ทรูผนึกไชน่าโมบายล์ เสริมแกร่ง“5จี”ในไทย

นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ รองประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กลุ่มทรู ได้ประกาศความร่วมมือครั้งล่าสุดกับไชน่า โมบายล์ ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกทั้งด้านจำนวนฐานลูกค้าและความเป็นผู้นำ 5จี ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผนความร่วมมือพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ที่ริเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนก.ย.2557 ถือเป็นการฉลองครบรอบ 5 ปีของความสัมพันธ์อันดีระหว่างกลุ่มทรูและไชน่า โมบายล์ด้วย

“วิสัยทัศน์ของกลุ่มทรูที่จะก้าวเป็นผู้นำเทคโนโลยี 5จี ในไทย เรายินดีที่จะได้รับการสนับสนุนจากไชน่า โมบายล์ ทั้งเรื่องพัฒนาธุรกิจ 5จี และการเตรียมความพร้อมด้านเครือข่าย ซึ่งปัจจุบันเราทั้ง 2 ต่างเร่งเปิดให้บริการ 5จี ทั้งในจีนและไทย ความร่วมมือครั้งนี้ จะทำให้กลุ่มทรูได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของไชน่า โมบายล์ได้เป็นอย่างดีทั้งในเรื่องของเครือข่ายและเทคโนโลยี 5จี ประสบการณ์จากการเปิดทดสอบให้บริการแก่ลูกค้าบุคคลและในภาคอุตสาหกรรม วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ ตลอดจนการฝึกอบรม โครงการแลกเปลี่ยนต่างๆ สำหรับพนักงานและคู่ค้า"

ด้านนายหลี่ เจิ้งเม่า รองประธานกรรมการ บริษัท ไชน่าโมบายล์ จำกัด กล่าวว่า กลุ่มทรู เป็นพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศไทยที่ดีมาโดยตลอด ด้วยกลุ่มทรู เป็นผู้นำด้านบรอดแบนด์ เคเบิ้ลทีวี และยังเป็นผู้นำธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งในระบบ 3จี และ 4จี ในประเทศไทย

บริษัทเชื่อมั่นว่าการที่ได้เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับทรู คอร์ปอเรชั่น จะเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ทั้งในการผสมผสานทรัพยากรที่มีคุณภาพ การทำงานร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงร่วมกันสร้างแบรนด์ของการเป็นผู้นำ 5จี เพิ่มมากยิ่งขึ้น

สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ จะนำมาซึ่งความร่วมมืออื่นๆ ที่เอื้อประโยชน์ร่วมกันทั้ง 2 ฝ่ายในอนาคต ในวันนี้กลุ่มทรูสามารถสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจขึ้นได้จากการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับไชน่า โมบายล์ ขณะเดียวกัน ไชน่า โมบายล์ ก็ได้รับประโยชน์จากการร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ ทำให้สามารถขยายกิจการของบริษัทไปยังระดับภูมิภาคและระดับโลก สำหรับความร่วมมือในอนาคต ทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการร่วมกันในการจัดหาแหล่งอุปกรณ์โทรคมนาคมและเครือข่ายจากทั่วโลก รวมถึงการขยายตลาดไปสู่ธุรกิจด้านดิจิทัลคอนเทนต์

นับตั้งแต่ความร่วมมือตั้งแต่ปี 2557 ไชน่า โมบายล์ และกลุ่มทรู ได้ดำเนินงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดใน 6 ด้าน ได้แก่ 1. ผลิตภัณฑ์/บริการเสริม/คอนเทนต์ 2. ธุรกิจระหว่างประเทศ 3. เครือข่าย 4.การจัดซื้อดีไวซ์ 5.การจัดซื้อทั่วไป และ 6.ทรัพยากรบุคคล โดยจะมีคณะทำงานร่วมกันกำหนดกลยุทธ์ในธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เพิ่มผลประโยชน์แก่ทั้ง 2 ฝ่าย