‘อีริคสัน’ ชูคลื่น ‘3500เมก’ สปริงบอร์ด ‘5จี’ สู่ภาคธุรกิจ

นายอิกอร์ มอเรล ประธานบริษัท อีริคสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมาทำให้ความต้องการเข้าถึงเทคโนโลยีเชื่อมต่อมีปริมาณสูงขึ้น แม้ในภาพรวมของเศรษฐกิจจะฝืดเคือง กำลังซื้อผู้บริโภคลดน้อยลง อีริคสันต้องทำงานร่วมกับพันธมิตรทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิด

ลูกค้าของอีริคสัน คือ ผู้ให้เครือข่ายโทรคมนาคมอย่างเช่น บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) ก็คาดหวังจะขยายโครงข่าย 5จี ให้ได้ครอบคลุม 95% ของประเทศ ส่วนบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ก็ตั้งเป้าหมายขยายความครอบคลุมให้ได้ 90% ซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า การลงทุนภาคธุรกิจยังมีต่อเนื่อง เพื่อตอบรับความต้องการปริมาณการใช้งานบนเครือข่ายลูกค้า

 

อย่างไรก็ตาม อีริคสัน มองว่า การให้บริการ 5จี ในประเทศปี 2565 ย้ำให้เห็นว่าการเติบโตของ 5จี เป็นเจนเนอเรชั่นเครือข่ายไร้สายที่นำมาใช้งานรวดเร็วกว่าเทคโนโลยีมือถือรุ่นก่อนๆ ทั้งหมด

โดยเวลานี้ 1 ใน 4 ของประชากรโลกสามารถเข้าถึงเครือข่าย 5จี ได้ และเพียงช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 มีจำนวนการสมัครใช้บริการ 5จี เพิ่มขึ้นประมาณ 70 ล้านบัญชี ส่วนในประเทศไทยมองว่าในปี 2568 จำนวนผู้ใช้ 5จีจะคิดเป็น 40% ของจำนวนผู้ใช้งานรวมในไทย

“5จีไม่ได้หมายความถึงแค่การใช้สมาร์ทโฟนได้เร็วขึ้น แต่สิ่งที่จะมาดิสรัปชั่นเทคโนโลยี คือ การนำ 5จี เข้าไปสู่ระบบอุตสาหกรรมได้เกิดประสิทธิภาพ ตรงนี้สิ่งที่จำเป็น คือ คลื่นความถี่ อีริคสันมองว่าคลื่น 3500 เมกะเฮิรตซ์ที่ยังไม่ถูกจัดสรรจากรัฐบาล ควรนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพื่อคลื่น 3500 จะเป็นทางลัดให้ระบบอุตสาหกรรมไทยก้าวสู่ 5จีง่ายขึ้น”

ขณะที่ เทรนด์การให้บริการ 5จี ที่อยู่บนเครือข่ายอัจฉริยะในอนาคต ผู้ให้บริการต้องมองไปถึงการเชื่อมโลกเสมือนกับโลกความจริงเข้าด้วยกัน เพราะในอนาคต ไม่สามารถหลีกเลี่ยงเมตาเวิร์สที่จะมีการใช้งานเออาร์ วีอาร์ที่แพร่หลายมากขึ้น สิ่งที่อีริคสันให้ความสำคัญ คือ เครือข่ายต้องพร้อมใช้งานตลอดเวลา เชื่อถือได้ มีเสถียรภาพ มีความปลอดภัย และที่สำคัญคือมีความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน

อีริคสัน ยังได้จับมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ในฐานะพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner) ร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาอีโคซิสเต็มส์ของประเทศไทย

นายภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการ ดีป้า กล่าวว่า ภารกิจหลักดีป้า คือ การร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ในอุตสาหกรรม เพื่อทำแผนกลยุทธ์สำหรับยกระดับศักยภาพเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล พร้อมส่งเสริมนวัตกรรมที่สอดคล้องกับเป้าหมายของดีป้าในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพิ่มขีดความสามารถแข่งขันของประเทศ

"โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคม ด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารเหล่านี้ จะช่วยรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมที่เกิดขึ้นได้จากทั่วโลก"

ก่อนหน้านี้ อีริคสันและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ยังได้ลงนามร่วมกันในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ส่งมอบความรู้เทคโนโลยี 5จี ให้นักศึกษาไทย โดยนักศึกษาของ มจธ. จะได้รับสิทธิ์เข้าถึงแนวคิดการศึกษาของ ‘Ericsson Educate’ ด้วยหลักสูตรต่าง ๆ ที่เพิ่มพูนทักษะด้านไอซีทีและเตรียมพร้อมนักศึกษาสำหรับการไปทำงานในภาคโทรคมนาคม ตั้งเป้าสร้างบุคลากรภาคการศึกษา 2,000 คนภายในปีนี้

ล่าสุด อีริคสัน ยังได้จัดงาน Imagine Live Thailand 2022 แสดงนวัตกรรมโซลูชั่น พร้อมกรณีการใช้งานที่หลากหลาย เช่น โซลูชั่นการสื่อสารผ่านโฮโลแกรม เทคโนโลยีเกษตรกรรมอัจฉริยะในเมตาเวิร์ส นวัตกรรมสื่อสารที่ต้องการความแม่นยำสูง รวมถึงตัวอย่างความสำเร็จของธุรกิจที่ใช้ 5จี จากทั่วโลก

“โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคม เรายังคงเดินหน้าทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าแพลตฟอร์มเครือข่าย 5จีที่มีศักยภาพสูงในวันนี้นั้นพัฒนาไปสู่ยุค 6จีที่จะนำเสนอความสามารถใหม่ ๆ พร้อมมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า” นายอิกอร์ กล่าวทิ้งท้าย