มูลนิธิเพื่อทะเลร้องรัฐดูแลปะการังฟอกขาว

นายวิทเยนทร์ มุตตามระ กรรมการเลขานุการมูลนิธิเพื่อทะเล ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาปะการังฟอกขาว อย่างจริงจัง โดยระบุว่า ปัญหาปะการังฟอกขาวซึ่งเป็นสภาวะที่ปะการังสูญเสียสาหร่ายเซลล์เดียว ซึ่งจะทำให้ตายลงเพราะไม่ได้รับสารอาหาร ยังคงเกิดขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 ปี แต่รัฐบาลละเลยไม่ยอมแก้ปัญหา ขาดมาตรการที่จะมาดูแลอย่างจริงจัง ทำให้แนวปะการังที่เคยสมบูรณ์และสวยงามมากเช่น อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิรินทร์ ทรุดโทรมหนักกว่าเดิม มีการปล่อยปะละเลยให้นักท่องเที่ยวที่ดำน้ำแบบผิวน้ำไปลงไปเหยียบย่ำ ปะการังซ้ำเติมปะการังที่เกือบจะตายหมดอยู่แล้วหลุดหัก มาตรการต่างๆของภาครัฐก็ไม่ได้มีความเข้มงวด น่าเสียดายที่เรามีรองนายกฯรัฐมนตรี เป็นนักวิชาการทางการประมงเป็นผู้มีความรู้ด้าน วิทยาศาสตร์ทางทะเลเป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนว่าท่านจะใส่ใจแต่เรื่องสีสันทางการเมือง มากกว่าดูแลทะเลและสิ่งแวดล้อมตามแนวทางที่ท่านควรจะถนัด

ตัวแทนมูลนิธิเพื่อทะเล ฃได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล 6 ข้อประกอบด้วยกัน ประกอบด้วย 1.ออกสำรวจแนวปะการังทั้งหมดในเขตอุทยานทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทยใหม่อีกรอบ อย่างจริงจัง เพื่อให้รู้สถานการณ์ว่าขณะนี้มีแนวปะการังที่เสื่อมโทรมทั้งหมดเท่าใด 2.พื้นที่ในเขตอุทยานมีประกาศปิดกิจกรรมทางการท่องเที่ยวไปแล้ว ภาครัฐต้องเคร่งครัด เพราะปัจจุบันยังมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวในบริเวณที่สั่งปิดไปแล้วอยู่ นอกจากนี้ในบริเวณพบ แนวปะการังที่มีความเสียหายมากก็ต้องมีการประกาศปิดเพิ่มเติมบริเวณดังกล่่าวเพิ่มเติมเพื่อให้ ธรรมชาติได้พักและฟื้นฟูตัวเอง

นายวิทเยนทร์ กล่าวว่า 3.จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่อนุญาตให้เข้าไปในบริเวณอุทยานแห่งชาติทางทะเลอย่าง เคร่งครัดทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไปเช้าเย็นกลับและที่พักแรม 4.ออกข้อกำหนดเกี่ยวกับกิจกรรมการดำน้ำตื้นหรือสนอร์กเกิ้ลทั้งหมดในเขตอุทยานฯ ห้ามดำน้ำทุกจุดที่น้ำตื้นขนาดเท้ายืนถึง จะดำน้ำชมปะการังได้เฉพาะจุดที่น้ำบึกเกิน 2 เมตรขึ้นไป

5.ปัจจุบันเรือส่วนใหญ่ที่ใช้ในการท่องเที่ยวยังมีระบบสุขาระบบตรง คือขับถ่ายแล้วปล่อยลงทะเลทันที ต้องบังคับให้เรือที่เข้าบริเวณอุทยานทุกลำที่มีห้องน้ำต้องมีระบบการบำบัดของเสีย ห้ามปล่อยตรงจากสุขาลงทะเล และวางมาตรการการจอดเรือด้วยการผูกทุ่นห้ามทิ้งสมอ 6.จัดแสดงงบรายรับจากการเก็บค่าธรรมเนียมให้ชัดเจนโปร่งใส และใช้งบประมาณส่วนนี้ เป็นรายได้นอกงบประมาณ เพื่อใช้การดูแลสิ่งแวดล้อมภายในอุทยานนั้นทั้งหมด