“Cloud food bank”ลดขยะอาหาร เปลี่ยนส่วนเกินเป็นอาหารคุณภาพ
ตัวเลขของผู้ขาดแคลนอาหารของมูลนิธิเอสโอเอสจะอิงกับเส้นความยากจน (poverty line) ซึ่งประชากรที่อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนในประเทศคาดการณ์ว่ามีอยู่มากกว่า 8 ล้านคนทั่วประเทศไทยเนื่องจากสถานการณ์โควิดใน 2 ปีที่ผ่านมา
โดยในแต่ละปี อาหารกว่า 1,300 ล้านตัน หรือ 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตได้ทั่วโลก ต้องกลายเป็นขยะอาหารที่ถูกทิ้งไปอย่างสูญเปล่า และสร้างก๊าซเรือนกระจกถึง 8% ในขณะที่คนกว่า 830 ล้านคนทั่วโลกกลับประสบภาวะอดอยาก สำหรับประเทศไทย กว่า 60% ของขยะมาจากขยะอาหาร คนไทย 1 คนสร้างขยะอาหารสูงถึง 254 กิโลกรมต่อปีเลยทีเดียว
- ธ.อาหารออนไลน์แห่งแรกในไทย
บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จับมือ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ ประเทศไทย (มูลนิธิเอสโอเอส) จัดตั้ง “ธนาคารอาหารออนไลน์” ด้วยระบบ คลาวด์ ฟู้ด แบงค์ ครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อจัดการอาหารส่วนเกินอย่างเป็นระบบ นำส่งต่อแก่ชุมชนขาดแคลน องค์กรสาธารณะ และผู้ด้อยโอกาส หวังลดปัญหาขยะและอาหารเหลือทิ้งในเมือง ตั้งเป้าปีแรกส่งต่ออาหารส่วนเกิน 600 ตัน
มร.โทมัส วิลสัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา อลิอันซ์ อยุธยา ประเทศไทยได้ดำเนินตามนโยบายของกลุ่มอลิอันซ์ที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคม มุ่งสร้างความยั่งยืน ด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ การลดขยะ และการใช้พลังงาน เป็นต้น
“สถานการณ์โควิด หลายคนประสบปัญหารายได้และความเป็นอยู่ อลิอันซ์ ได้สนับสนุนอาหารให้กับชุมชนที่ขาดแคลนทั่วกรุงเทพ ทำให้มองเห็นถึงความต้องการอาหารที่มีอยู่ และมองหาพันธมิตรช่วยกันแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหาร และลดขยะ จึงได้ร่วมมือกับมูลนิธิเอสโอเอส ซึ่งเป็นมูลนิธิที่มุ่งทำภารกิจเพื่อการลดปริมาณการสูญเสียอาหาร โดยนำอาหารส่วนเกินไปบริจาคให้แก่ผู้ที่ต้องการ”มร.โทมัส กล่าว
- แพลตฟอร์มร่วมบริจาคอาหาร
“อลิอันซ์ อยุธยา” อาสานำเทคโนโลยีเข้ามาต่อยอดภาระกิจนี้ โดยได้จัดทำแพลตฟอร์ม คลาวด์ ฟู้ด แบงค์ ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกลางในการเชื่อมโยงผู้ที่ต้องการบริจาคอาหาร และกลุ่มคนที่ขาดแคลนอาหารมาเจอกัน สามารถจัดสรรการรับและการส่งต่ออาหารได้อย่างเป็นระบบ มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยบริษัทฯ ได้ลงทุนเงินจำนวนประมาณ 2 ล้านบาทในการจัดทำแพลตฟอร์มดังกล่าวขึ้น
ธนาคารอาหารดำเนินการมาตลอดหลายปี แต่ด้วยการแพร่ระบาดของโควิด-19 และยุคสมัยที่เปลี่ยนไป จึงมองว่าธนาคารอาหารควรอยู่ในรูปแบบออนไลน์ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
ทั้งผู้บริจาค และผู้รับบริจาค ซึ่งลูกค้า และพนักงานของอลิอันซ์ อยุธยา กว่า 1,200 คน ได้เข้าร่วมโครงการ ช่วยจัดการอาหาร ลดขยะอาหาร ทำงานร่วมกับ SOS และชุมชนมาโดยตลอด ทำให้ในปีที่ผ่านมา ทำให้สามารถส่งอาหาร 1 ล้านมื้อแจกจ่ายไปยังผู้เดือน
“แอพพลิเคชั่น และความร่วมมือดังกล่าว จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกส่วนมีส่วนร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน เพราะการจัดการอาหารส่วนเกิน นอกจากจะเป็นการลดขยะอาหารแล้ว ยังเป็นการช่วยลดโลกร้อน เพราะอาหารส่วนเกินหากไม่ได้กำจัดอย่างถูกวิธี ปล่อยให้เป็นขยะจะมีก๊าซมีเทน ซึ่งทำลายชั้นบรรยากาศ เกิดภาวะโลกร้อนได้ ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องช่วยกันในเรื่องนี้” มร.โทมัส กล่าว
- ปี65ส่งต่ออาหารส่วนเกิน600ตัน
ปัจจุบันมีองค์กรผู้บริจาคอยู่ในระบบของมูลนิธิ SOS กว่า 700 องค์กร และมีผู้รับความช่วยเหลือกว่า 1,000 ชุมชน ทั่วประเทศ เชื่อว่าเมื่อนำเทคโนโลยีจากอลิอันซ์ อยุธยาเข้ามาใช้งาน จะทำให้สามารถเพิ่มการรับและส่งต่ออาหารได้มากกว่าเดิมถึง 25%โดยปีนี้ตั้งเป้าการส่งต่ออาหารส่วนเกินไว้ที่ 600 ตัน ซึ่งนั่นหมายถึงการสร้างความเท่าเทียมให้แก่ผู้ที่ขาดแคลนได้เพิ่มขึ้นผ่านการแจกจ่ายอาหารส่วนเกินคุณภาพสูงที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้าน มร.เจมส์ เลย์สัน กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ กล่าวว่า มูลนิธิเอสโอเอส มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่อลิอันซ์ อยุธยา เห็นถึงความสำคัญของการสร้างความยั่งยืนในสังคม โดยเฉพาะปัญหาเรื่องอาหารส่วนเกิน ที่มูลนิธิเอสโอเอสมุ่งให้ความสำคัญและดำเนินการเพื่อลดปริมาณการสูญเสียอาหารและป้องกันผลกระทบที่เกิดจากขยะอาหารมาอย่างต่อเนื่อง
“การที่อลิอันซ์ อยุธยา นำเทคโนโลยีเข้ามาต่อยอดการทำงานของเรา กลายเป็นระบบ SOS Cloud Food Bank จะทำให้สามารถเพิ่มศักยภาพการจัดการได้เป็นเท่าทวีคูณ ทั้งในแง่ของการเข้าถึงผู้บริจาคและผู้รับบริจาค การบริหารการจัดเก็บ และการส่งต่ออาหาร”มร.เจมส์ กล่าว
- SOSรับบริจาค5ตันต่อวัน
ณภัทร พงษ์แพทย์ หัวหน้างานฝ่ายโครงการ มูลนิธิ SOS กล่าวว่าตลอดระยะเวลาหลายปี มูลนิธิ SOS ในประเทศไทยได้จัดการอาหารส่วนเกินไปแล้ว 8,000 ตัน โดยในแต่ละปีกรุงเทพมีการผลิตขยะอาหาร 9,000 ตันต่อปี ซึ่งต้องยอมรับว่าการจัดการอาหารส่วนเกินในไทย เฉพาะกรุงเทพฯ ก็ไม่สามารถจัดการแก้ปัญหาได้ทั้งหมดภายในปีเดียว ดังนั้น ความร่วมมือแพลตฟอร์มครั้งนี้ เป็นการช่วยจัดสรรอาหารส่วนเกินไปสู่ผู้ขาดแคลนได้ดียิ่งขึ้น
“ธนาคารอาหารออนไลน์ เชื่อว่าจะทำให้เกิดความร่วมมือ มีพาสเนอร์มากขึ้น ซึ่งตั้งเป้าปีนี้สามารถจัดสรรอาหารส่วนเกินไปสู่ผู้รับบริจาคได้ 10 ล้านมื้อ โดย SOS มีรถตู้เย็น อุณหภูมิ 3-4 องศาในการส่วนขนส่ง จัดส่งอาหาร และทุกครั้งก่อนที่จะมีการส่งต่ออาหารจะมีผู้ตรวจความปลอดภัยของอาหาร ดูตั้งแต่เริ่มบริจาค และช่วงบริจาคอาหาร และถ้ามีกลิ่น ก็จะไม่ เพราะต่อให้ได้มาฟรีแต่ถ้าไม่ดี เราก็ไม่ส่งต่อ ต้องมั่นใจว่าอาหารต่างๆ ปลอดภัย 100%”ณภัทร กล่าว
อย่างไรก็ตาม SOS สามารถรับบริจาคอาหารได้วันละ 5 ตันต่อวัน ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้าร่วมเป็นผู้บริจาคโครงการอย่างต่อเนื่อง อาทิ MK Restaurant Group Hilton Hotels Malee Central Food Halls และ S&P เป็นต้น โดยผู้สนใจเป็นผู้บริจาคหรือรับบริจาคสามารถลงทะเบียนในระบบคลาวด์ ฟู้ด แบงค์ ได้ที่ www.cloudfoodbank.org หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่โทร 095-553-2795
- ระบบ Cloud Food Bank
ระบบคลาวด์ ฟู้ด แบงค์ (Cloud Food Bank) เป็นแพลตฟอร์มที่สนับสนุนการจัดทำโดย อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ทำหน้าที่เชื่อมโยงผู้ที่ต้องการบริจาคอาหาร และกลุ่มคนที่ขาดแคลนอาหารมาเจอกัน โดยมีมูลนิธิเอสโอเอส โครงการรักษ์อาหาร (SOS Thailand) เป็นตัวกลางในการจัดสรรการรับและการส่งต่ออาหารอย่างเป็นระบบ
โดยผู้บริจาคและผู้รับบริจาค ต้องลงทะเบียนผ่านระบบ เพื่อให้มูลนิธิสามารถตรวจสอบและติดต่อประสานงานได้ โดยปัจจุบันยังกำหนดให้ผู้รับบริจาคเป็นกลุ่มบุคคล เช่น หัวหน้าชุมชน องค์กรสาธารณะที่มีภารกิจในการดูแลผู้ด้อยโอกาส เป็นต้น
สำหรับประเภทอาหารที่ต้องการ ได้แก่ อาหารกระป๋อง อาหารปรุงสาเร็จ ของว่าง (Boxset) ข้าวสาร เส้นก๋วยเตี๋ยว อาหารแห้ง ขนมปัง Bakery ผัก ผลไม้ นม นมผง ผลิตภัณฑ์จากนม เนื้อสัตว์ เนื้อสัตว์แช่แข็ง กระดูกไก่ ไข่ เต้าหู้ น้าดื่ม น้าผลไม้ เครื่องปรุงต่าง ๆ อาทิ น้ามัน น้าปลา น้าส้มสายชู เป็นต้น