สธ.แจ้งความผู้ป่วยทำร้ายแพทย์ฐาน “พยายามฆ่า”
ปลัดสธ..สั่งพื้นที่แจ้งความเอาผิดผู้ป่วยทำร้ายแพทย์ ข้อหาพยายามฆ่า ระบุบริเวณคอมีเส้นเลือดสำคัญ ลั่นผู้บริหารคนไหนบอกให้อะลุ้มอะล่วยยอมความ ย้ายออกพ้นพื้นที่เอาผิดวินัยฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่
วันนี้(11 ธ.ค.) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีผู้ป่วยทำร้ายแพทย์โดยในใช้กรรไกรจี้คอในรพ.รัฐแห่งหนึ่งในจ.ขอนแก่น ซึ่งคนไข้ตะโกนรอแพทย์ตรวจนานว่า สธ.ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการในการดำเนินการแจ้งความกับผู้ป่วยรายดังกล่าวฐานพยายามฆ่า เนื่องจากตามแทนวทางฎีกาที่ผ่านมามีการระบุว่าการทำร้ายบริเวณต้นคอซึ่งมีเส้นเลือดสำคัญนั้นทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ ถือว่าเป็นการพยายามฆ่า นอกจากนี้ จะมีการส่งมอบวัตถุพยานหลักฐานต่างๆ เช่น วิดีโอ กรรไกร ให้กับเจ้าหน้ที่ตำรวจด้วย
“จากที่ได้รับรายงานผู้ป่วยไม่ได้เป็นโรคจิต อาจจะมีปัญหาเรื่องบุคลิกภาพหรืออารมณ์ และแพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้มา 3 วันแล้วแต่ผู้ป่วยไม่กลับ ขณะนี้ได้ส่งตัวไปรักษาต่อที่รพ.ศูนย์ขอนแก่นแล้ว ขณะที่แพทย์หญิงนั้น ส่วนตัวได้โทรคุยกับแพทย์คนดังกล่าวเพื่อให้กำลังใจ ยืนยันว่าสธ.จะดูแลช่วยเหลือเรื่องนี้เต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้อนุญาตให้แพทย์หญิงลาพักและมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 7 และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(นพ.สสจ.)ขอนแก่นลงพื้นที่ดูแลขวัญกำลังใจเต็มที่ ส่วนที่การบอกว่าผู้บริหารสธ.ขอให้มีการอะลุ้มอะล่วยเรื่องนี้นั้น ย้ำว่าไม่มีแน่นอน ถ้าใครมีข้อมูลว่ามีให้แจ้งมาที่ผม จะสั่งย้ายผู้บริหารที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นผอ.รพ.หรือนพ.สสจ.ทันทีและเอาผิดทางวินัยตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”นพ.สุขุมกล่าว
นพ.สุขุม กล่าวอีกว่า การป้องกันเหตุในระยะยาว เพื่อแก้ปัญหาผู้ป่วยแออัดและภาระงานที่มากของบุคลกรทางการแพทย์นั้น ได้สั่งการให้ทุกรพ.เช็คจำนวนเตียงผู้ป่วยในต่างๆ รวมถึง การกำหนดเวลาการทำงานที่เหมะสมของแพทย์ ซึ่งอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับแพทยสภาและเป็นแผนในปีงบประมาณ 2564 อีกทั้ง ที่ผ่านมาสธ.ให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องของมาตรฐานรพ. ซึ่งมีการให้การดูแลความปลอดภัยทั้งผู้ป่วยและบุคลากรตามาตรฐานของสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล(องค์การมหาชน)หรือสรพ. อย่างไรก็ตาม ในการป้องกันเหตุระยะยาว ได้มอบหมายให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.)และกรมการแพทย์ หารือร่วมกันเพื่อพิจารณาเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐานของรพ. โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับปรุงเรื่องของอุปกรณ์ต่างๆ เพราะบางอุปกรณ์ที่คิดว่าไม่มีอันตราย แต่อาจกลายเป็นอาวุธมาทำร้ายกันได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนแนวโน้มการก่อเหตุความรุนแรงในรพ.จะมีมากขึ้นทั้งในห้องฉุกเฉินและล่าสุดที่หอผู้ป่วยใน นพ.สุขุม กล่าวว่า รพ.เป็นสถานที่ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย เรื่องนี้จึงขอให้สังคมต้องช่วยกันในการป้องกันและไม่ให้เหตุเกิดขึ้น เพระจะให้รพ.ไปทำรั้วมิดชิด หรือตรวจเช็คการเข้ารพ.อย่างละเอียดก็คงทำไม่ได้ จึงอยากขอให้เห็นใจ ขอให้เว้นรพ. และหากมีเหตุความรุนแรงขึ้นในรพ.นั้น สธ.จะให้รพ.ดำเนินการตามกฎหมาย