"เบนไซออน" น้ำยาฆ่าไวรัสฝีมือไทย กองหนุนหลังคลายล็อกดาวน์
จากงานวิจัย “ซิงค์ไอออน” สู่ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย-ไวรัสจากธรรมชาติ “เบนไซออน” หนึ่งในนวัตกรรมพร้อมใช้จาก สวทช.และพันธมิตร ส่งมอบให้กับจังหวัดกระบี่ หวังสร้างความมั่นใจนักท่องเที่ยวหลังคลายล็อกดาวน์
ธนากร ตั้งเมธากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิซิล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า จากการที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงปศุสัตว์กว่า 10 ปี ได้เล็งเห็นปัญหาของเกษตรกรและฟาร์มต่างๆ ในเรื่องเชื้อโรคและโรคระบาดใหม่จากเชื้อไวรัส ขณะที่ยาในรูปแบบเดิมยับยั้งได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จึงพยายามเสาะหาตัวยาใหม่ๆ โดยให้ความสนใจในกลุ่มแร่ธาตุที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรค ทดแทนสารฆ่าเชื้อประสิทธิภาพสูงที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
กระทั่งทราบว่า ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มีงานวิจัยที่ตอบโจทย์ความต้องการ จึงเกิดการปรึกษาจนนำไปสู่โครงการวิจัย “การพัฒนากระบวนการผลิตซิงค์ไอออนสำหรับยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย” ในปี 2561
พ่นฆ่าเชื้อแทนยาปฏิชีวนะ
งานวิจัยของนาโนเทคเป็นการใช้ไอออนเข้ามาเป็นตัวช่วยให้สารมีความเสถียร ประสิทธิภาพคงที่ สามารถออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อได้รวดเร็วและเพิ่มประสิทธิภาพได้เป็นหลายเท่าตัว อีกทั้งสามารถต่อยอดไอออนจากธาตุอาหารเสริมสู่ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อในโรงเรือน ฟาร์มสัตว์และสัตว์ เพื่อต้านการอักเสบของเต้านมโค รวมไปถึงวัตถุดิบในอาหารสัตว์เพื่อทดแทนการใช้ยาปฏิชีวนะ
“ยูนิซิลจึงได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีพร้อมจดสิทธิบัตร เพื่อผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซิงค์ไอออนฆ่าเชื้อจุลินทรีย์และไวรัสจากธรรมชาติ ทั้งนี้ ซิงค์ไอออนสามารถเป็นตัวเลือกใหม่ทดแทนสารฟอร์มาลดีไฮด์ ในราคาต่ำกว่าผลิตภัณฑ์นำเข้า 30% ทำให้ได้รับทุนวิจัยจากโครงการวิจัยมุ่งเป้า (สเปียร์เฮด) จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในที่สุดก็พัฒนาออกมาเป็นนวัตกรรมที่สามารถนำไปฆ่าและป้องกันเชื้อไวรัสอหิวาต์สุกรอัฟริกัน ตอบโจทย์อุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกร”
ธนากร กล่าวเสริมว่า นาโนซิงค์ไอออนจากธรรมชาติ คือนวัตกรรมที่มีโอกาสทางการตลาดสูง ซึ่งใช้ในปศุสัตว์และได้ผลดี จึงได้ต่อยอดเทคโนโลยีสู่ภาคครัวเรือนใช้แทนเป็นยาฆ่าเชื้อแบบเข้มข้น สามารถทดแทนสารนำเข้าซึ่งมีราคาลิตรละ 4-8 พันบาท จะประหยัดต้นทุนได้เป็นจำนวนมาก
“เมื่อต้นปีที่ผ่านมาเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ยาฆ่าเชื้อที่มีคุณภาพจำนวนมาก เราจึงต่อยอดนวัตกรรมนาโนซิงค์ไอออนสู่ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย “เบนไซออน” (Benzion) มีอนุภาคขนาดเล็กระดับ 30 นาโนเมตร (เล็กกว่าตัวเชื้อไวรัส) ทำหน้าที่เหนี่ยวนำทำให้เกิดการเสียสภาพของผนังเยื่อหุ้มเซลล์และโปรตีน ทั้งยังเกิดสภาวะเสียสมดุลของเยื่อหุ้มเซลล์ เกิดช่องโหว่ ทำให้สารและอนุภาคเบนไซออนแทรกซึมเข้าภายในเซลล์ ส่งผลต่อระบบตัวเซลล์จุลินทรีย์ทำให้เกิดการตายได้”
ทั้งนี้ เบนไซออนยังมีสารลดแรงตึงผิว ผ่านผลการทดสอบความระคายเคืองต่อผิวหนังตามมาตรฐานเครื่องสำอางจากฝรั่งเศส ถือเป็นสารที่สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมหรืออีพีเอ (EPA) ได้ให้คำแนะนำว่ามีผลความระคายเคืองน้อยกว่าแอลกอฮอล์ 70% ทั้งสามารถฆ่าเชื้อโคโรนาไวรัสได้และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
บุกตลาด สร้างฐานเชื่อมั่น
ธนากร มีแผนการที่จะนำ “เบนไซออน” เข้าทำตลาดในเดือน ส.ค.2563 แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของไวรัส จึงขยับมาเริ่มจัดจำหน่ายตั้งแต่เดือน มี.ค.ก่อนประกาศใช้มาตรการชัตดาวน์ โดยตลาดเป้าหมายหลักจากเดิมที่เป็นโรงพยาบาล โรงแรม ที่พัก สปา สำนักงาน อุตสาหกรรมยานยนต์ หน่วยงานราชการ แต่เมื่อเกิดเหตุโควิด-19 กลุ่มเป้าหมายหลัก จึงเปลี่ยนเป็นภาคครัวเรือน สำนักงาน โรงงาน และตามมาด้วยโรงพยาบาล
เช่น เมื่อเร็วๆ นี้ สวทช.นำไปมอบให้กับจังหวัดกระบี่เพื่อใช้ในการฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียบนเรือยอร์ชของผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวกระบี่ หนุนสร้างความมั่นใจและปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวหลังคลายล็อกดาวน์
ส่วนช่องทางการจำหน่ายจะเน้นออนไลน์เป็นหลัก ส่วนตัวแทนจำหน่ายปัจจุบันมีแล้วกว่า 4 ราย เบื้องต้นมีการจัดจำหน่ายภายในประเทศ และส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้และยุโรป ส่วนรายได้ในปีนี้ตั้งเป้าไว้ประมาณ 50-100 ล้านบาท