'ภูเก็ต - ทองหล่อ' 2 ทำเลทอง! ดึงดีมานด์ต่างชาติซื้อบ้านหลังที่สอง

'ภูเก็ต - ทองหล่อ' 2 ทำเลทอง! ดึงดีมานด์ต่างชาติซื้อบ้านหลังที่สอง

2 ทำเลทอง “ภูเก็ต - ทองหล่อ” ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโตสวนทาง โดยเฉพาะดีมานด์ต่างชาติที่แห่เข้ามาซื้อบ้านหลังที่สองในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

KEY

POINTS

  • ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจ และกำลังซื้อในประเทศยังคงอ่อนแรง รวมถึงความผันผวนจากปัจจัยภายนอก ปัญหาการโอนเงินของชาวต่างชาติมาไทยยากขึ้น!  
  • แต่ 2 ตลาดศักยภาพใน 2 ทำเลทอง “ภูเก็ต-ทองหล่อ” ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโตสวนทาง โดยเฉพาะดีมานด์ต่างชาติที่แห่เข้ามาซื้อบ้านหลังที่สองในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
     

ไปรยา บุนนาค ประธานผู้บริหารฝ่ายขายและพัฒนาธุรกิจตลาดต่างประเทศ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริ พร้อมรุกตลาดต่างชาติต่อเนื่อง ล่าสุดผนึกความร่วมมือกับพันธมิตร “ไทยเวย์พร็อพเพอร์ตี้” ในฐานะ Master Agent ตัวแทนขายโดยไทยเวย์ เป็นเอเจนต์ที่ปรึกษาด้านการขายอสังหาฯ แก่ชาวต่างชาติ และนักลงทุน ในระดับนานาชาติ และในประเทศไทยมากว่า 10 ปี ด้วยประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญในการขายโครงการระดับลักซ์ชัวรีบนทำเลศักยภาพอย่างทองหล่อ-เอกมัย 

โดยเตรียมนำเสนอขายโครงการ Via 61 ให้กลุ่มลูกค้าในเอเชีย พร้อมกัน 6 ประเทศ ได้แก่ จีน, เมียนมา, ไต้หวัน, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และไทย  นับเป็นการเปิดตลาดอย่างยิ่งใหญ่ของแสนสิริในกลุ่มลูกค้าต่างชาติในรอบหลายปีที่ผ่านมา เชื่อว่าจะได้การตอบรับที่ดีจากลูกค้า และสร้างยอดขาย 480 ล้านบาท
 

“ดีมานด์ลูกค้าชาวต่างชาติเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ สนใจซื้อที่อยู่อาศัยในไทยเพิ่มมากขึ้น ทั้งกลุ่มเรียลดีมานด์ที่ซื้อเพื่ออยู่เองจากการพำนัก และประกอบธุรกิจในไทย หรือมองหาที่อยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่สองในประเทศไทยรูปแบบ long stay เพื่อตอบโจทย์ด้านการรักษาสุขภาพโดยแพทย์ชั้นนำในไทย และกลุ่มนักลงทุนซื้อเพื่อปล่อยเช่าจากอัตราผลตอบแทนอัตราปล่อยเช่าที่ดี (rental yield) นับเป็นสัญญาณที่ดีของตลาด”

ทั้งนี้ แบรนด์ที่แข็งแกร่ง บริการหลังการขายที่ดี  ศักยภาพของทำเลยอดนิยม ทั้งสุขุมวิท ทองหล่อ-เอกมัย เป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างดีมานด์อย่างต่อเนื่องตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าต่างชาติ ทำให้แสนสิริ ปิดการขายเต็มโควต้าต่างชาติในทุกโครงการในย่านทองหล่อ เอกมัย กว่า 10 โครงการ ครอบคลุมทั้งกลุ่มลักซ์ชัวรีและระดับพรีเมี่ยม 
 

พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดอสังหาฯ ในภูเก็ตยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัทมียอดขายจากตลาดต่างชาติจาก 2 โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่ยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการ ได้แก่ โซ​ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต และ ออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต ภายใต้โควตาของผู้ซื้อชาวต่างชาติคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ ออริจิ้น เปิดตัวคอนโดมิเนียมในภูเก็ต 3 โครงการ มูลค่ารวม 5,150 ล้านบาท ประกอบด้วย ดิ ออริจิ้น เซ็นเตอร์ ภูเก็ต อยู่ใจกลางเมืองซึ่งสามารถปิดการขายได้ภายใน 6 สัปดาห์ ดิ ออริจิ้น กะทู้-ป่าตอง โซนกะทู้ และ โซ ออริจิ้น บางเทา บีช เพิ่งเปิดขายต้นปี 2567 โดยมียอดขายสะสมจาก 3 โครงการดังกล่าว (มิ.ย.2567) รวมกว่า 4,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นยอดขายกว่า 80% ของมูลค่าโครงการทั้งหมด

ธนกร วุฒิพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวเสริมว่า จากการเปิดตัว Origin Agent Club ทำให้บริษัทมีพันธมิตรเอเจนต์อสังหาฯ ทั้งไทย และต่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ทุกโครงการของออริจิ้นสามารถเข้าถึงตลาดต่างชาติได้มากขึ้น โดยเฉพาะรัสเซีย ไต้หวัน ฮ่องกง เเละสิงคโปร์ ซึ่งเป็นตลาดหลักของภูเก็ต โดยทุกโครงการตั้งอยู่บน ท็อป เดสติเนชั่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนเเละอยู่อาศัย

“ออริจิ้นมีแผนขยายตลาดในภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง มีฐานลูกค้าหลากหลาย ทั้งชาวไทยที่ซื้อเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศ กลุ่มนักลงทุนระยะยาว กลุ่มชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูง โดยเตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียม เเละพูลวิลล่าอีก 3 โครงการ”
 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์