‘บิสกิต โซลูชั่น’ เปิด 4 ข้อดี ‘ChatGPT’ คลื่นลูกใหม่แห่งโลกเทคโนโลยี
ChatGPT สุดยอด Generative AI ด้าน Text หรือ เชิงภาษาในรูปแบบแชตบอต กำลังปลุกกระแสร้อนบนโลกโซเชียลมีเดีย และกลายเป็นคลื่นลูกใหม่บนโลกเทคโนโลยีที่ถูกจับตามองและสร้างความตื่นตัวในแวดวงธุรกิจทั่วโลก...
สุทธิพันธุ์ สุทัศน์ ณ อยุธยา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บิสกิต โซลูชั่น (BIZCUIT Solution) จำกัด ผู้ให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีเอไอ เปิดมุมมองว่า ChatGPT กำลังจะกลายเป็นม้ามืดที่จะเข้ามา “ดิสรัป เสิร์ชเอนจิน” ไปสู่โฉมใหม่ จากเดิมที่ใช้การเสิร์ชด้วยเอไอซึ่งผู้ใช้งานต้องเข้าไปค้นหาข้อมูลด้วยตัวเอง และเลือกดูข้อมูลต่างๆ ที่เอไอนำมาให้โดยจะมีความก้าวล้ำกว่า ด้วยการเป็น “ซุปเปอร์เสิร์ชเอนจิน” ในรูปแบบการสนทนา โต้ตอบที่ชาญฉลาดมากขึ้น ซึ่งในโลกธุรกิจกำลังมองว่าอนาคตอันใกล้อาจได้เห็น SEO และ SEM ถูกดริสรัปในที่สุด
อย่างไรก็ดี การนำ Generative AI ที่ทรงประสิทธิภาพและเป็นเอไอที่สามารถหาคำตอบได้ทุกอย่าง (know it all) อย่าง ChatGPT มาใช้งานได้จริงในวงกว้างนั้น จำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานและทรัพยากรมหาศาลในการบำรุงรักษา
ปลุกยักษ์ 'Google-Meta' ร่วมวง
อย่างเช่น OpenAI เอง มีบริการให้นักพัฒนาหรือบริษัทนำโมเดลอย่าง GPT-3 ไปปรับแต่งเพื่อให้ใช้กับธุรกิจของตนเองได้ แต่ยังไม่ใช่ในขนาดของ ChatGPT แต่หากเปิดให้ใช้งานได้อย่างเต็มตัว อาจกลายเป็นคลื่นเทคโนโลยีลูกใหม่ที่จะเข้ามาดิสรัปชันโลกอีกครั้ง
เนื่องจากเป็นตัวกระตุ้นให้ยักษ์ใหญ่สายเอไอ เช่น กูเกิล หรือล่าสุดอย่าง Meta (Facebook) ต้องเร่งเข็นเทคโนโลยีที่แอบซุ่มทำไว้ออกสู่ตลาดเร็วขึ้น
ทั้งยังเกิดการแข่งขันของ Generative AI หรือ การที่เอไอสามารถสร้างเนื้อหามาตอบโต้กับมนุษย์ได้ด้วยตัวเองมากขึ้นกระทั่งนำไปสู่อัตราเร่งการพัฒนาและการนำโมเดล Deep Learning Language เพื่อใช้งานจริงในวงกว้างและรวดเร็วมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ จะได้เห็นเทรนด์ของ Generative AI แนวการสร้างรูปภาพ และแต่งภาพ แต่ปัจจุบัน ChatGPT นับเป็นตัวจุดกระแสให้เกิดความสนใจ Generative AI ด้านภาษาธรรมชาติ หรือ Natural Language ได้มากที่สุด
ขณะเดียวกัน Generative AI ด้าน Natural Language มีความสามารถ แต่งเพลง เขียนบทความ ครีเอทสโลแกน แต่งจดหมาย เขียนรายงาน เขียนการวิเคราะห์ ไปจนถึงขั้นเขียน Code โปรแกรมมิ่งสำหรับนักพัฒนาซอฟแวร์ได้ ซึ่งหากมองมุมกลับ นับเป็นข้อดีที่ช่วยให้งานหรือธุรกิจครีเอเตอร์ทำคอนเทนต์ได้รวดเร็วมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประหยัดเวลาในการทำงานพื้นฐาน
โดยสามารถนำเวลาที่มีค่าของมนุษย์ไปทำเรื่องที่ไม่ใช่ Ground work หรือ งานที่ต้องใช้เวลานำการทำซ้ำๆ เช่น การคิด Product description ของสินค้าบนร้านอีคอมเมิร์ซ ซึ่งมีประมาณ 700 รายการ จากที่ต้องนั่งเขียนทีละอัน หรือ ใช้แบบ Copy paste ธุรกิจสามารถใช้ ChatGPT ช่วยเขียนให้ภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที
สุทธิพันธุ์ บอกว่า เทคโนโลยี Deep Learning มีความลึกซึ้งกว่าเทคโนโลยีแมชีนเลิร์นนิง การเกิด ChatGPT จึงกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันด้านการพัฒนาเอไอ นำมาซึ่งเทรนด์ Deep Learning ที่มีราคาถูกลงและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทำให้เกิดเทคโนโลยี Analytics ที่ทรงศักยภาพและสามารถพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งมีประโยชน์มหาศาลกับธุรกิจยังไม่ 100% แต่ช่วยมนุษย์ประหยัดเวลา
ในมุม “บิสกิต โซลูชั่น” สามารถนำ ChatGPT มาใช้ประโยชน์และสร้างโอกาสให้กับโลกธุรกิจได้ 4 ด้านหลัก ๆ ดังนี้ 1. ธุรกิจ Software Development สามารถใช้สร้างโค้ดขึ้นพื้นฐาน ลดเวลาทำงานของ Software Engineer ลง
ขณะที่ 2. งานสาย Admin ที่ต้องคอยหาข้อมูลและทำรายงานส่งให้กับหัวหน้างาน สามารถทำตารางสรุปพร้อมเขียนเป็นรายงานออกมาได้ ทำให้ช่วยลดเวลาทำงานลงไปมาก 3. ธุรกิจโฆษณา หรือ สายการตลาดที่ต้องคอยคิดคอนเทนต์ หรือ Copy ขายสินค้า ใหม่ๆ ตลอดเวลา ช่วยตั้งต้นได้เร็วขึ้น มีตัวเลือกให้ต่อยอดได้มากขึ้น
สุดท้าย 4. สายงานวิจัย หรือ สายวิเคราะห์ที่ต้องเสียเวลาในการเสิร์ชหาข้อมูลแล้วเข้าไปดูตามเว็บไซต์ต่างๆ ทีละเว็บสามารถใช้งาน ChatGPT ช่วยหาคำตอบมาให้ได้เลย และผู้ใช้งานสามารถนำเวลาไปใช้ตรวจสอบข้อมูลที่เอไอส่งมาว่าถูกหรือไม่
นอกจากนี้ ยังมีความสามารถในการปรับปรุงสิ่งที่ผู้ใช้งานทำ เช่น การย่อบทความหรือรายงานที่ยาวเกินไป ให้ได้ใจความและความยาวตามที่ต้องการได้ ลดเวลาในการแก้ไข ซึ่งเดิมทีต้องใช้เวลานาน ตลอดจนช่วยคิดหาคำตอบให้กับลูกค้าบนโซเชีนลมีเดียก็ได้เช่นกัน
ที่ผ่านมา แม้ว่า ChatGPT จะมียูสเคสในเชิงธุรกิจจำนวนมาก ทว่าไม่ใช่ทุกสิ่งที่ ChatGPT ตอบหรือให้ข้อมูลจะถูกต้อง 100% เพราะท้ายที่สุดแล้ว การใช้ ChatGPT ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ยังควรต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ ในการนำไปต่อยอด แต่สิ่งที่มั่นใจได้คือ ChatGPT สามารถช่วยมนุษย์ประหยัดเวลาในการทำเรื่องพื้นฐานได้และการมาของเทคโนโลยีใหม่ๆ อาจไม่น่ากลัวอย่างที่คิด