อสังหาฯหนีเอฟเฟกต์หุ้นกู้STARKรุกกรีนไฟแนนซ์ระดมทุนผุดโปรเจกต์
ความปั่นป่วนของ “STARK” สร้างแรงกระเพื่อมและความเชื่อมั่นต่อการปล่อยหุ้นกู้! ขณะเดียวกันผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ตื่นตัวกับ “สินเชื่อสีเขียว” เป็นหนึ่งในทางเลือกมากขึ้น
ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันการระดมทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯ ยากขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจ ความไม่แน่นอนต่างๆ อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ล่าสุดกรณีหุ้นกู้ “STARK” ทำให้ผู้ซื้อขาดความเชื่อมั่น ชะลอการซื้อ
“สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทให้ความสำคัญกับการหาแหล่งเงินทุนเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินที่มีดอกเบี้ยอัตราพิเศษจากการพัฒนาโครงการกรีนลีฟวิ่ง”
เริ่มตั้งแต่กระบวนการออกแบบพัฒนาโครงการ การขอรับสินเชื่อสีเขียวไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้บริโภคทุกเซ็กเมนต์ในพอร์ตของ “ไซมิส แอสเสท” สอดคล้องเทรนด์พัฒนาที่อยู่อาศัยสีเขียวที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในอนาคตเพื่อการเติบโตยั่งยืนระยะยาว จะเห็นว่าสถาบันการเงินแต่ละแห่งอนุมัติสินเชื่อสีเขียวมากขึ้น มีเกณฑ์ชี้วัดสำหรับกรีนไฟแนนซ์ ทำให้ธุรกิจทั้งรายใหญ่ กลาง เล็ก มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น
ทิศทางดังกล่าวบริษัทจึงได้พัฒนาโครงการฯ ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ ล่าสุดบริษัทได้รับรางวัล EDGE Champion ผ่านมาตรฐานการรับรองอาคารระดับโลก พร้อม Certificate ESG100 Company โดยสถาบันไทยพัฒน์ นำสู่การขอรับการสนับสนุนแหล่งทุนในตลาดเกิดใหม่ของบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (IFC) ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มธนาคารโลกคำนึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
โดยมีโครงการแนวราบและแนวสูงที่เข้าเกณฑ์เงื่อนไขและได้รับอนุมัติก่อนได้การรับรองมาตรฐาน (Pre Certificate) อาทิ หมู่บ้านมนต์เสน่ห์ ย่านพรานนก โรงแรม TRIBE Bangkok Sukhumvit 39 เริ่มตั้งแต่การออกแบบโครงสร้างฯทั้งภายในและนอก การเลือกใช้วัสดุรีไซเคิล สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์นำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้หมุนเวียนช่วงกลางวัน ระบบกำจัดน้ำเสีย ฯลฯ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน 30-40% และอีก 6 โครงการ อยู่ระหว่างก่อสร้างตามมาตรฐาน EDGE Champion
พร้อมเตรียมลงทุน 2,000 ล้านบาท พัฒนาโรงพยาบาลผู้สูงอายุ 50-60 เตียง และศูนย์ดูแลผู้สูงวัย แบบรายวันและประจำ 200 เตียง ทั้ง 2 โครงการให้บริการในบริเวณเดียวกับคอนโดมิเนียม 445 ยูนิต พื้นที่รวมกว่า 3 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) กับพันธมิตรธุรกิจโรงพยาบาลรายใหญ่ย่านนวมินทร์ คาดก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2569
“เราคาดหวังได้รับคอร์ปอเรทโลนระยะยาวไม่ต่ำกว่า 10 ปี ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อพัฒนาโครงการในต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่ง ทำให้ลูกค้าเข้าถึงที่อยู่อาศัยในราคาจับต้องได้ เช่น ทาวน์เฮ้าส์ ราคา 2 ล้านบาท เจาะกลุ่ม Affordable สำหรับคนที่มีรายได้น้อย ซึ่งก่อนหน้านี้เราได้ทำโปรเจกต์กรีนโลนกับยูโอบี"
ก่อนหน้านี้ วสันต์ ศรีรัตนพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการ สินเชื่อสีเขียว (Green Finance) ของธนาคารหลายแห่งที่ออกมาสนับสนุนผู้บริโภค ผู้ผลิต และ ผู้ลงทุนกรีนบอนด์ สู่เศรษฐกิจสีเขียว
“เป็นเทรนด์ที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ แม้ว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้น แต่ระยะยาวส่งผลดีต่อการแก้ปัญหา Climate Change ดังนั้น มาตรการทางการเงินจะสร้างแรงกระตุ้นทั้งซัพพลายและดีมานด์”
ในช่วงแรกเทคโนโลยีมีต้นทุนสูง การที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการสนับสนุนจะทำให้เกิดการใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแผงโซลาร์ หรืออีวีชาร์จ ในโครงการบ้านและคอนโดมิเนียม แทนที่ผู้บริโภคซื้อติดตั้งเอง ทางผู้ประกอบการจะดำเนินการให้ ส่งผลต่อต้นทุนลดลงจาก Economies of scale
“เมื่อธนาคารเห็นความตั้งใจผู้ประกอบการในการทำธุรกิจสีเขียวจะมีกรีนโลนเข้ามา รวมถึงการระดมทุนผ่าน Green Bond ช่วยลดต้นทุนทางการเงินลงได้บ้าง เป็นจุดเริ่มต้น และมีบทบาทสำคัญกับผู้ประกอบการในการพัฒนาโครงการให้มีความเป็นกรีนมากขึ้น”
เช่นเดียวกับ อภิชาติ เกษมกุลศิริ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มองว่า สินเชื่อสีเขียวเป็นที่เทรนด์ที่กำลังมา! เห็นชัดเจน