สธ.แจ้งเตือนภัยโควิด-19 ระดับ 3 พบสัญญาณเสี่ยง
สธ.แจ้งเตือนภัยโควิด-19 ระดับ 3 จำกัดรวมกลุ่ม พบสัญญาณเสี่ยงติดเชื้อจากต่างประเทศ-คลัสเตอร์ในประเทศ ขอคนไทยชะลอไปต่างประเทศ เข้มมาตรการUP ตรวจATK รวมถึง WFH 20-50 %
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข ในการแถลงสถานการณ์โควิด-19 นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขแจ้งเตือนภัยโควิด-19 ในระดับ 3 และหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงจะมีการแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบสถานการณ์
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า สธ. ประเมินสถานการณ์และประกาศแจ้งการเตือนภัยด้านสาธารณสุขเป็นระดับ 3 โดยมีสัญญาณเสี่ยง คือการติดเชื้อจากต่างประเทศ ไม่ปฏิบัติตามามาตรการป้องกันโรคครอบจักรวาลหรือ UP ขณะเดินทางหรือพำนักต่างประเทศ รวมถึง คลัสเตอร์ในประเทศ จากการทานอาหารและดื่มสุราในร้านอาหารที่เป็นระบบปิด/บาร์ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ใกล้ชิดกันมาก
ทั้งนี้ ระบบเตือนภัยจะมีทั้งหมด 5 ระดับ คือ ระดับ 1 ใช้ชีวิตได้ปกติ ระดับ 2 เร่งเฝ้าระวัง คัดกรอง ระดับ 3 จำกัดรวมกลุ่ม ระดับ 4 ปิดสถานที่เสี่ยง และระดับ 5 จำกัดการเดินทางและกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจะมีการกำหนดมาตตรการตามระดับเตือนภัยทั้ง 5 ระดับด้วย ซึ่งปัจจุบันเตือนภัยระดับ 3 สามารถไปสถานที่เสี่ยง อย่างร้านอาหารได้ แต่ถ้าจำเป็นควรเป็นร้านอาหารเปิด อยู่ไม่แออัด แต่สถานที่ที่รวมตัวกันหมู่มากต้องไม่เกิน 200 คน และทุกอย่างต้องCOVID-19 Free Setting และเดินทางข้ามจังหวัดทำได้ Work From Home(WFH) 20-50 % ขอให้มีการตรวจ ATK และย้ำมาตรการป้องกันครอบจักรวาล ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศ ขอให้ชะลอไปก่อน และเข้าประเทศก็เป็นระบบแซนด์บ็อกซ์ เพราะTest&Goมีการชะลอชั่วคราวแล้ว
เมื่อมีการแจ้งเตือนภัยด้านสาธารณสุขเป็นระดับ 3 สิ่งที่ต้องเน้นย้ำและขอความร่วมมือ ได้แก่ ปฏิบัติตามมาตรการ Covid-19 free setting อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะสถานที่เสี่ยงระบบปิด เช่น ร้านอาหารที่เป็นห้องปรับอากาศ อยู่ที่แออัด พนักงานจะต้องฉีดวัคซีนให้ครบถ้วน รวมถึงต้องสุ่มตรวจ ATK เป็นระยะ และคัดกรองลูกค้าก่อนรับบริการ เว้นระยะห่าง ซึ่งที่มาผ่านพบว่าดำเนินการได้ดี แต่ยังพบหลายร้านย่อหย่อนไปบ้าง เช่น พนักงานมาใหม่ ไม่ได้ตรวจสอบการฉีดวัคซีน และหลายครั้งมีคนไปรวมกันหนาแน่น การรอคิวที่ไม่เว้นระยะห่าง ผู้ประกอบการต้องจัดระบบรอคิว มีการจองล่วงหน้า
ความร่วมมือของพี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่จึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยขอย้ำมาตรการ VUCA ที่ป้องกันได้ทุกสายพันธุ์ ประกอบด้วย V- Vaccine, U-Universal Prevention, C- Covid-19 free setting และATK โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงต้องขอความกรุณาลูกหลานพาท่านมารับวัคซีน หรือกรณีอยู่พื้นที่ห่างไกล ขอให้แจ้งมา ทางเจ้าหน้าที่เราไปฉีดให้ถึงบ้าน
"พบว่าคนไทยเดินทางไปต่างประเทศค่อนข้างมาก จริงๆ ตอนนี้ประเทศไทยปลอดภัยกว่ามาก ซึ่งคนที่ไปต่างประเทศเมื่อกลับมา ต้องพึงระลึกเสมอว่า แม้ไม่เจอเชื้อ แต่สัปดาห์แรกที่มาอยู่ในไทยก็ต้องสังเกตอาการก่อน อย่าเพิ่งไปทำกิจกรรมคนหมู่มาก โดยเฉพาะกินอาหารร่วมกัน เพราะจะสร้างความเสี่ยงให้ตัวท่าน ให้ชุมชน ให้จังหวัด ซึ่งจริงๆ ทุกคนรู้อยู่แล้ว แต่บางครั้งคิดว่าไม่เป็นไร จึงต้องขอความร่วมมืออย่างจริงจัง" นพ.โอภาส กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า การเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะในช่วงเทศกาล สธ.ร่วมกับกระทรวงคมนาคม จัดมาตรการต่างๆ ให้เกิดความปลอดภัย โดยพนักงานให้บริการยานพาหนะต่างๆ ส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนครบแล้ว แต่มาตรการเพิ่มสำคัญที่อาจไม่สะดวก แต่จะปลอดภัยขึ้น คือ หากมีการเดินทางมากกว่า 4 ชั่วโมง ขอให้การตรวจ ATK ผู้เดินทาง ขอให้หลีกเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกลุ่มเสี่ยง ทั้งคนในครอบครัวและคนรู้จัก