนวน 80หน่วย ทาวน์เฮ้าส์จำนวน 42หน่วยส่วนใหญ่เป็นโครงการของผู้ประกอบการอสังหาฯในท้องถิ่น ขณะที่คอนโดที่เปิดใหม่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดใหญ่จากกรุงเทพฯที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เข้าไปลงทุนเปิดตัวโครงการ
ซัพพลายใหม่ที่เกิดขึ้นคือนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน เป็นคอนโดราคาไม่แพงหรือคอนโดบีโอไอ ที่มีการส่งเสริมการลงทุน คิดเป็นสัดส่วน 80% ส่วน ที่เหลือเป็นทาวน์เฮ้าส์ 15% ระดับราคา1.5-2,3-5ล้านบาทเพื่อรองรับดีมานด์ในโซนนิคมอุตสาหกรรมหลังจากโควิดอุตสาหกรรมเริ่มกลับมาฟื้นตัวเร็ว
หน่วยขายได้ใหม่จากการสำรวจพบว่า คอนโดขายได้ 180 หน่วยส่วนบ้านจัดสรรขายได้ 562หน่วยจากสต็อกเดิมเป็นทาว์นเฮ้าส์361หน่วยคิดเป็นสัดส่วน 60%เป็นบ้านเดี่ยว120 หน่วยที่เหลือเป็นบ้านแฝด
อย่างไรก็ตาม จ.พระนครศรีอยุธยามีอัตราดูดซับคอนโดสูงสุดร้อยละ 5.7 ซึ่งเป็นอัตราการดูดซับที่สูงกว่าช่วงก่อนหน้า เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น
จากการเปิดตัวโครงการใหม่ที่เข้ามากระตุ้นให้ตลาดคอนโดในอยุธยาคึกคัก สะท้อนว่ากำลังซื้อในส่วนของคอนโดยังคงมีอยู่ ส่วนหน่วยเหลือขายของคอนโดยังมีอยู่ทั้งในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอินและนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ
โดยในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ ยังมีคอนโดเหลือขายจากสต็อกเดิมอยู่ ระดับราคาไม่เกิน 1.5ล้านบาทขายได้ 30 หน่วย ส่วนบ้านจัดสรร มีการกระจายตัวอยู่ในนิคมฯ โรจนะขายได้ 380หน่วย 50%เป็นการขายทาว์นเฮ้าส์ บ้านแฝด 62 หน่วยคิดเป็นสัดส่วน 15% บ้านเดี่ยว107 หน่วย สะท้อนว่าโซนนี้นิยมขายบ้านแนวราบเป็นหลัก
ส่วนในนิคมอุตสาหกรรมบางปะอินขายบ้านจัดสรรได้ 131 หน่วยเป็นทาว์นเฮ้าส์115 หน่วย อาคารพาณิชย์ 4 หน่วย ที่เหลือเป็นบ้านเดี่ยวบ้านแฝด สะท้อนโครงการสร้างตลาดและการขายอสังหาฯในอยุธยาได้เป็นอย่างดี ซึ่งบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่เข้ามาทำตลาดในอยุธยามีสัดส่วน 50% เน้นพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด ส่วนนิคมอุตสาหกรรมวังน้อยมียอดขาย จำนวน 51ยูนิต 63%เป็นทาวน์เฮ้าส์ ระดับราคาไม่เกิน 1.5ล้านบาท อยู่ที่57 % บ้านแฝด 15% บ้านเดี่ยว 21%