เอสซีจี โฮม เอ็กซพีเรียนซ์ปั้นแฟลกชิปสโตร์เจาะวัยเก๋า

Key Points: 

• จากแนวโน้มผู้คนเตรียมความพร้อมดูแลที่อยู่อาศัยของตัวเองมากขึ้นเพื่อรองรับช่วงเกษียณอายุ ขณะที่จำนวนผู้สูงอายุในไทยเพิ่มขึ้นทุกปี
• และนิยามของผู้สูงอายุไม่ใช่คนแก่อีกต่อไป!  ความต้องการ พฤติกรรม รวมถึงทัศนคติที่แตกต่างกัน เป็นโอกาสของธุรกิจที่สนองตอบความต้องการของผู้สูงอายุ

ธัญญ์กวิน บุดดีมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ จำกัด กล่าวว่า ปี 2567 บริษัทวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนบริการเรื่องบ้าน เพื่อให้การอยู่อาศัยของคนไทยดียิ่งขึ้น ตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นเพื่อนคู่คิดในการทำบ้าน ตั้งแต่ให้คำปรึกษา ออกแบบบ้าน สินค้า และบริการพร้อมติดตั้ง มุ่งเน้นส่งมอบประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีสำหรับทุกภารกิจเรื่องบ้าน ในฐานะร้านต้นแบบค้าปลีกของเอสซีจี 
 

โดยเตรียมงบลงทุน 20 ล้านบาท ทำกิจกรรมการตลาดเชิงรุก ปรับปรุงพื้นที่นำเสนอสินค้าและนวัตกรรม ตอบโจทย์ลูกค้าเป้าหมายทั้ง 5 กลุ่ม ได้แก่ Young Owner, Family Giver, Active Aging, Technology and Innovation และ Home Expert ซึ่งปีนี้บริษัทเน้นกลุ่มเป้าหมายผู้สูงอายุตามเทรนด์ Aging Society อีกด้วย

SCG HOME Experience แบ่งกลุ่มผู้สูงอายุออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสีเขียว ยังแอฟทีฟอยู่ ร่างกายยังไหว ดูแลสุขภาพ และชอบหากิจกรรมนอกบ้านกับเพื่อน กลุ่มสีเหลือง เริ่มต้องมีคนดูแล ไปไหนไม่ค่อยสะดวกจึงมีพฤติกรรมติดบ้าน กลุ่มสีแดง เริ่มมีปัญหาสุขภาพ เคลื่อนไหวค่อนข้างลำบาก จนถึงนอนติดเตียง
 

"เรามองเห็นโอกาสพัฒนาบริการ Care Living Solution  ตั้งแต่ให้บริการคำปรึกษาเพื่อปรับปรุงพื้นที่เดิมให้อยู่อย่างปลอดภัย ถูกสุขลักษณะ ทำให้บ้านควรเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับคนในครอบครัว อดีตอาจเป็นเพียงบ้านผู้สูงอายุ แต่ปัจจุบันคนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพด้าน well-being เริ่มมีมากขึ้น ตลาดนี้กำลังเติบโต เราพยายามสร้างให้ลูกค้าจดจำความเป็น แคร์ ลิฟวิ่ง เดสติเนชั่นที่ทุกคนต้องนึกถึงเรา”

ปีนี้ บริษัทวางเป้าหมายเติบโต 30% มาจากการเพิ่มความหลากหลายของพอร์ตสินค้าเกี่ยวกับบ้าน การขยายพื้นที่ให้บริการของเอสซีจีและคู่ธุรกิจในกลุ่มโซลูชัน ได้แก่ หลังคา งานปรับปรุงภายนอก กลุ่มวัสดุประตู หน้าต่าง ส่วนกลุ่มโซลูชันที่บริษัทคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นและสร้างความแตกต่างจะอยู่ในกลุ่มแคร์ ลิฟฟวิ่ง โซลูชั่นและสมาร์ท ลิฟวิ่ง โซลลูชั่นที่สอดรับกับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้

นอกจากนี้ได้วางกลยุทธ์จับมือกับพาร์ตเนอร์ภาครัฐและเอกชน เช่น กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัย และพันธมิตรที่ชำนาญด้านการให้ความรู้เรื่องบ้านและเทรนด์การอยู่อาศัย เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้แข็งแกร่งและบริการที่เป็นเลิศ

โดยลงทุนพัฒนาทักษะความรู้ของพนักงานเพื่อเป็น “Home Expert Partner” สร้างความมั่นใจในการใช้บริการยกระดับมาตรฐานบริการติดตั้งร่วมกับพันธมิตร ตั้งเป้าลดมูลค่าการเคลมและข้อร้องเรียนจากลูกค้า  พร้อมลงทุนเพื่อจำลองแบบการอยู่อาศัยใหม่ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยทั้งปัจจุบันและอนาคต เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นภาพประกอบการตัดสินใจ

“กลยุทธ์สำคัญที่สร้างความแตกต่างและขับเคลื่อนแผนให้ได้ตามเป้าหมาย คือทำให้ได้สัมผัสประสบการณ์จริงแบบ Real Touch Point เป็นข้อได้เปรียบของการทำร้านค้าปลีก เพราะบ้านเป็นสิ่งที่สะท้อนความสุขของคนอยู่อาศัย ซึ่งทุกคนจะสร้างหรือปรับปรุงบ้านไม่บ่อยในหนึ่งช่วงชีวิต"