‘อาลีบาบา คลาวด์’ เผย อะไรซ่อนอยู่ใน เมตาเวิร์ส
เมตาเวิร์ส (metaverse) คือ โลกแห่งความเป็นไปได้อันไม่มีที่สิ้นสุด ที่เราเคยเห็นได้จากนวนิยายทางวิทยาศาสตร์ วิธีง่ายที่สุดที่จะเข้าใจ เมตาเวิร์ส ได้ดี คือ ชมภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดยอดนิยม เช่น Avatar และ Ready, Player One
ในภาพยนตร์เหล่านี้ เมตาเวิร์ส คือ จักรวาลดิจิทัลสามมิติ ที่นักแสดงสามารถหลีกหนีจากความจริงทางกายภาพ สามารถมีส่วนร่วมกับผู้อื่นผ่านตัวตนจำลองในโลกเสมือนจริง (avatar: อวาตาร์) ของตนที่สร้างขึ้นมา และสามารถหาประสบการณ์จากทุกสิ่งที่ต้องการได้ โดยมีข้อจำกัดเพียงจินตนาการของมนุษย์และเทคโนโลยีเท่านั้น
นอกจาก เมตาเวิร์ส จะเป็นคู่แฝดดิจิทัลของความเป็นจริงในโลกทางกายภาพ ยังมีศักยภาพที่แท้จริงซ่อนอยู่ คือ ความสามารถใช้ความชาญฉลาดทางดิจิทัล ที่เราใช้ประโยชน์อยู่แล้วให้มีประสิทธิผลมากขึ้น มองเห็นแนวทางเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ
จัดการผลกระทบสภาพภูมิอากาศ
เมตาเวิร์ส ไม่เพียงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสร้างโลกเวอร์ชวลที่สมบูรณ์แบบเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องการนำเทคโนโลยีต่างๆ ไปใช้จัดการปัญหาเร่งด่วนมากมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น
การคาดการณ์ด้านต่างๆ จากรายงานของ Institute of Chartered Accountants in England and Wales และ British Chamber of Commerce Singapore แสดงให้เห็นว่า ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มีความสุ่มเสี่ยงมากที่สุดในโลก โดย 6 ใน 20 ประเทศทั่วโลกที่สุ่มเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศอยู่ในภูมิภาคนี้ คือ อินโดนีเซีย ไทย เมียนมา มาเลเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์
อุทกภัยคร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 250,000 ราย และสร้างความเสียหายมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2523 คิดเป็นประมาณ 40% ของความเสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ เบื้องต้นอาลีบาบา คลาวด์ สร้างแพลตฟอร์มนำข้อมูลที่มีอยู่ในปัจจุบันมาใช้คาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้น คาดการณ์สภาพอากาศช่วงสั้นๆ ช่วยรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่เกี่ยวกับสภาพอากาศได้
เทคโนโลยีที่ทำงานโดยการดึงภาพถ่ายดาวเทียมด้านอุตุนิยมวิทยาด้วยความแม่นยำสูงและในเวลาเรียลไทม์นี้ สามารถช่วยติดตามปริมาณน้ำฝน ความเร็วลม และสภาพอากาศที่รุนแรงต่าง ๆ เพื่อลดความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตรและปศุสัตว์ให้เหลือน้อยที่สุด ทั้งยังช่วยให้ผู้จัดส่งผลผลิตสามารถจัดเส้นทางการจัดส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แปลงความอัจฉริยะของ เมตาเวิร์ส
แต่หากเราสามารถแปลงความชาญฉลาดนี้ให้กลายเป็น เมตาเวิร์ส จะมีประโยชน์มหาศาล ผลกระทบอันเนื่องมาจากภัยที่เกิดจากสภาพอากาศต่างๆ เป็นเรื่องหนักหนาขึ้น การสร้างสถานที่ต่างๆ ที่จำลองโลกจริงแบบสามมิติ (3D) ช่วยให้เราเห็นภาพภัยพิบัติจริงที่จะเกิดขึ้นในแต่ละสถานที่ที่เราคุ้นเคย
ส่วนการสร้างสภาพแวดล้อมนั้น การใช้ประโยชน์จากความเข้าใจเชิงลึกที่จำลองมาด้วยความชาญฉลาดแบบเรียลไทม์ ช่วยสร้างโอกาสการผสมผสานการออกแบบที่ยั่งยืนได้ดีกว่า
การสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่สอดคล้องกับแผนการผลิตจริงผ่านเทคโนโลยี AR/VA และโฮโลแกรม (holographic) สามารถทรานส์ฟอร์มอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมการผลิตได้ โรงงานที่มีการนำเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อถึงกัน หรืออุปกรณ์อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ หรือไอโอที มาใช้ ช่วยผู้ผลิตสามารถจำลองการตั้งค่าการผลิตจริงในเมตาเวิร์สก่อนได้
เชาวน์ปัญญาที่เกิดในเมตาเวิร์สนี้ สามารถถ่ายโอนไปยังโลกแห่งความจริงได้ เพื่อนำไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพให้ AI algorithms, เพื่อสนับสนุนการทรานส์ฟอร์มที่ชาญฉลาด
เพิ่มสมรรถนะเมตาเวิร์สในอนาคต
การเพิ่มสมรรถนะให้เทคโนโลยีของ เมตาเวิร์ส ต้องใช้ความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีอย่างมาก จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเอไอ คลาวด์ และไอโอที ที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อสร้างแบบจำลองทางเรขาคณิตของสภาพแวดล้อมทางกายภาพ และแสดงผลผ่านอุปกรณ์ปลายทางที่หลากหลาย เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สมจริง
เทคโนโลยีอื่น เช่น การเรนเดอร์จากระยะไกล ซึ่งทำการสตรีมอินพุตแบบเสมือนไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ แบบเรียลไทม์ และระบบการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างโลกเสมือนให้ใกล้เคียงกับโลกทางกายภาพ และทำให้มั่นใจว่าผู้คนและวัตถุในโลกเสมือนเป็นไปตามหลักเกณฑ์ทางกายภาพที่อยู่ในโลกของความเป็นจริง
การสลายแนวแบ่งเขตของโลกเสมือนและโลกจริงให้หมดไป จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเออาร์ และวีอาร์เพื่อสร้างแผนที่สามมิติที่มีความแม่นยำสูง ในขณะเดียวกันก็มอบประสบการณ์ที่เป็นการเฉพาะให้ด้วย เช่น การบริการลูกค้าและการให้คำแนะนำแบบเสมือน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีต่าง ๆ เหล่านี้จะต้องทำงานร่วมกันเพื่อเชื่อมสองโลกเข้าด้วยกัน